Picture4

ทัวร์ยุโรป FRANCE 10 วัน (EK)

ราคาเริ่มต้น 139,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

…นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน Beuvron-en-Auge (ระยะทาง 25 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 20 นาที) เป็น                     หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ใน Calvados นอร์มังดี เกือบทุกบ้านที่นี่จะสร้างขึ้นใน                       สไตล์ครึ่งไม้ที่งดงามเรียกว่า Vieux Manoirจากสมัยศตวรรษที่16 และมีชื่อเสียงในนอร์มังดี ให้ท่านได้                     อิสระ เพลิดเพลินกับการเดินเล่นรอบเมืองดูโบสถ์เล็ก ๆ ที่น่ารักและ Chapelle de Clermont ใน                      หมู่บ้านแห่งนี้

วันที่เดินทาง

กุมภาพันธ์ 67 – มิถุนายน 67

ทัวร์ยุโรป
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
22.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ เคาน์เตอร์ T ประตู 8-9
เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกแก่ท่าน
วันที่สอง ปารีส – รูอ็อง – อ็องเฟลอร์ (Unseen) – โดวิลล์
01.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงปารีส (PARIS) ประเทศฝรั่งเศส โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK385/EK073
*.*.*. แวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ 04.55-08.20 *.*.*.
13.30 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ….หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว
…นำท่านออกเดินทางสู่ เมือง รูอ็อง (Rouen) คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในประเทศฝรั่งเศสที่ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแซน (Seine River) อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นโอต-นอร์ม็องดี (Haute- Normandie) 1 ใน 27 แคว้น (ปี2012) ในประเทศฝรั่งเศส
…นำท่านชมมหาวิหารรูอ็อง (Rouen Cathedral) หรือวิหารนอเตรอดามแห่งรูอ็อง สร้างขึ้นในปี 1150 ต่อมาในปี 1170มีการเสริมหอคอยคู่หน้าเข้าไป และแล้วเสร็จสมบรูณ์ในปี 1240
…นําท่านเยือนจัตุรัสโจนออฟอาร์ค (Joan of Arc Square) ซึ่งเป็นจตุรัสที่มีความสําคัญให้หวนรําลึกถึง ความกล้าหาญของนักบุญโจนออฟอาร์ค ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นนักบุญหลังท่านถูกเผากว่าร้อยปี
…นำท่านสู่ย่านจตุรัสวีเยอ-มาร์เซ
…นำท่านชมตัวเมือง เช่น โบสถ์แซงต์อูน (Church of St. Ouen, Rouen) โบสถ์แซ็งมากลู (Church of Saint-Maclou) หอนาฬิกาขนาดใหญ่ (Gros Horloge) …อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
…นำท่านเดินทางสู่เมือง อ็องเฟลอร์ (HONFLEUR)เมืองท่าเล็กๆของแคว้นนอร์มองดี ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่ง ทางตอนใต้ของบริเวณปากแม่น้ำแซน ปัจจุบันเมืองเล็กๆแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของเมืองท่าเก่าแก่ที่ งดงามแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส และ ท่าเรือประมงเก่าแก่

…นำท่านชม โบสถ์เซนต์ แคทเธอร์รีน(Saint Catherine s) เป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส ตื่นตาไป กับความเก่าแก่ของระเบียงหอระฆังที่ประดับประดาอย่างวิจิตร
…นำท่านออกเดินทางสู่เมือง โดวิลล์ (Deauville ) เป็นเมืองพักผ่อนไฮโซริมทะเล ที่มีท่าเรือ รีสอร์ท 5 ดาว คาสิโน ร้านค้า และเมืองนี้มีตึกสวยงามทั้งเมือง ถูกยกให้เป็น “Queen of the Norman beaches” เมืองที่เต็มไปด้วยบ้านไฮโซริมทะเล โดยถูกขนานนามว่า Parisian Riviera

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก MERCURE DEAUVILLE CENTRE หรือระดับเที่ยบเท่า 4 ดาว
วันที่สาม โดวิลล์ – Beuvron-en-Auge (unseen) – มงแซงต์ มิเชล
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
…นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน Beuvron-en-Auge (ระยะทาง 25 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 20 นาที) เป็น หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ใน Calvados นอร์มังดี เกือบทุกบ้านที่นี่จะสร้างขึ้นใน สไตล์ครึ่งไม้ที่งดงามเรียกว่า Vieux Manoirจากสมัยศตวรรษที่16 และมีชื่อเสียงในนอร์มังดี ให้ท่านได้ อิสระ เพลิดเพลินกับการเดินเล่นรอบเมืองดูโบสถ์เล็ก ๆ ที่น่ารักและ Chapelle de Clermont ใน หมู่บ้านแห่งนี้

…จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมงแซงต์ มิเชล (MONT SAINT MICHEL CITY) (ระยะทาง 150 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 45 นาที) สถานที่ที่ถูกใช้โปรโมตการท่องเที่ยวของฝรั่งเศสมากที่สุด ด้วยความงดงาม และความมหัศจรรย์ของกลุ่มอาราม และบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำ นอกชายฝั่ง ในเวลาน้ำขึ้นมงต์แซงต์ มิเชล จะลอยอยู่กลางน้ำแต่เวลาน้ำลงชายหาดขาวจะเชื่อมต่อกับแผ่นดิน ให้เดิน ไปอย่างสะดวก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
…นำท่านเข้าชม มหาวิหารมงต์แซงมิเชล ศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเทียบได้กับมหา วิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งกรุงโรม สร้างมาหลายยุคหลายสมัยเปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดการสร้าง จนปี ค.ศ. 966 นักบวชนิกายเบเนดิกตีนจากวิหารแซ็งว็องดรีย์ ได้สร้างโบสถ์และอาคารขึ้นใหม่เป็นอาราม ขนาดใหญ่ และตั้งชื่อใหม่ว่า “มงต์แซง มิเชล” ตัววิหารตั้งอยู่บนฐานหินแกรนิตขนาดใหญ่ สูงจาก ระดับน้ำทะเล 75 เมตร มีการสร้างต่อเติมหลายยุคหลายสมัยที่แคว้นนอร์มังดีเรืองอำนาจและอิทธิพลถึง ที่สุด เป็นศาสนสถานสำหรับบำเพ็ญสมาธิและถือสันโดษมาตั้งแต่โบราณ อิสระเดินชมเมืองตัววิหารและ ชมหมู่บ้านรอบ ๆ หรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

….จากนั้นนำท่านสู่จุดชมวิวแบบพาโนรามา ที่จะเห็นมงต์แซงมิเชลเป็นฉากหลัง ณ สะพาน Barrage du Mont St Michel ให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง พิเศษลองลิ้มชิมรสเมนู MOULES À LA MARINIÈRE หรือ หอยแมลงภู่อบสไตลฝ์รั่งเศส พร้อมเครื่องเคียง ไวน์ขาวท้องถิ่น
ที่พัก MERCURE MONT SAINT MICHEL HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
วันที่สี่ มงต์แซงมิเชล – ดินง (unseen)– โรซฟอร์ อ็อง แตร์ (Unseen) แรนส์
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
..นำท่านเดินทางสู่เมือง ดินง (Dinan) เมืองเล็ก ๆ มีแม่น้ำ La Ranceไหลผ่าน อยู่ในแคว้นบริทานี เมือง ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม มีคำกล่าวที่ว่า หากต้องเลือกเที่ยวสักหนึ่งเมืองในแคว้นบริทานี ก็ให้เลือก เมืองดินง เมืองที่มีความเก่าแก่สวยงามยังคงความเป็นเมืองยุคกลาง ช่วง ศตวรรษที่ 13 ไว้ได้อย่าง สมบูรณ์เพราะเมืองดินง สมารถรอดพ้นจากการถูกบอมบ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านเรือนทั้งหมด จึงเป็นของดั้งเดิมทั้งหมด

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
…นำท่านเดินสู่หมู่บ้านโรซฟอร์ อ็อง แตร์ (Rochefort en Terre) (ระยะทาง 85 กิโลเมตร ใช้เวลา ประมาณ 1 ชม. 20 นาที) อยู่ในจังหวัด Morbihan แคว้น Brittany หมู่บ้านที่จัดเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ สวยที่สุดในฝรั่งเศส the most beautiful village เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีชื่อเสียงมาจากมีจิตรกรชาว อเมริกันที่เกิดในฝรั่งเศสชื่อ Alfred Klotz มาซื้อปราสาทของเมืองนี้และได้ทำการบูรณะขึ้นในปี ค.ศ. 1907 โดยความสวยงามของเมืองนี้ขึ้นของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายแต่ผสมผสานกันอย่างลงตัวทั้ง Half-Timbered, Gothic และ Renaissance

