_storage_app_media_jor-st6d3n-rj-2

ทัวร์จอร์แดน SUMMER TIME IN JORDAN 6 DAYS 3 NIGHTS (RJ)

ราคาเริ่มต้น 64,988 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: RJ

นำท่าน ชมรอบเมืองหลวงกรุงอัมมาน เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา7ลูกและมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปีผ่านชมย่านเมืองเก่า,เมืองใหม่,ย่านธุรกิจ,ตลาดใจกลางเมือง,ย่านคนรวย ฯลฯ
ชมป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (CITDAEL) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่างๆรอบเมืองเชิญอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็น โรละครโรมัน ROMANSTHEATER ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดนจุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงอันแปลกตายิ่งนักที่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 ในสมัยโรมัน พระราชวังเก่าอุมเมยาด สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิม ของราชวงศ์ ในสมัยมุสลิมได้เข้ามาปกครองประเทศจอร์แดนซึ่งภายในประกอบห้องทำงาน, ห้องรับแขกฯลฯ

วันที่เดินทาง

กรกฎาคม 66 – พฤศจิกายน 66

ทัวร์จอร์แดน
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ BKK – AMM อัมมาน ควีน อาเลีย (-/-/-)

21.30 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ประเทศ ชั้น 4
เคาน์เตอร์ สายการบิน ROYAL JORDANIAN เที่ยวบินที่ RJ 183
พบกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่สอง อัมมาน – เมืองมาดาบา – MOUNT NEBO – ทะเลทรายวาดิรัม “”WADI RUM – JEEP TOUR SAFARI (B/L/D)
00.25 น.ออกเดินทาง สู่ เมืองอัมมาน (AMM) โดยสายการบิน ROYAL JORDANIAN เที่ยวบินที่ RJ 183
05.10 น.เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ (AMM อัมมาน ควีน อาเลีย QUEEN ALIA)
ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน ใช้เวลาในการเดินทาง 9 ชั่วโมง
จะมีเจ้าหน้าที่ด้าน VISA มาคอยอำนวยความสะดวกแก่คณะทัวร์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศจอร์แดน หรือ ราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนศูนย์กลางแห่งตะวันออกกลางที่มีการผสมผสานความเก่าแก่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว รับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ออกจากประตูไป ทางด้านซ้ายมือ ท่านสามารถแลกเงิน,ซื้อSIM INTERNET ได้เลย
ราคาขึ้นอยู่กับ GB
-INTERNET BUNDLE 6GB = 17 USD , 12GB = 19 USD , 18GB = 22 USD
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองมาดาบา (ประมาณ 30 กิโลเมตร) อดีตเส้นทางสำคัญสมัยโรมัน ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเล็ม และเมืองแห่งเรื่องราวของโมเสสที่สำคัญทางหน้าประวัติศาสตร์ของศาสนายูดา, คริสต์ และอิสลาม ยังเป็นศูนย์กลางที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำโมเสก เป็นศิลปะการตกแต่งด้วยชิ้นแก้ว, หิน, หรือกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ซึ่งใช้ในการตกแต่งมหาวิหาร หรือในปัจจุบันใช้ประยุกต์ในการตกแต่งบ้านเรือนหรือ เมืองแห่งโมเสก

ชมโบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ ถูกสร้างในราวปี ค.ศ. 600 ยุคของไบแซนไทน์ ชมภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์แห่งเยรูซาเลม ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2.3 ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเลม, แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เขาไซนาย, อียิปต์ ฯลฯ

นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาเมาท์เนโบ MOUNT NEBO มีความสูง 817 เมตร จากระดับน้ำทะเล เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวส์ที่เดินทางจากอิยิปต์มายังเยรูซาเลม และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจอร์แดน ที่แห่งนี้เป็นสถานที่สุดท้ายของโมเสส ก่อนจะชี้ทางให้ผู้สืบทอดนำพาผู้คนไปยังดินแดนพันธสัญญา ในประเทศอิสราเอลปัจจุบัน เมื่อยืนอยู่บนยอดเขาจะมองไปเห็นดินแดนแห่งพันธะสัญญา THE PROMISED LAND ที่โมเสสเคยเห็นบนยอดเขานี้ และเป็นที่จาริกแสวงบุญของชาวคริสต์มาแต่โบราณ และโบสถ์บนยอดเขาได้ถูกสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่สี่เพื่อเป็นการบ่งชี้จุดที่คาดว่าโมเสสเสียชีวิต MOUNT NEBOยังเคยเป็นสถานที่มาเยือนของสันตะปาปา ของศาสนาคริสต์ โดยสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้มาแวะพำนักที่นี่ ระหว่างการเดินทางไปเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้ปลูกต้นมะกอก สัญลักษณ์ของสันติภาพไว้ข้างๆโบสถ์ไบแซนไทน์ด้วย

ชมพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ภายในเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่ายต่าง ๆ ภาพถ่ายที่
สำคัญคือภาพที่โป๊บ จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000
ชมอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็น
สัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู เชิญถ่ายรูป ณ จุดชมวิว โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองเห็น แม่น้ำ
จอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเจอริโก และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร NEW JERUSALEM RESTAURANT
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (WADI RUM) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวานจากประเทศซาอุฯ เดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์
(เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียนก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตร้า) ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปีค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์และเจ้าชายไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดนและต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA” (และในปี ค.ศ.1963 สามารถกวาดรางวัลออสการ์ได้ถึง 7 รางวัล และรางวัลจากสถาบันอื่นๆ มากกว่า 30 รางวัล นำแสดงโดย PETER O’TOOLE, OMAR SHARIF
นำท่าน นั่งรถกระบะเปิดหลังคารับบรรยากาศทะเลทราย ที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดงอันเงียบสงบที่กว้างใหญ่ไพศาล (สีของเม็ดทราบนั้นปรับเปลี่ยนไปตามแสงของดวงอาทิตย์) ชมน้ำพุแห่งลอว์เรนซ์ สถานที่ในอดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พักและคิดแผนการสู้รบกันพวกออตโตมัน อัตราค่าบริการ ขี่อูฐ 20 JOD // 3 USD กรุณาสอบถามเพิ่มเติมที่หัวหน้าทัวร์อีกครั้ง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ แคมป์ที่พัก
 นำท่านเข้าพักโรงแรม ระดับ 4 ดาว ALADDIN CAMP WADI RUM /PANORAMIC DOME

วันที่สาม ทะเลทรายวาดิรัม WADI RUM CAMP – เมืองเพตรา PETRA – เที่ยวชมมหานครเพตรา-เดินทางสุ่เมืองเดดซี DEAD SEA (B/L/D)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน สู่เมืองเพตร้า (ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07)
มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA)
มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์จวบจนกระทั่งถึงยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดนของชาวอาหรับเผ่าเร่ร่อนนาบาเทียนในช่วงระหว่าง 100 ปี ก่อนคริสตกาล – ปี ค.ศ 100และได้เข้ามาสร้างอาณาจักร, บ้านเมือง ฯลฯ จนกระทั่งในปีค.ศ. 106 นครแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันที่นำโดย กษัตริย์ทราจัน และได้ผนึกเมืองแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในอาณาจักรโรมันแห่งแหลมอาระเบียตะวันออก

