ประเทศสิงคโปร์

ในศตวรรษที่ 14 สิงคโปร์ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรศรีวิชัย (Sri Vijayan Empire) และรู้จักกันในชื่อของเทมาเซ็ค (เมืองแห่งทะเล) สิงคโปร์ตั้งอยู่ตรงปลายแหลมมลายู ซึ่งเป็นจุดนัดพบทางธรรมชาติของเส้นทางเดินเรือ เกาะแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดแวะพักของเรือเดินสมุทรหลายประเภท ตั้งแต่เรือสำเภาจีน เรืออินเดีย เรือใบอาหรับ และเรือรบของโปรตุเกส ไปจนถึงเรือใบบูจินีส ในศตวรรษที่ 14 เกาะที่มีขนาดเล็กแต่มีทำเลที่เยี่ยมแห่งนี้ก็ได้ชื่อใหม่ นั่นก็คือ “สิงหปุระ” (“เมืองสิงโต”) ตามตำนานเล่าว่า เจ้าชายแห่งศรีวิชัยมองเห็นสัตว์ตัวหนึ่งแต่เข้าใจผิดว่าเป็นสิงโต ชื่ออันปัจจุบันของสิงคโปร์ก็ถือกำเนิดขึ้น ชาวอังกฤษคือผู้สร้างประวัติศาสตร์ตอนต่อมาของสิงคโปร์ ระหว่างศตวรรษที่ 18 นั้น อังกฤษเล็งเห็นถึงความสำคัญของ “จุดแวะพัก” ทางยุทธศาสตร์ สำหรับซ่อม เติมเสบียง และคุ้มกันกองทัพเรือของอาณาจักรที่เติบใหญ่ของตน รวมถึงเพื่อขัดขวางการรุกคืบของชาวฮอลแลนด์ในภูมิภาคนี้ ตรงกันข้ามกับเบื้องหลังทางการเมืองที่กล่าวมา เซอร์สแตมฟอร์ด แรฟเฟิล กลับตั้งสิงคโปร์ให้เป็นสถานีการค้า นโยบายการค้าเสรีดึงดูดพ่อค้าจากทั่วทุกส่วนของเอเชียและจากที่ห่างไกลออกไป เช่น สหรัฐอเมริกาและตะวันออกกลาง ในปี ค.ศ.1824 เพียงแค่ห้าปีหลังจากตั้งประเทศสิงคโปร์ในปัจจุบัน ประชากรก็เพิ่มขึ้นจากเดิมเพียง 150 คนจนกลายเป็น 10,000 คน ในปี 1832 สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลางรัฐบาลของถิ่นฐานช่องแคบปีนัง มะละกา และสิงคโปร์ การเปิดคลองซุเอซในปี 1869 และการเข้ามาของเครื่องโทรเลขและเรือกลไฟทำให้ความสำคัญของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่กำลังขยายตัวระหว่างโลกตะวันตกและตะวันออก สิงคโปร์เคยเป็นที่ทำสงครามในศตวรรษที่ 14 เมื่อเข้าเกี่ยวพันกับการแย่งชิงแหลมมลายูระหว่างประเทศสยาม (ไทย) กับจักรวรรดิมัชปาหิตบนเกาะชวา
อีกห้าศตวรรษถัดมา ที่นี่ก็เกิดสงครามครั้งสำคัญขึ้นอีกครั้งในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เคยถือกันว่าสิงคโปร์เป็นป้อมปราการที่ไม่มีวันแตก แต่แล้วกองทัพญี่ปุ่นก็สามารถยึดครองเกาะแห่งนี้ได้ในปี 1942 หลังสงคราม สิงคโปร์ก็กลายเป็นอาณานิคมของอังกฤษ การเติบโตของลัทธิชาตินิยมทำให้สิงคโปร์มีรัฐบาลปกครองตนเองในปี 1959 แล้ววันที่ 9 สิงหาคม 1965 สิงคโปร์ก็กลายเป็นสาธารณรัฐอิสระ

 

