cp6NvVb2FZ

ทัวร์ญี่ปุ่น “ซุปตาร์ โอซาก้าชมไฟในฤดูซากุระ” 6D 4N (XJ)

ราคาเริ่มต้น 39,888 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: download

ไฮไลท์!! อลังการไฟล้านดวง ณ หมูบ้านนาบานะ โนะ ซาโตะ

ไฮไลท์!! ชม หมู่บ้านมรดกโลกการันตีโดย UNESCO ณ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
เดินชิว เมืองเก่าทาคายาม่า ฉายา Little Kyoto ณ ถนนซันมาจิซูจิ

เยือน วัดคิโยมิสึเดระ วัดน้ำใส สามสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ แห่งเกียวโต

 ชม สะพานโทเก็ตสึเคียว และ สวนป่าไผ่ ชื่อดังของอาราชิยาม่า

 ชมความยิ่งใหญ่ ของ ปราสาทโอซาก้า และ จุดชมซากุระ (ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศ)

 ชม วัดคัตสึโอจิ วัดดารูมะ หรือ วัดแห่งชัยชนะ และจุดชมซากุระ (ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศ)

ช้อปปิ้ง LALAPORT & MITSUI OUTLET PARK OSAKA KADOMA
ย่านช้อปปิ้งของเมืองโอซาก้าแห่งใหม่ที่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา

 ช้อปปิ้ง ซาคาเอะ ย่านช้อปปิ้งใจกลางเมืองนาโกย่า

 ช้อปปิ้งจุใจ ย่านชินไซบาชิ พร้อมเช็คอิน ป้ายกูลิโกะแมน แห่งโดทงโบริ
มีน้ำดื่มบริการบนรถบัสวันละ 1 ขวด

วันที่เดินทาง

มีนาคม 67 – เมษายน 67

ทัวร์ญี่ปุ่น
วันแรก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย – ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น – เมืองโอซาก้า
10.30 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ F สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

14.00 น. เหินฟ้าสู่ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ610
สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
21.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
พักที่ SUMIICHI HOTEL KANSAI หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน (โดยรถบัสโรงแรม)
วันที่สอง เมืองเกียวโต – อาราชิยาม่า – สวนป่าไผ่ – สะพานโทเก็ตสึเคียว – ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ –
เมืองนาโกย่า – ชมงานประดับไฟฤดูหนาว ณ หมู่บ้านนาบานะ โนะ ซาโตะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (1)
เดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชั่วโมง) เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของวัฒนธรรมที่ประณีต ศิลปะแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีมนต์เสน่ห์แบบชนบทญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นนิยมของคนทั่วโลก
อาราชิยาม่า (Arashiyama) อยู่ทางตะวักตกของเกียวโต ตัวเมืองอาราชิยาม่านั้นจะคึกคักมากในช่วงวันหยุด มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และบริเวณโดยรอบก็สามารถเดินเที่ยวได้เรื่อยๆ

