มาแล้วผลสำรวจ 10 ประเทศห้ามพลาดและน่าไปเที่ยวในปี 2018 จากโลนลี แพลนเน็ต (Lonely Planet) เป็นตัวเลือกการท่องเที่ยวต่างประเทศดี ๆ สำหรับผู้ที่หลงใหลการเดินทาง เตรียมตัวไว้แล้วไปเช็กอินพร้อมกันในปี 2018
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะตระเวนเที่ยวให้รอบโลก แต่ยังไม่รู้ว่าจะปักหมุดไปเที่ยวที่ไหนดี ลองมาดูทางนี้ค่ะ โลนลี แพลนเน็ต (Lonely Planet) สำนักพิมพ์ท่องเที่ยวชื่อดัง และมีนักเขียนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกได้เปิดเผยรายชื่อ 10 ประเทศที่ควรค่าแก่การไปเยือนในปี 2018 มาให้แล้ว ซึ่งเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรม จากประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวตัวยง ไปดูสิว่าเขาแนะนำให้ไปเที่ยวที่ไหนดีในปี 2018 ^^
1. ประเทศชิลี
เที่ยวต่างประเทศ 2018
ประเทศชิลี ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ เป็นประเทศที่มีภูมิประเทศที่โดดเด่นมาก ๆ เพราะทางด้านตะวันตกของประเทศนั้นก็ทอดยาวขนานไปกับมหาสมุทรแปซิฟิก โดยที่ทางตะวันออกก็ขนานไปกับเทือกเขาแอนดีส จึงทำให้ประเทศชิลีเป็นประเทศที่มีธรรมชาติหลากหลายแบบ อีกทั้งยังเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมโบราณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของชิลีก็คือ เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) ในตำนานโมไอ
นอกจากนี้ชิลีก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ เมืองซานเตียโก (Santiago), เมืองบัลปาราอีโซ (Valparaiso), San Rafael Glacier, Valle de la Luna, Torres del Paine National Park, Pucon, Lauca National Park เป็นต้น
2. ประเทศเกาหลีใต้
เที่ยวต่างประเทศ 2018
ประเทศเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ มากมายแล้ว ก็ยังมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมหรือวัฒนธรรมสมัยใหม่ก็ล้วนแต่มีเสน่ห์ เมื่อผนวกกับลักษณะของภูมิประเทศสวย ๆ และภูมิอากาศที่ดีตลอดทั้งปี ก็ทำให้ประเทศแห่งนี้กลายเป็นประเทศที่น่าหลงใหลไปได้อย่างง่ายดาย ใครอยากเที่ยวธรรมชาติก็มีทั้งป่าเขาและท้องทะเลให้ไปสัมผัส หรือถ้าอยากเรียนรู้วัฒนธรรมโบราณก็สามารถไปเยี่ยมชมพระราชวังเก่าแก่ได้ง่าย ๆ ในกรุงโซล หรือถ้าอยากเป็นนักท่องเที่ยวสายฮิปสเตอร์ ตอนนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวเก๋ ๆ เกิดมากมาย รวมทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟบรรยากาศดีหลากหลายแบบที่จะทำให้คุณหลงรักเกาหลีใต้แบบถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะ
อีกทั้งในปี 2018 นี้ ประเทศเกาหลีใต้ก็จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่เมืองพย็องชัง (Pyeongchang) มันก็ดูจะคุ้มค่านะที่จะได้ทั้งเที่ยวและไปชมการแข่งขันระดับโลก ^^ สถานที่ท่องเที่ยวเกาลีใต้ที่น่าสนใจ อาทิ Gyeongbokgung Palace, Namiseom Island, N Seoul Tower, Bukchon Hanok Village, Myeong-dong, Insa-dong, Banpo Bridge Rainbow Fountain, Jeju Island, Bukhansan National Park, Gamcheon Culture Village เป็นต้น
3. ประเทศโปรตุเกส
เที่ยวต่างประเทศ 2018
ภาพจาก S-F / Shutterstock.com