เตรียมตัวไปสิงคโปร์ เรื่องที่ควรรู้ก่อนไปสิงคโปร์

VISA – PasssportVISA – Passsport

singapore_guide_2

คนไทยสามารถเข้าประเทศสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องใช้ VISA และสามารถอยู่ในสิงคโปร์ได้สูงสุด 30 วัน ถ้าหากต้องการอยู่นานกว่านั้นต้องทำ VISA
ในการเข้าประเทศสิงคโปร์ต้องใช้ หนังสือเดินทาง (Passport) และหนังสือเดินทางจะเป็นต้องมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน หากมีอายุน้อยกว่านั้นทางสายการบินอาจปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง
โดยปกติแล้วสิงคโปร์เป็นประเทศที่คนไทยเดินทางเข้าง่าย ตม.สิงคโปร์ ไม่ค่อยจะถามอะไรมาก แต่เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้พกแผนการเดินทาง ตั๋วเครื่องบินขากลับ ใบจองโรงแรม เงินสด-บัตรเครดิตที่เพียงพอกับจำนวนวันที่ไปเที่ยว เผื่อเจ้าหน้าที่ ตม. สิงคโปร์ขอเรียกดู

 

สกุลเงิน

singapore_guide_3

ประเทศสิงคโปร์ใช้สกุลเงินดอลล่าร์สิงคโปร์ (SGD) ตัวย่อ : $ อัตราแลกเปลี่ยน 1 SGD เท่ากับ 25-26 บาท
หน่วยย่อยของดอลล่าร์สิงคโปร์คือหน่วยเซนต์ (Cent) 100 Cent = 1 SGD

เงิน (เหรียญ) ที่ใช้กันบ่อย 5, 10, 20, 50 cents, $1

ธนบัตร ที่ใช้กันบ่อย $2, $5, $10, $50, $100 & $1000

 

ไฟฟ้า

singapore_guide_4

ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 230V / 50Hz สามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจากบ้านเราได้ เพียงแต่ว่ารูปลั๊กไฟของสิงคโปร์จะเป็นปลั๊ก 3 ขา รูเหลี่ยมแบบประเทศอังกฤษ จำเป็นต้องมีตัว Adaptor แปลงรูปลั๊ก ถึงจะเสียบใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าของเราได้

 

น้ำดื่ม

singapore_guide_5

สามารถดื่มจากก๊อกได้เลย แต่คนไทยมักจะไม่คุ้นเคย นิยมซื้อน้ำดื่มขวดมากกว่า น้ำดื่มขวดขนาดเล็ก 500-600 ml ที่บ้านเราขาย 7 บาท ที่สิงคโปร์ราคาประมาณ 1-2 SGD ถ้าอยากประหยัดให้ซื้อน้ำขวด 1.5 ลิตรแล้วมาแบ่งบรรจุลงในขวดเล็กแล้วพกติดตัว

 

กฎหมาย

singapore_guide_6

ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีกฎหมายเข้มงวดมาก เป็นเมืองแห่งค่าปรับ การสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ทิ้งขยะในที่สาธารณะ ถึงแม้จะดูเป็นความผิดเล็กน้อย แต่ก็มีโทษปรับสูงถึง 200 – 1,000 SGD การไปเที่ยวสิงคโปร์ควรปฏิบัติตามกฎของเค้า

 

ฤดูกาล

มีอากาศเพียง 2 ฤดูเท่านั้น ฤดูร้อน และ ฤดูฝน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – ตุลาคมจะเป็นฤดูร้อน ส่วน เดือนพฤศจิกายน – มกราคมจะเป็นฤดูฝน เดือนที่มีฝนตกน้อยจะเป็นเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม แต่อย่างไรก็ตามในฤดูร้อนก็ยังมีฝนตกอยู่บ่อยๆ ควรเตรียมร่ม เสื้อกันฝนติดตัวไว้ตลอดเวลาไปเที่ยวสิงคโปร์

อุณหภูมิเฉลี่ยในตอนกลางวันประมาณ 30-32 องศา อากาศร้อนชื้นแบบกรุงเทพฯ ถ้าเดินตามท้องถนนอาจจะดูเหมือนว่าเย็น ร่มรื่นกว่ากรุงเทพฯ เพราะสิงคโปร์มีต้นไม้ค่อนข้างเยอะ

 

เวลา

สิงคโปร์ใช้ Time zone GMT +8 เวลาจะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง

 

ภาษา

singapore_guide_7

ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ ป้ายบอกทาง รถไฟฟ้า สถานที่ต่างๆ จะใช้ภาษาอังกฤษ จีนเป็นหลัก และอาจจะมีภาษาฮินดีปนอยู่ในย่านที่มีคนแขกอยู่เยอะ คนสิงคโปร์ส่วนใหญ่จะพูดได้ 2 ภาษาได้แก่ภาษาอังกฤษ และ จีนกลาง (Mandarin) บางคนที่ติดต่อค้าขายก็สามารถพูดภาษามาเลย์ได้อีกด้วย สำเนียงภาษาอังกฤษของคนสิงคโปร์จะมีเอกลักษณ์ไม่มีเหมือนใครเป็นภาษาอังกฤษที่มีสำเนียงคล้ายภาษาจีน บางคนก็เรียกสำเนียงนี้ว่า Singlish (Singapore + English)