จากนั้นนำท่านชม สวนป่าไผ่ (Bamboo Groves) เป็นเส้นทางเดินเล็กๆที่ตัดผ่านในกลางสวนป่าไผ่ สามารถเดินเล่นหรือขี่จักรยายผ่านก็ได้ ให้บรรยากาศที่แปลกและหาได้ยาก อิสระให้ท่านเดินชมความงามยามที่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านตัวป่าไผ่ลงมายังพื้นด้านล่าง ประกอบกับมีลมพัดมาพร้อมกันก็จะเป็นเสียงกิ่งก้านของต้นไผ่กระทบกันไปมา ดูสวยงามและให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งนัก บริเวณใกล้ๆ จะเป็นร้านขายของพื้นเมืองที่ทำมาจากต้นไม้ เช่น ตะกร้าไม้ไผ่, ถ้วย, กล่องใส่ของ หรือเสื้อสานจากไผ่ อิสระให้ท่านซื้อสินค้า หรือเลือกถ่ายภาพเก็บความประทับใจตามอัธยาศัย
และชม สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ที่มีความยาว 250 เมตร ข้ามแม่น้ำโออิงาว่าตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอาราชิยาม่าและยังคงลักษณะเหมือนในคริสต์ศตวรรษที่ 17 แม้จะบูรณะใหม่ด้วยเหล็กแล้วก็ตาม ในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสี ยังเป็นอีกสถานที่มีชื่อเสียงในการชมดอกไม้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (2)
จากนั้นสู่ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine or Fushimi Inari Taisha) ศาลเจ้าเสาโทริอิพันต้นแห่งเกียวโต (จริงๆมีเป็นหมื่นๆ ต้น) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า ศาลเจ้าจิ้งจอก หรือ ศาลเจ้าแดง เป็นศาลเจ้าชินโตสร้างถวายแด่ เทพอินาริ ซึ่งเป็น เทพแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหารของญี่ปุ่น ช่วยบันดาลในหลายเรื่องตั้งแต่ พืชพันธุ์งอกงาม, ค้าขายรุ่งเรือง, คลอดบุตรปลอดภัย, โรคภัยหายป่วย และช่วยในเรื่องการขอให้สอบผ่าน เป็นต้น ศาลเจ้าแห่งนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังจาก เสาโทริอิสีแดง เรียงตัวกันจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ตามตำนานเล่าสู่ว่า โดยปกติแล้วเทพอินาริจะไม่สื่อสารกับมนุษย์เองโดยตรง แต่จะสื่อสารผ่านบริวารของท่าน นั่นคือ สุนัขจิ้งจอก (คิทสึเนะ 狐) นั่นเอง ทำให้มีรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอกตั้งเรียงรายเต็มไปหมด จนคนทั่วไป นิยมเรียก ศาลเจ้าแห่งนี้ว่า ศาลเจ้าจิ้งจอก อิสระให้ท่านขอพรและถ่ายรูปภาพตามอัธยาศัย
นำท่านสู่ เมืองนาโกย่า (Nagoya) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นตัวเมืองของจังหวัดไอจิ มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 2 ล้านคน เป็นเมืองศูนย์รวมการค้าและการคมนาคมที่สําคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ชม งานประดับไฟฤดูหนาว ณ หมู่บ้านนาบานะ โนะ ซาโตะ () เป็นธีมพาร์คสวนดอกไม้ ที่มีทุ่งดอกไม้ให้ชมตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไฮไลท์!!! การประดับไฟขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จะมีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตลอดจนถึงปลายฤดูหนาว (ตุลาคม-มีนาคม) จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมี การแสดงไฟในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์แสงไฟ (Tunnel of Light) หรือ การประดับไฟในน้ำ (Water Illumination) อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับอลังการงานประดับไฟที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีมุมให้เก็บภาพประทับใจกลับไปอย่างมากมาย
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL THE B NAGOYA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่สาม เมืองนาโกย่า – เมืองกุโจฮาจิมัง – ร้านมีดซันชู – หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ – เมืองทาคายามะ – ถนนซันมาจิซูจิ – เมืองนาโกย่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
นำท่านสู่ เมืองกุโจฮาจิมัง (Gujohachiman) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง)เสน่ห์ของที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น มีทั้งเมืองเก่าที่เรียงรายกัน และมีรางน้ำจำนวนมากจนถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ เมื่อเดินเล่นไปในเมืองนี้จะสังเกตเห็นได้ว่ามีรางน้ำไหลผ่านทั่วทั้งเมือง นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซกิ พาทุกท่าน แวะชม ร้านมีดซันชู หรือ Seki Hamano museum สถานที่ผลิตมีดได้คมสุดๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการตีดาบญี่ปุ่นอย่างดาบ เซกิ สำหรับร้านมีดซันซูนี้มีเครื่องใช้ของมีคมมากกว่า 3,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นมีดหรือกรรไกรตัดแต่งกิ่งและสวน กรรไกรตัดเล็บหลากหลายขนาด หรือมีดสำหรับทำครัวหลากหลายรูปแบบที่ช่วยให้การทำวัตุดิบ นอกจากนี้ยังมีดาบญี่ปุ่น ขนมและเครื่องดื่มเย็นๆ จำหน่ายอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ร้านอาหาร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชั่วโมง)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)
จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เมืองที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีรูปร่างแปลกตาติดอันดับ The most beautiful village in Japan และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ไฮไลท์!! หมู่บ้านแบบกัชโชสึคุริ เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี คำว่า กัชโช มีความหมายว่า พนมมือ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะ รูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวที่ทำมุมชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่ประนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร ทั้งหลังถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ต่อมา ในปีค.ศ. 1995 องค์กรยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้ชิราคาวาโกะเป็นมรดกโลก จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองทาคายามะ (Takayama) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) จังหวัดกิฟุ เมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและธารน้ำใสจำนวนมาก อบอวลไปด้วยแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์
อิสระให้ท่านเดินเล่น ถนนซันมาจิซูจิ (Sanmachi-Suji Street) ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ลิตเติ้ลเกียวโต หรือ เกียวโตน้อย เป็นย่านเมืองเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งอารยธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีในอดีตของชาวญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์ บ้านเรือน, ร้านค้า, คาเฟ่และโรงสาเก สร้างขึ้นด้วยไม้แบบโบราณ และยังคงบรรยากาศแบบสมัยเอโดะไว้ นอกจากนี้ยังมี วัด, ศาลเจ้า, สะพานและตลาดเช้าที่คึกคักเต็มไปด้วยผู้คน ตัวเมืองสวยสะอาด ทันสมัย และมีสภาพธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