ด้วยความที่ประเทศโปรตุเกสตั้งอยู่ปลายสุดทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนหลงลืมที่จะไปค้นหาความงดงามที่ซ่อนอยู่ที่นี่ ซึ่งถ้าคุณได้ลองข้ามผ่านประเทศสเปนก้าวเข้ามาเยือนยังโปรตุเกสสักครั้ง คุณจะต้องหลงใหลประเทศที่อยู่ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือแห่งนี้อย่างแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าธรรมชาติก็สวยไม่แพ้ที่ไหน มีรากเหง้าของวัฒนธรรมที่โดดเด่นซึ่งหลงเหลือและตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
มีแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ไปค้นหาหลากหลายแบบไม่รู้เบื่อ มันคงจะดีไม่น้อยใช่ไหมล่ะที่คุณจะได้ไปเดินเที่ยวชมบ้านเมืองเก่าแก่กับบรรยากาศเงียบสงบ ได้ลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ จากเชฟฝีมือระดับโลก ได้นอนชมวิวท้องทะเลสีฟ้าครามสดใส แบบนี้ไม่รักไม่ได้แล้ว ที่เที่ยวโปรตุเกสที่ห้ามพลาด อาทิ Jeronimos Monastery, The Palacio Nacional de Sintra, Bom Jesus do Monte, University of Coimbra, Calouste Gulbenkian Museum, Belem Tower, St George’s Castle, Quinta da Regaleira, International Douro Natural Park, Rossio Square, เป็นต้น
4. ประเทศจิบูตี
เที่ยวต่างประเทศ 2018
หลายคนคงจะต้องร้องถามแน่นอนว่าโลกนี้มีประเทศที่ชื่อจิบูตี (Djibouti) ด้วยหรือ ? สำหรับประเทศจิบูตี เป็นประเทศเล็ก ๆ ในทวีปแอฟริกา มีเนื้อที่เพียงแค่ประมาณ 23,200 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ทางด้านตะวันตกติดกับประเทศเอธิโอเปีย ส่วนทางตะวันออกจะติดกับอ่าวเอเดนและทะเลแดง
หากเรามองจากแผนที่ดาวเทียมจะเห็นว่าประเทศนี้เป็นประเทศที่แห้งแล้งและมีแต่ทะเลทราย ดูแล้วแทบไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วมันก็สวยงามใช่ย่อยเลยล่ะ เป็นภูมิประเทศที่หาดูได้ยากและแปลกใหม่ คุณจะได้พบกับความมหัศจรรย์ของผลึกเกลือกว้างใหญ่ในทะเลสาบสีฟ้าครามที่ Lac Assal ได้ขับรถตะลุยทะเลทรายกว้างใหญ่ไปตามแสงตะวันที่สุดขอบฟ้า ได้พบกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่ Lac Abbe กับปรากฏการณ์หินปูนที่ถูกกัดเซาะจนมีรูปร่างสวยงามแปลกตา นอกจากนี้ยังมีท้องทะเลที่สวยงามบาดใจให้ไปสัมผัสอีกด้วย
5. ประเทศนิวซีแลนด์
เที่ยวต่างประเทศ 2018
ถึงแม้ว่าประเทศนิวซีแลนด์จะตั้งอยู่ไกลสุดในกลางมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ แต่นักเดินทางจากทั่วโลกก็ยังต้องการที่จะไปเยี่ยมเยือนและทำความรู้จักกับประเทศแห่งนี้ ด้วยนิวซีแลนด์มีภูมิประเทศที่สวยงาม ครบถ้วนไปด้วยธรรมชาติหลากหลายแบบ ผู้คนมาจากหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
ในประเทศแห่งนี้คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับแนวภูเขาไฟกว้างใหญ่ แผ่นธารน้ำแข็งขนาดมหึมา ทะเลสาบสีฟ้าผืนใหญ่น้ำใสสวยปิ๊ง ชายหาดสีขาวที่ทอดยาวไปกับท้องทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา โลกใต้ทะเลเต็มไปด้วยปะการังหลากสีสันพร้อมทั้งสัตว์ทะเลละลานตา เส้นทางเดินป่า Great Walk 9 เส้นทางอันน่าค้นหา บ้านเมืองเก่าแก่และวัฒนธรรมโบราณของคนพื้นเมือง อาหารสุดอร่อยในหลากหลายเชื้อชาติ และสิ่งมหัศจรรย์มากมายที่รอคุณอยู่ที่นี่ สถานที่ท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ห้ามพลาด อาทิ Queenstown, Auckland, Lake Taupo and Tongariro National Park, Fox and Franz Josef Glaciers, Coromandel Peninsula, Wai-o-tapu, Milford Sound, Lake Tekapo เป็นต้น
6. ประเทศมอลตา
เที่ยวต่างประเทศ 2018
