
ทัวร์ตุรเคีย เที่ยวสุดฟิน IN TURKIYE 8 วัน 5 คืน (W5)
ราคาเริ่มต้น 28,888 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

☞ นำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรเคีย สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึงระหว่างปี ค.ศ. 1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ SULTAN AHMED นั้นเอง
วันที่เดินทาง | มิถุนายน 66 – ตุลาคม 66 |
---|
ทัวร์ตุรเคีย
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ (-/-/-)
18.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ S สายการบินมาฮานแอร์ (W5) มีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
21.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน โดยสายการบินมาฮานแอร์ เที่ยวบินที่ W5050 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.30 ชม.)
***เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด*** ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน เนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน
ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบินเป็นผู้กำหนด
วันที่สอง สนามบินอิสตันบูล (ประเทศตุรเคีย) – สุเหร่าเซนต์โซเฟีย – สุเหร่าสีน้ำเงิน – ฮิปโปโดรม (-/-/D)
01.15 น. ถึง สนามบินเตหะราน (อิหร่าน) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย
06.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบินมาฮานแอร์ เที่ยวบินที่ W5112 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชม.)
08.55 น. เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (ISTANBUL AIRPORT) สนามบินใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรเคีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศตุรเคียช้ากว่าประเทศไทย 4-5 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ในฤดูหนาว ตุรเคียจะช้ากว่าไทย 5 ชม. (เริ่มประมาณเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์) และฤดูร้อน (เริ่มประมาณ มีนาคม-กันยายน) ตุรเคียจะช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมง
**** โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า และจำเป็นต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม ****
สุภาพสตรี : : ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูปและเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ
สุภาพบุรุษ :: ควรสวมกางเกงขายาว และเสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป
☞ นำท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA) หรือวิหารเซนต์โซเฟีย หรือ HAGHIA SOFIA (ฮายาโซฟีอา) บางคนอาจออกเสียงฮาเกียโซเฟีย หรือในภาษาตุรเคียเรียก AYASOFYA เซนต์โซเฟีย แปลว่า โบสถ์แห่งปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ คำว่า “SOFIA” มาจากคำในภาษากรีกที่แปลว่า “ปัญญา” จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับนักบุญที่ชื่อ SOFIA แต่อย่างใด เซนต์โซเฟียนับเป็นสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่มีความสวยงามอลังการ ตั้งอยู่ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล (CONSTANTINOPLE) หรือปัจจุบันคือกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย สุเหร่าแห่งนี้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ในยุคกลาง สร้างในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์
☞ นำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรเคีย สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึงระหว่างปี ค.ศ. 1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ SULTAN AHMED นั้นเอง
☞ นำท่านชม จัตุรัสสุลต่านอะห์เมต หรือ ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธีแต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7
อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
☞ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอังการา (ANKARA) เมืองหลวงของประเทศตุรเคีย เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรเคียและเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ ศูนย์กลางของการค้าขาย ให้ท่านอิสระพักผ่อนบนรถชมวิวเมือง (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก KAHYA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่สาม เมืองอังการา – ทะเลสาบเกลือ – เมืองคัปปาโดเกีย – นครใต้ดินซาดัค – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ – หุบเขานกพิราบ – หุบเขาพาซาแบค (B/L/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
☞ นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA) มาจากภาษาเปอร์เชีย คัตปาตุกา (KATPATUKA) เมืองมหัศจรรย์ที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 เมืองนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟและถูกลาวาปกคลุมหลายพื้นที่ทับถมกันเป็นระยะเวลายาวนานจนกลายเป็นหิน ผ่านลม,ฝน,พายุ ปัจจุบันเกิดเป็นภูมิประเทศที่มีความสวยงามแปลกตาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและอีกไฮไลท์ของเมืองนี้คือเป็นจุดขึ้นบอลลูนที่มีวิวสวยงามที่สุด (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชม.)