เดินทางกลับเมืองนาโกย่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL THE B NAGOYA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่สี่ เมืองนาโกย่า – เมืองเกียวโต – วัดคิโยมิสึเดระ – ย่านฮิกาชิยาม่า – ศาลเจ้าเฮอัน –
การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น – เมืองโอซาก้า – ช้อปปิ้งชินไซบาชิ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)
ออกเดินทางสู่ เมืองเกียวโต (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

นำท่านสู่ วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera) แปลเป็นภาษาไทยว่า วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต สร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ.778 นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่ง ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมดแต่ที่น่าสนใจ ได้แก่ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ เสาดังกล่าวประกอบไปด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น สร้างขึ้นด้วยไม้ขนาดใหญ่สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว อาคารไม้หลังนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโกในฐานะส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์เมืองเกียวโต
จากนั้น นำท่านเดินเท้า เพื่อชม ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ซึ่งเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญน่าชมของเกียวโตให้บรรยากาศแบบดั้งเดิม แลนด์มาร์คที่โดดเด่นของย่านนี้ เจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda) ซึ่งเป็นเจดีย์ 5 ชั้น สูง 46 เมตรที่สามารถมองเห็นได้เกือบจากทุกมุมของย่านนี้ แลนด์มาร์คสวยๆ อีกแห่งที่พลาดการถ่ายรูปไม่ได้ คือ เนินนิเนนซากะ (Ninenzaka) และเนินซันเนนซากะ (Sannenzaka) ซึ่งเป็นเนินบันไดที่ปูด้วยแผ่นหินตั้งอยู่ท่ามกลางบ้านไม้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (6)
นำท่านสู่ ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ระลึกถึงจักรพรรดิคาม มุและจักรพรรดิ์โคเมอิ ผู้ที่มีความสำคัญต่อเมืองเกียวโตอย่างมาก เนื่องจากเป็นจักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายของเกียวโต โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในยุคเฮอัน โดยเฉพาะเสาและประคูโทริอิยักษ์สีแดงที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัด มีสีแดงสดใสมองเห็นมาแต่ไกล ไฮไลท์!!! จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Japanese tea ceremony หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย
เดินทางสู่ เมืองโอซาก้า (Osaka) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภาคคันไซบนเกาะฮนชู ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเมืองโอซาก้ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ทั้งยังมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) และ คุ
จากนั้นอิสระช้อปปิ้ง ย่านชินไซบาชิ () บริเวณแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าปลีก ร้านแฟรนไชส์ ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านรองเท้า กระเป๋านาฬิกา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ เช่น Zara H&M Beans ABC Mart เป็นต้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการรวมกันอยู่บริเวณนี้ ใกล้กันท่านสามารถเดินไปยัง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านบันเทิงยามค่ำคืนตลอดแนวถนนเลียบคลองโดทงโบริ จากสะพานโดทงโบริบาชิไปจนถึงสะพานนิปปนบาชิ ไฮไลท์!!! ใครๆ ก็เช็คอิน ถ่ายภาพคู่ ป้ายกูลิโกะแมน หรือ ป้ายโดทงโบริกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) เป็นป้ายไฟนีออนรูปนักกรีฑากำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ซึ่งถูกติดตั้งมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1935 นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์สถานที่นัดพบกันหลง นั่นก็คือ ร้านปูคานิโดรากุ (Kani Doraku) ซึ่งมีปูยักษ์ขยับแขนและลูกตาได้อีกด้วย และห้ามพลาดสำหรับ ทาโกยากิ อาหารท้องถิ่นของชาวโอซาก้า ที่มาถึงถิ่นแล้วต้องลอง Original Taste รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ SARASA HOTEL DOTONBORI หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน

วันที่ห้า เมืองโอซาก้า – เมืองมิโนะ – วัดคัตสึโอจิ – LALAPORT & MITSUI OUTLET PARK OSAKA KADOMA – ปราสาทโอซาก้า(ด้านนอก) – ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ –
ห้างอิออน มอลล์ ริงกุ เซนัน – ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (7)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิโนะ (Mino) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เพื่อนำท่านสู่ วัดคัตสึโอจิ (KATSUOJI TEMPLE) หรือวัดดารูมะ หรือ คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า วัดแห่งชัยชนะ เป็นวัดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดโอซาก้า ติดกับเชิงเขา มีสวนสไตล์ญี่ปุ่นสวยๆขนาดใหญ่ให้เดินชม และยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี และชมซากุระที่มีชื่อเสียงของเมืองโอซาก้าอีกด้วย
จากนั้นนำท่านสู่ LALAPORT & MITSUI OUTLET PARK OSAKA KADOMA (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 17 เมษายน 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสาขาใหม่ล่าสุดที่มีเอกลักษณ์ในญี่ปุ่น โดยปกติแล้วศูนย์การค้าและเอาท์เล็ตจะแยกกันคนละที่ ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เป็นการรวมศูนย์การค้าขนาดใหญ่เข้าด้วยกันกับOutlet ขนาดใหญ่แห่งแรก ห้างสรรพสินค้าที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันขนาดใหญ่ทั้งหมดถึง 4 ชั้น ที่ LaLaport คุณสามารถจับจ่ายสินค้าแฟชั่น อาหาร และของใช้ประจำวันอื่น ๆ และที่เอาท์เล็ท คุณจะพบสินค้าแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศในราคาพิเศษที่จับต้องได้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันอิสระตามอัธยาศัย

เดินทางสู่ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) (ด้านนอก) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสําคัญของเมืองโอซาก้า หอคอยปราสาทจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินคอนกรีต, คูนํ้า และสวนนิชิโนมารุซึ่งอยู่ทางป้อมตะวักตก ความงดงามของปราสาท ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างให้ความสนใจที่จะมาเยือนและชมตลอดทั้งปี นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ซากุระ) จะเป็นจุดชมวิวที่โดงดังของเมืองโอซาก้าอีกด้วย
จากนั้นนำท่านสู่ ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 มีสถาปัตยกรรมเฉพาะตัว เรียกว่า สุมิโยชิ-ซึคุริ (Sumiyoshi-Zukuri) ซึ่งไม่เหมือนกันรูปแบบศาลเจ้าของที่อื่น ๆ ในเอเชีย ศาลเจ้าสุมิโยชินี้เป็นศาลเจ้าหลัก และมีชื่อเสียงมากกว่าศาลเจ้าอื่น ๆ ในญี่ปุ่น ภายในนั้นจะเป็นที่ตั้งของเทพคามิ (เทพเจ้าชินโต) ซึ่งคอยให้ความคุ้มครองแก่นักเดินทาง ชาวประมงและชาวเรือ ดังนั้น เราจึงสามารถที่จะพบศาลเจ้ารูปแบบนี้ได้โดยมากที่บริเวณใกล้ท่าเรือ
นำท่านสู่ ห้างอิออน มอลล์ ริงกุ เซนัน (AEON MALL RINKUSENNAN) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) จากห้างสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอ่าวโอซาก้า ความงามของพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ถูกเลือกให้เป็น 100 สถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังที่จอดรถฟรีขนาด 4,700 คัน ร้านอาหาร 43 ร้านและร้านเฉพาะทาง 86 ร้านรวมกันกว่า 170 ร้านเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของช็อปปิ้งมอลล์แห่งนี้ เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการเดินทาง
นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที)
23.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ611

วันที่หก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
03.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
พร้อมความประทับใจ

**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**

ทัวร์ญี่ปุ่น