(ทุกท่านสามารถขี่ม้าภายในเส้นทางที่ม้าเดินในเพตราได้ ซึ่งรวมอยู่ในค่าบัตรแล้ว เพียงแต่ต้องจ่ายค่าทิปแก่คนจูงม้า ท่านละ 5 USD ต่อท่าน /ต่อเที่ยว หรือแล้วแต่การต่อรองราคา กับคนจูงม้า
กรณีอยากขี่ลา, ขี่อูฐ, รถม้าลาก ฯลฯ สอบถามโดยตรงต่อเจ้าหน้าที่หรือสอบถามที่หัวหน้าทัวร์)
ระยะทางที่เดินเข้าไปในเพตรา ประมาณ 800 เมตร บนถนนทรายเพื่อตรงเข้าสู่หน้าเมืองพร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่ง ธารน้ำ คลังสมบัติ ภูเขาทั้งสองฝั่งที่มีรูปร่างหน้าตาต่างกันออกไป
นำท่านเดินเท้าเข้าสู่ถนนเข้าเมือง THE SIQ เป็นช่องทางเดินที่ขนาบสองฝั่งด้วยหน้าผา กว่า 1.5 กิโลเมตรที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน ส่วนใหญ่ทางเดินร่มๆ สบายๆ (ทางเดินค่อนข้างลาดลง ไม่เหนื่อย ระหว่างทางก็มีมุมสวยๆ ให้เก็บภาพเรื่อยๆ และมีบรรดาคนมาขายของที่ระลึก เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างคล้ายกับแคนยอนน้อย ๆ และ สิ่งก่อสร้าง รูปปั้นแกะสลัก ต่างๆ
ชมมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (EL-KHAZNEH / TREASURY)คลังสมบัติของฟาโรห์ เอล คาซเนท์ เป็นหนึ่งในวัดที่ประณีตที่สุดในเมืองเพตรา (Petra) แห่งราชอาณาจักรนาบาเทีย (Nabateae) ซึ่งชาวอาหรับอาศัยอยู่ในสมัยโบราณ เช่นเดียวกับอาคารอื่นๆ ส่วนใหญ่ในเมืองโบราณแห่งนี้รวมถึงอาราม โครงสร้างนี้ถูกแกะสลักจากหินทรายเชื่อกันว่าโครงสร้างนี้เป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์อาเรตัสที่ 4 ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งในประเทศจอร์แดนและในภูมิภาคนี้ และในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 กลายเป็นที่รู้จักในฐานะเอล คาซเนท์ (Al – Khazneh) ชาวเบดูอินเชื่อว่าเป็นที่เก็บสมบัติสันนิษฐานว่าจะสร้างในราวศตวรรษที่
1-2 โดยผู้ปกครองเมือง ในเวลานั้นเป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และมีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ได้ถูกออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อิยิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ ภายในประกอบด้วย 3 ห้อง คือ ห้องโถงใหญ่ตรงกลางและห้องเล็กทางด้านซ้ายและขวาเดิมทีถูกเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อิยิปต์
(จากจุด VISITOR CENTER เราเดินทางเข้าไปบริเวณ จุด TREASURY โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 ชม )
ชมโรงละครโรมัน (ROMANTHEATRE) ที่แกะสลักจากภูเขาโดยมีแนวราบที่นั่งเท่ากันและมีความสมดุลได้อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเทียนต่อมาในสมัยที่โรมันเข้ามาปกครองได้ต่อเติมและสร้างเพิ่มเติม มีที่นั่ง 32 แถว จุผู้ชมได้ประมาณ 3,000 คน / อิสระในการเดินชมและถ่ายรูปภายในเมืองเพตร้า
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร AL QANTARAH RESTAURANT
สมควรแก่เวลา นำคณะเดินทาง สู่เมืองเดดซี DEAD SEA โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่งโมง
(ระยะทาง 200 กิโลเมตร) ทะเลเดดซี (DEAD SEA) ทะเลสาบเดดซีตั้งอยู่พรมแดนระหว่างอิสราเอลและจอร์แดน เกิดจากน้ำที่ไหลมาจากลำธารในจอร์แดน มีส่วนผสมของโซเดียมและแมกนีเซียม ทำปฏิกิริยากับน้ำพุร้อนที่อยู่ด้านล่างทะเลสาบ โดยมีความเค็ม มากกว่าทะเลอื่นถึง 4 เท่า มีความยาว 76 กิโลเมตร กว้างถึง 18 กิโลเมตร มีจุดลึกที่สุดคือ 400 เมตร และอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 417.5 เมตร นับเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก น้ำในทะเลเดดซีมีความหนาแน่นมาก มีเกลือละลายในน้ำถึง 25% จึงทำให้วัตถุลอยเหนือน้ำ แม้แต่คนว่ายน้ำไม่เป็นก็ลอยตัวได้ในเดดซีและถูกบันทึกลงในหนังสือ กินเนสส์ ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก
เชิญท่าน อิสระในการลงเล่นน้ำทะเลและพิสูจน์ ความจริงว่าท่านลอยตัวได้จริงหรือไม่
(การลงเล่นน้ำในทะเลนั้นมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่างๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
 นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม GRAND EAST HOTEL RESORT&SPA ระดับ 5 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่สี่ ทะเลสาบเดดซี DEAD SEA – ป้อมปราการแห่งเมืองอัมมาน AMMAN CITY TOUR – โรงละครโรมันโบราณ ROMANS THEATER (B/L/D)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้า สู่กรุงอัมมาน ระหว่างทางแวะซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเดดซี เช่น โคลนพอกตัว พอกหน้า สบู่ และสินค้าอื่นที่ทำจากเดดซีอีกมากมาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สู่กรุงอัมมาน
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร SHANGHAI CHINESE RESTAURANT
นำท่าน ชมรอบเมืองหลวงกรุงอัมมาน เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา7ลูกและมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปีผ่านชมย่านเมืองเก่า,เมืองใหม่,ย่านธุรกิจ,ตลาดใจกลางเมือง,ย่านคนรวย ฯลฯ
ชมป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (CITDAEL) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่างๆรอบเมืองเชิญอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็น โรละครโรมัน ROMANSTHEATER ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดนจุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงอันแปลกตายิ่งนักที่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 ในสมัยโรมัน พระราชวังเก่าอุมเมยาด สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิม ของราชวงศ์ ในสมัยมุสลิมได้เข้ามาปกครองประเทศจอร์แดนซึ่งภายในประกอบห้องทำงาน, ห้องรับแขกฯลฯ