ประเทศมอลตา (Malta) ประเทศที่นักเดินทางตัวยงกล่าวว่าเป็นเพชรเม็ดงามของยุโรป หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูหรือแทบไม่รู้จักกับประเทศแห่งนี้เลย เพราะมอลตาเป็นประเทศเล็ก ๆ มีพื้นที่แค่เพียง 316 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น (เล็กกว่าเกาะช้าง จังหวัดตราด) และยังตั้งอยู่กลางทะเลสาบเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้มันเหมือนกับเป็นเพียงเกาะเกาะหนึ่งในผืนทะเลกว้างใหญ่
ถึงแม้ว่ามอลตาจะเล็กแต่ก็เป็นเล็กพริกขี้หนู เพราะที่นี่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่คุณจะหาได้ยากในยุโรป บ้านเรือนเก่าแก่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลอย่างโดดเด่น โดยที่เบื้องหน้านั้นมีเรือยอชท์มากมายลอยลำอยู่ในทะเล ผสมผสานความเก่าและใหม่ให้เข้ากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หรือจะเป็นบลูลากูนสีฟ้าครามราวกับคริสตัลที่ดึงให้คุณดำดิ่งสู่ห้วงท้องทะเลจนแทบไม่อยากกลับบ้าน อีกทั้งยังมีหมู่บ้านป๊อปอายที่รอต้อนรับและพาคุณกลับไปสู่วัยเด็กได้ในพริบตา มอลตายังมีความน่าพิสมัยอีกมากมายที่ถ้าคุณได้หลงเข้ามาแล้วจะไม่มีวันบอกเลิกรักดินแดนแห่งนี้ได้เลย
7. ประะเทศจอร์เจีย
เที่ยวต่างประเทศ 2018
ประะเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทะเลดำในภูมิภาคคอเคซัส ซึ่งทางเหนือนั้นจะติดกับประเทศรัสเซีย ทางใต้ติดกับประเทศตุรกี ประเทศอาร์มีเนีย และประเทศอาเซอร์ไบจาน ซึ่งแน่นอนว่าประเทศแห่งนี้ต้องมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ผ่านร้อนผ่านหนาวด้านสงครามและความขัดแย้งทางการเมืองมาอย่างโชกโชน ในอดีตการที่นักท่องเที่ยวคนหนึ่งจะเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวที่นี่จึงดูเป็นเรื่องบ้าไปสักเล็กน้อย แต่ปัจจุบันจอร์เจียเป็นประเทศที่มากล้นด้วยเสน่ห์
ในความไม่มีอะไร แต่ก็ได้ซ่อนอะไรไว้มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือธรรมชาติและวัฒนธรรมที่งดงาม บ้านเรือนและอาคารสมัยดั้งเดิมยังคงตั้งตระหง่านคู่กับจอร์เจียมาหลายพันปี บางแห่งยังตั้งโดดเด่นอยู่กลางหุบเขาสีเขียว ราวกับสถานที่ในฝันเลยล่ะ สถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจียที่น่าสนใจ อาทิ Tbilisi, Narikala Fortress, Mount Kazbek, Uplistsikhe, Gergeti Trinity Church, Mtskheta, Batumi, Vardzia เป็นต้น
8. ประเทศมอริเชียส
เที่ยวต่างประเทศ 2018
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ชื่อของประเทศมอริเชียสได้กลายมาเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวเอเชียและคนไทยมากยิ่งขึ้น เพราะมีสายการบินโลว์คอสต์ได้เปิดเส้นทางบินใหม่ไปเยือนยังเกาะสวรรค์กลางมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้ อีกทั้งคนไทยยังไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า สามารถขอ Visa on Arrival ได้เลยที่สนามบินมอริเชียส
แน่นอนว่ามอรีเชียสจะต้องมีท้องทะเลที่สวยงามราวกับสวรรค์ เพราะมันตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากเกาะมาดากัสการ์ (Madagascar) ไปทางทิศตะวันออกราว ๆ 890 กิโลเมตร และยังเป็นเกาะที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล จึงทำให้ธรรมชาติต่าง ๆ บนเกาะสวยงามแปลกตา มีแหล่งท่องเที่ยวสุดอัศจรรย์มากมาย อาทิ Chamarel waterfall, Seven Coloured Earths, Notre Dame Auxiliatrice Church, Les Trois Mamelles mountain เป็นต้น