ระหว่างทาง แวะถ่ายรูป ทะเลสาบเกลือ (LAKE TUZ) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในตุรเคียและเป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
☞ นำท่านชม นครใต้ดินชาดัค (UNDERGROUND CITY OF CHADAK) เมื่อ 2-3 พันปีก่อนคริสตกาล ชาวคัปปาโดเชียได้มีการสร้างเมืองใต้ดินเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากการบุกรุกของชาวโรมัน ขุดเจาะไปเรื่อยๆ จนใต้พื้นดินคัปปาโดเชียกลายเป็นเมืองอีกหลายๆ เมือง ภายในมีทั้ง โบสถ์คริสจักร โรงเรียนสอนศาสนา โรงเก็บไวน์ คอกไม้ บ่อน้ำ ห้อง โถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร ฯลฯ และยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้ขุดค้น ให้ท่านได้ชมความมหัศจรรย์เมืองใต้ดินและเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลาอันสมควร
☞ นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (GOREME OPEN AIR MUSEUM) สถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นจากการขุดเจาะถ้ำหินหลายลูกเพื่อทำเป็นโบสถ์สำหรับเป็นศูนย์รวมของผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ เป็นถิ่นฐานที่ตั้งของผู้คนตั้งแต่ก่อนคริสตกาลและยังเป็นสถานที่ซึ่งชาวคริสเตียนยุคแรกใช้หลบหนีภัยการล่าสังหารจากจักวรรดิโรมัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1985 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แบบเปิดที่แสดงเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวคัปปาโดเชียน (CAPPADOCIAN)
☞ แวะถ่ายรูป หุบเขานกพิราบ (PIGEON VALLEY) จุดชมวิวอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่ ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (UCHISAR CASTLE) และยังมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย
☞ นำท่านผ่านชม หุบเขาพาซาแบค (PASABAG VALLEY) กลุ่มภูเขาหินแปลกตารูปกรวยคล้ายมีหมวกวางอยู่บนสุด อดีตเมื่อ 1,500 ปีที่แล้วสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของบาทหลวงไซมอนที่เดินทางมาเพื่อปลีกวิเวก แสวงหาที่ปฏิบัติธรรมและได้มาเจอสถานที่แห่งนี้ (HERMITAGE OF ST.SIMON) และเป็นที่นิยมสำหรับพระอีกหลายองค์ในเวลาต่อมา จนได้รับอีกสมญาว่า THE VALLEY OF THE MONKS
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก CALSEDON CAVE HOTEL (โรงแรมถ้ำ) หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ เมืองคัปปาโดเกีย – *OPTION TOUR ขึ้นบอลลูนชมเมืองคัปปาโดเกีย* หรือ JEEP SAFARI หรือ CLASSIC CAR* – เมืองคอนย่า – คาราวานซาราย – พิพิธภัณฑ์เมฟลานา – เมืองปามุคคาเล่ (B/L/D)
เช้ามืด คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ (บริเวณ LOBBY โรงแรม)
⭕⭕ OPTION TOUR ⭕⭕ HILIGHT!! ขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในมุมสูง (CAPPADOCIA BALLOON VIEW) ☂การขึ้นบอลลูน นั้นเป็นสัญลักษณ์ของตุรเคีย จะพาให้ท่านเคลิมเคลิ้มไปกับการชมพระอาทิตย์ยามเช้า และชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย แบบพาโนราม่าวิว ชมเมืองอารยธรรมโบราณ เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ สัมผัสบรรยากาศมุมสูง เก็บภาพที่สวยงามรอบตัว (ค่าใช้จ่ายในการขึ้นบอลลูน ราคาท่านละประมาณ 300 USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์ ทั้งนี้.. การขึ้นบอลลูนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เหมาะสม* โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นสำคัญ **ประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท กิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน**)
หรือ ⭕⭕ OPTION TOUR ⭕⭕ JEEP SAFARI เที่ยวชมเมืองคัปปาโดเกีย ตุรเคีย หนึ่งในการเดินทางที่สุดประทับใจ บนเส้นทางที่สุดตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ของเมืองประวัติศาสตร์นับล้านปี ชมความงามของหุบเขาที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติสรรค์สร้าง (ค่าใช้จ่ายในการนั่ง JEEP SAFARI ราคาท่านละประมาณ 120 USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์)