ผ่=ชมพระราชวังของพระมหากษัตริย์ อับดุลลาห์ที่สอง (RAGHADAN PALACE) ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามมากที่สุดในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูแลตรวจตราอย่างเข้มงวด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
 นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม AL THURAYA HOTEL @AMMAN ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่ห้า เมืองอัมมาน AMMAN – นครเจอราช JERASH – ป้อมอัจลุน AJLOUN – สนามบิน (B/L/D)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมนครเจอราช (JERASH) หรือ “เมืองพันเสา” เป็นอดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล เดิมทีในอดีตเมืองแห่งนี้ชื่อว่า ในปี ค.ศ. 749 นครแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลาย และถูกฝังกลบโดยทรายหลังจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี ชมซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียนและสนามแข่งม้าฮิปโปโดรม
นำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชมโอวัลพลาซ่า สถานที่ชุมนุม พบปะ สังสรรค์ของชาวเมือง, วิหารเทพซีอุสฯลฯโรงละครทางทิศใต้(สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92) จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละคร
เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์เพียงพูดเบา ๆก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา
ชมวิหารเทพีอาร์เทมิส เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช สร้างในราวปี ค.ศ. 150 สร้างขึ้นพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีบวงสรวง และบูชายัญต่อเทพีองค์นี้ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นใน

นำท่านเดินเข้าสู่ ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด ถนนสายหลักที่ใช้เข้า-ออกเมืองแห่งนี้บนถนนนั้นยังมีริ้วรอยทางของล้อรถม้า,ฝาท่อระบายน้ำ,ซุ้มโคมไฟ,บ่อน้ำดื่มของม้า ชมน้ำพุใจกลางเมือง (NYMPHAEUM) สร้างในราวปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุฯลฯ
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร ARTEMIS RESTAURANT
นำท่านเดินทางไปยังเมืองอัจลุน (AJLOUN CASTLE) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที
อยู่ทางด้านเหนือของเมืองเจอราชไปเล็กน้อยเมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าต้นสนและต้นมะกอก
ชมปราสาทแห่งเมืองอัจลุนถูกสร้างโดยพวกนักรบมุสลิม ในปี ค.ศ. 1184 -1185 ใช้เป็นป้อมทหารในการต่อสู้รบกับพวกนักรบครูเสด และในปี ค.ศ. 1260 ถูกเข้าทำลายโดยกองทัพมองโกลส์

จากนั้นเดินทางต่อสู่กรุงอัมมานหลังจากนั้นอิสระ ช้อปปิ้ง ห้าง CITY MALL- CARREFOUR เป็น 2 ห้างใหญ่ติดกัน มีของแบรนด์เนมให้เลือกสรรมากมาย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารพื้นเมือง TAWAHIN AL HAWA RESTAURANT
จากนั้นสมควรแก่เวลา พาคณะเดินทางไปยังสนามบิน สู่สนามบินนานาชาติ
(AMM อัมมาน ควีน อาเลีย QUEEN ALIA)

วันที่หก สนามบินอัมมาน AMMAN – BKK สนามบินสุวรรณภูมิ (-/-/-)

02.15 น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย ด้วยสายการบิน ROYAL JORDANNIAN เที่ยวบินที่ RJ182
15.15 น. เดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดิภาพและความประทับใจ มิรู้ลืมเลือน

ทัวร์จอร์แดน