 

เชื้อชาติ และ ศาสนา

มีศาสนาหลักอยู่ 3 ศาสนา นับถือพุทธ 33.3% คริสต์เตียน 18.3% และ อิสลาม 14.7%

 

การแต่งกาย

singapore_guide_8

สิงคโปร์เป็นประเทศในเขตร้อนชื้น อากาศใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ มาก สามารถแต่งตัวได้ตามสบายเหมือนอยู่บ้านเรา วัยรุ่นส่วนมากจะใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น หรือ กางเกงยีนส์ สำรับผู้หญิงอาจจะใส่เป็นชุดแซก กระโปรง กางเกงขาสั้น หรือสายเดี่ยวก็ได้ตามสะดวก

 

การข้ามถนน

singapore_guide_9

จะข้ามถนนก็ต่อเมื่อมีไฟเขียวสำหรับเดินข้าม หรือใช้ทางเดินใต้ดินทะลุไปยังฝั่งตรงข้าม ห้ามข้ามถนนในขณะที่ไฟเดินข้ามเป็นสีแดงเพราะอาจจะถูกรถเฉี่ยวชนได้

 

การเดินทางในประเทศ

singapore_guide_10

มีรถไฟฟ้าครอบคลุมเส้นทางเกือบทั้งประเทศ แบ่งเป็นรถไฟฟ้า MRT 5 สาย ได้แก่ North South Line, the East West Line, the Circle Line ให้บริการโดย SMRT Trains (SMRT Corporation) และ North East Line, Downtown Line ให้บริการโดย SBS Transit นอกจากนี้ยังมี LRT, รถประจำทาง (Bus) และรถ Taxi นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า รถประจำทางในสิงคโปร์ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และราคาไม่แพง

 

สายการบิน

มีหลายสายการบินที่ให้บริการบินตรงจากประเทศไทยไปยังสิงคโปร์ ตั้งแต่สายการบิน Low cost ไปจนถึง Full service

Air Asia สายการบิน Low cost ยอดนิยมมีตั๋วราคาประหยัดไปสิงคโปร์เกือบตลอดทั้งปี มีเที่ยวบินเยอะ ราคาเริ่มต้นที่คนละประมาณ 3,700 บาท (ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ ไม่โหลดสัมภาระ ไม่เลือกที่นั่ง ไม่ทานอาหารบนเครื่อง)

 

Jet star สายการบิน Low cost ราคาไม่แพง มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ – สิงคโปร์ วันละ 5 เที่ยวบิน ราคาเริ่มต้นที่คนละประมาณ 4,000 บาท (ไม่โหลดสัมภาระ)

 

Tigerair สายการบิน Low cost มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ – สิงคโปร์ วันละ 5 เที่ยวบิน ราคาเริ่มต้นที่คนละประมาณ 4,000 บาท ต้นๆ (ไม่โหลดสัมภาระ)

 

Cathay pacific สายการบิน Full service มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ – สิงคโปร์ วันละ 1 เที่ยวบิน เวลาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ไปเที่ยง – กลับบ่ายแต่มีดีที่โหลดกระเป๋าได้ มีข้าวทานบนเครื่อง ที่นั่งมี PTV นั่งสบาย ราคาเริ่มต้นที่คนละประมาณ 7,600 บาท ต้นๆ

 

Singapore Airlines สายการบิน Full service หนึ่งในสายการบินที่ดีที่สุดของโลก มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ – สิงคโปร์ วันละ 3 เที่ยวบิน ราคาเริ่มต้นที่คนละประมาณ 8,500 บาท ต้นๆ

 

การบินไทย สายการบินสัญชาติไทย Full service มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ – สิงคโปร์ วันละ 3 เที่ยวบิน ราคาเริ่มต้นที่คนละประมาณ 9,800 บาท ต้นๆ

 

ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 230V / 50Hz สามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจากบ้านเราได้ เพียงแต่ว่ารูปลั๊กไฟของสิงคโปร์จะเป็นปลั๊ก 3 ขา รูเหลี่ยมแบบประเทศอังกฤษ จำเป็นต้องมีตัว Adaptor แปลงรูปลั๊ก ถึงจะเสียบใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าของเราได้

บทความอื่นๆ