หรือ ⭕⭕ OPTION TOUR ⭕⭕ CLASSIC CAR นั่งรถคลาสสิคเปิดประทุนชมวิวบอลลูนอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเป็น UNSEEN ของเมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้ ที่จะต้องมาถ่ายรูปคู่กับบอลลูนสีสันสดใส คู่กับรถเปิดประทุนสุดคลาสสิค นั่งรถเปิดประทุนสูดอากาศเย็นๆ ยามเช้า ชมวิวบอลลูนสดใสบนท้องฟ้า (ค่าใช้จ่ายในการนั่ง CLASSIC CAR ราคาท่านละประมาณ 120 USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
☞ เดินทางสู่ เมืองคอนย่า (KONYA) ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ค.ศ. 1077-1118 อาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรเคีย หรือที่ยุคนั้นเรียกอนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา มีการปลูกฝิ่นและผลไม้อร่อย เมืองนี้มีประวัติที่เก่าแก่มาก เป็นที่ตั้งของสุสานเมฟลานา ผู้ริเริ่มการทำสมาธิแบบเป็นวงกลม ในแต่ละปีจึงมีผู้แสวงบุญมาเยือนที่นี่กันเป็นจำนวนมาก (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม.) ระหว่างทางแวะถ่ายรูป คาราวานซาราย (CARAVANSARAI) ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตาเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
☞ นำท่านชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (MEVLANA MUSEUM) ได้รับการประกาศรับรองให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ เป็นที่ตั้งของสำนักพวกเดอร์วิช (DERVISH) มีหน้าที่ในการชักชวนพลเมืองชาวคริสต์ในคาบสมุทรอนาโตเลีย ให้หันมานับถือศาสนาอิสลาม และลดช่องว่างระหว่างราษฏรกับผู้ปกครองชาวเซลจุก ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์นี้เป็นสุสานของเมฟานา เจลาเลดดิน ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม โดยใช้สีมากมายตระการตา ซึ่งหาชมได้ยาก และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลานาด้วย
☞ เดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (COTTON CASTLE) อยู่ในเมืองชื่อเดียวกัน จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรเคีย เป็นเนินเขาหินปูนสีขาว มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน ปามุคคาเล่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับฮีเอราโปลิสซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุคคาเล่ ใน พ.ศ. 2531 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก TRIPOLIS HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า เมืองปามุคคาเล่ – เมืองเฮียราโพลิส – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองคูซาดาซี – เมืองโบราณเอฟฟิซุส (B/L/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
☞ นำท่านชม เมืองเฮียราโพลิส (HIERAPOLIS) เมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป เช่นโรงละครแอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ
☞ นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (PAMUKKALE) น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโพลิสได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 ชมความสวยงามของแอ่งน้ำหินปูนธรรมชาติตัดกับหน้าผาที่กว้างขวางมีลักษณะสวยงามมหัศจรรย์แตกต่างออกไปมากมายคล้ายหิมะ ก้อนเมฆหรือปุยฝ้ายน้ำแร่มีอุณหภูมิประมาณ 33 – 35.5 องศาเซลเซียส อิสระเก็บภาพประทับใจจนถึงเวลาอันสมควร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
☞ เดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี (KUSADASI) เมืองท่าที่สำคัญทางการค้าอีกเมืองหนึ่งของตุรเคียที่เป็นสถานที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม.)