9. ประเทศจีน
เที่ยวต่างประเทศ 2018
แต่ก่อนนั้นเรามักจะคุ้นเคยกับภาพของนักท่องเที่ยวสูงวัยที่ไปเยี่ยมเยือนจีน เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าคนจีนนั้นได้แพร่กระจายไปอยู่ทั่วโลก การได้เดินทางกลับไปเยี่ยมเยือนแผ่นดินเกิดสักครั้งจึงได้รับความนิยมจากผู้สูงวัยค่อนข้างมาก แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป จีนเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น ที่นี่จึงไม่ใช่เพียงแค่สถานที่พบปะสังสรรค์ของญาติมิตรเท่านั้น แต่มันได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางทุกเพศทุกวัยจากทั่วโลก
จีนได้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีเมืองที่กำลังพัฒนาเกิดขึ้นมากมาย แม้แต่เซี่ยงไฮ้ที่ว่าเจริญมาก ๆ แล้ว ก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาและก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่า นั่นยังรวมไปถึงระบบการขนส่งสุดทันสมัยอย่างรถไฟความเร็วสูง (China High Speed Rail) ซึ่งมีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เพิ่งเปิดตัวการใช้งานเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้จีนยังมีธรรมชาติและวัฒนธรรมสุดยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่อีกมากมาย มีแหล่งท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณอึ้ง ทึ่ง ตื่นตาตื่นใจอีกนับไม่ถ้วน ไปครั้งเดียวไม่พอจริง ๆ
10. ประเทศแอฟริกาใต้
เที่ยวต่างประเทศ 2018
บางคนอาจจะรู้จักประเทศนี้ผ่านการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 เพราะผู้ที่คว้าตำแหน่งนี้ไปครองก็คือสาวงามจากแอฟริกาใต้นั่นเอง แต่สำหรับนักเดินทางแล้วประเทศแอฟริกาใต้ถือได้ว่าอยู่ในใจของพวกเขามายาวนานแล้ว เพราะเป็นประเทศที่งดงามทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม เป็นแหล่งรวมความหลากหลายของผู้คน และยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทวีปแอฟริกาและทวีปอื่น ๆ เมืองหลวงอย่างเคปทาวน์ (Cape Town) ก็ติดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกมาหลายโพลหลายปี
นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าที่นี่คือความลงตัวของมนุษย์ทั้งผิวสีและผิวขาว อันเกิดจากการขัดเกลาโดยธรรมชาติแวดล้อมและวัฒนธรรมดั้งเดิมของแอฟริกาใต้ และนั่นก็เป็นคำตอบว่าทำไมคุณจึงควรไปเยือนแอฟริกาใต้ในปี 2018 ที่เที่ยวแอฟริกาใต้ยอดนิยม อาทิ Cape Town, Johannesburg, Stellenbosch, The Drakensberg, The Garden Route, Blyde River Canyon Nature Reserve, Cage Dive with Great White Sharks, Kruger National Park, Robben Island, Soweto เป็นต้น
เห็นรายชื่อทั้ง 10 ประเทศแล้ว ก็สวยสมกับเป็นประเทศที่น่าไปเยือนในปี 2018 จริง ๆ ค่ะ บางประเทศที่เราแทบไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนในชีวิต มันก็สวยงามเหลือเชื่อเลยทีเดียว และยังเป็นแนวทางใหม่ ๆ ให้กับนักเดินทางอีกด้วย ใครที่ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน ก็เตรียมตัวได้เลยนะคะ ส่วนแอดมินขอไปดูเงินในบัญชีก่อน ฮ่า ๆ ๆ 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
lonelyplanet.com, apecthai.org, thaiembassy.org, english.visitkorea.or.kr, apecthai.org, sameaf.mfa.go.th, newzealand.com, apecthai.org, mauritius365.mu, tourism-mauritius.mu, country.southafrica.net