☞ นำท่านชม เมืองโบราณเอฟิซุส (EPHESUS) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาว (IONIA) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
ที่พัก BLANCA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่หก เมืองอิซเมียร์ – ชมย่านเมืองเก่าอิซเมียร์ – ม้าไม้จำลองเมืองทรอย – เมืองอิสตันบูล (B/L/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
☞ นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ หรืออิซมีร์ (IZMIR) เป็นมหานครในปลายสุดทางตะวันตกของอานาโตเลีย ถือว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศตุรเคีย เป็นรองแค่อิสตันบูล กับอังการา และเป็นเมืองริมทะเลอีเจียนที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดรองจากเอเธนส์ ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาอีกทั้งยังถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างพลุกพล่านไปด้วยผู้คนรวมไปถึงถนนที่ค่อนข้างกว้าง อาคารกระจกและศูนย์ช็อปปิ้งที่ทันสมัย เที่ยวชม ย่านเมืองเก่าอิซเมียร์ ห้ามพลาดกับ จัตุรัสโคนัค (KONAK SQUARE ), หอนาฬิกาอิซเมียร์ (IZMIR CLOCK TOWER) เป็นต้น
☞ เดินทางสู่ ชานัคคาเล่ (CANAKKALE) เมืองท่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของตุรเคียมีดินแดนอยู่ในยุโรปและเอเชียเช่นเดียวกับอิสตันบูล เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะที่ชานัคคาเล่นี้ทหารสัมพันธมิตรได้ยกพลขึ้นบกและทำการรบในสงครามกาลิโปลี (GALLIPOLI) หรือ กัลป์ลิโปลีโดยในทุกๆปีจะมีการจัดงานรำลึกให้กับผู้เสียชีวิตในวัน ANZAC DAY ทุกวันที่ 25 เมษายน ทุกปี ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตุรเคียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่กลับชนะในสงคราม กัลป์ลิโผลี จนทำให้นายพล มุสตาฟา เคมาล ปาชา (MUSTAFA KEMAL PASHA) กลายเป็นมหาวีรบุรุษสำคัญของชาติ ซึ่งต่อมา มุสตาฟา เคมาล ปาชา ก็คือ อตาเติร์ก บิดาแห่งชาติตุรเคีย (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชม.)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
แวะถ่ายรูป ☞ HOLLYWOOD ม้าไม้จำลองเมืองทรอย (WOODEN HORSE OF TROY) ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองชานัคคาเล่ ม้าไม้เมืองทรอยตามเรื่องเล่านั้นเกิดจากการต่อสู้ระหว่างกองทัพกรีกและกรุงทรอย ต่อสู้กันนานนับสิบปี กองทัพกรีกจึงคิดแผนการที่จะตีกรุงทรอยโดยการสร้างม้าไม้ โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในซอกต่างๆของม้าและเข็นไปไว้หน้าเมืองทรอย ชาวเมืองทรอยเห็นก็นึกว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพยอมแพ้ไปแล้วและมอบม้าไม้จำลองเป็นของขวัญ จึงเข็นเข้าไปไว้ในเมือง ตกกลางคืนชาวทรอยนอนหลับหมด ทหารที่ซ่อนอยู่ในม้าก็ออกมาเปิดประตูให้กองทัพกรีกเข้ามาทำการยึด และเผากรุงทรอยจนย่อยยับ ซึ่งม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอยที่เห็นอยู่ในเมือง ชานัคคาเล่ นี้ได้รับมาจาก กองถ่ายทำละคร วอเนอร์ บราเธอร์ ใช้ถ่ายทำละคร เรื่องทรอย เมื่อถ่ายทำเสร็จแล้วจึงยกให้เป็นสมบัติของที่นี่ตั้งแต่ปี 2004 อิสระเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย
☞ เดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL) เมืองสำคัญอันดับ 1ของประเทศ เดิมชื่อ คอนแสตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรเคีย ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส(BOSPHORUS) ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีปคือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง THRACE ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชม.)
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก GOLDEN WAY HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด เมืองอิสตันบูล – สนามบินอิสตันบูล (ตุรเคีย) – สนามบินเตหะราน (อิหร่าน) (B/-/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังรับประทานอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล
12.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน โดยสายการบินมาฮานแอร์ เที่ยวบินที่ W5117 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชม.)
15.45 น. ถึง สนามบินเตหะราน (อิหร่าน) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย
21.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินมาฮานแอร์ เที่ยวบินที่ W5051 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.30 ชม.)
วันที่แปด สนามบินสุวรรณภูมิ
07.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
ทัวร์ตุรเคีย