…นำท่านเดินชมหมู่บ้านเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
…นำท่านเดินทางสู่เมือง แรนส์ (Rennes) (ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.15ชม.) เมือง หลวงของแคว้น Brittany เมืองในยุคกลางนำท่านชมเมืองชมอาคารแบบ Timber-Framed Buildings อันมีลักษณะเฉพาะตัวเดินชม Place de la Mairieที่ตั้งของศาลากลางเมืองแรนส์ (Town Hall) และ โรงละครของเมือง ถ่ายรูปกับ มหาวิหารแรนส์ (Saint-Pierre Cathedral) อันเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ใน คริสต์ศตวรรษที่ 6 เพื่ออุทิศให้แก่นักบุญเปโตร
….อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง เลือกซื้อของที่ระลึกหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก MERCURE RENNES HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
วันที่ห้า แรนส์ – ตูร์ ลุ่มแม่น้ำลัวร์ชิมไวน์ + Wine Tasting – พิเศษ พักโรงแรมสไตล์ปราสาท 2 คืน
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
…จากนั้นนำท่านสู่เขตลุ่มแม่น้ำลัวร์ (Loire River) ของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองศูนย์กลางทาง การศึกษามาตั้งแต่ยุคกลาง โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนแม่น้ำลัวร์ ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ โรมันในช่วงต้นศตวรรษที่ 1 นั่นจึงส่งผลให้เมืองตูร์เป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรมลุ่มแม่น้ำลัวร์ที่สำคัญ เมืองหนึ่งของประเทศ (ระยะทาง 250 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3.30 ชม.)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่แหล่งผลิตไวน์แห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ โดยลุ่มน้ำลัวร์ถือเป็นแหล่งผลิตไวน์ขึ้นชื่อของ ประเทศฝรั่งเศส ให้ท่านได้เข้าชมกรรมวิธีการผลิตไวน์ และให้ท่านได้ชิมไวน์เลิศรสแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ อิสระให้ท่านเลือกซื้อหรือชิมไวน์

…จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองตูร์ นำท่านเดินเล่นชมเมืองตูร์ ให้ท่านลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก พักโรงแรม สไตล์ปราสาท CHÂTEAU DE ROCHECOTTE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก2คืน)
วันที่หก ปราสาทเชอนองโซว์ – ปราสาทชองบอร์ด
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
…นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทเชอนองโซว์ (CHATEAU DE CHENONCEAUX) เป็นปราสาทเก่าแก่ มี อายุมากกว่า 400 ปี อยู่ในแคว้นนอร์มังดี ของฝรั่งเศส อาณาบริเวณโดยรอบเป็นทุ่งหญ้า และป่าเขา จึง มีทัศนียภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง ตัวปราสาทเป็นการออกแบบก่อสร้างที่ผสมผสานระหว่างศิลปะเรเนอ ซองส์กับศิลปะแบบคลาสสิคสมัยใหม่เข้าด้วยกัน โดยมีการสร้างต่อเติมหลายครั้ง ตัวปราสาทหลังใหญ่ จะตั้งอยู่ริมน้ำ และมีการต่อเติมส่วนแกลลอลี่บนตอม่อโค้ง 5 ช่อง คล่อมลงบนแม่น้ำแชร์ จนทำให้ตัว ปราสาททั้งหมดขวางอยู่กลางลำน้ำ แต่ไม่ขวางกระแสน้ำ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
…นำท่านเข้าชม ปราสาทชองบอร์ด (Chateau de Chambord) (ระยะทาง 75 กิโลเมตร ใช้เวลา ประมาณ 1 ชม.) เป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในลุ่มแม่น้ำลัวร์ สร้างในสไตล์เรอเนซองส์แบบฝรั่งเศสโดยพระ เจ้าฟรังซัวร์ที่ 1 หลังจากที่พระองค์ได้ครอบครองเมืองมิลานและได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์ อิตาลี พระองค์จึงมีพระประสงค์ที่จะสร้างปราสาทให้เป็นที่อิจฉาของยุโรปในสมัยนั้น พระองค์ทรงโปรด การล่าสัตว์ จึงสร้างปราสาทหลังนี้ขึ้นในป่าเพื่อสะดวกกับการล่าสัตว์ บริเวณปราสาทจะมีกวาง หมูป่าเดิน อยู่รอบ ๆ หลังจากสวรรคต ปราสาทแห่งนี้ได้ถูกทิ้งร้างเป็นเวลากว่า 400 ปี สัมผัสความอลังการของ ปราสาทที่ประกอบด้วยห้อง ต่างๆกว่า 440 ห้อง บันไดภายในกว่า 70 แห่ง เตาผิงไฟรวม 365 จุดใน รูปแบบที่แตกต่างกันและเป็นที่กล่าวขานว่าปราสาทแห่งนี้ ได้รับการออกแบบจากศิลปินชื่อดังของอิตาลี ลีโอนาร์โดดาร์วินซี

…จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองตูร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก พักโรงแรม สไตล์ปราสาท CHÂTEAU DE ROCHECOTTE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
วันที่เจ็ด ตูร์ – กรุงปารีส – ร้านดิวตี้ฟรี – ห้าง LA SAMARITAINE – ล่องเรือชมกรุงปารีส
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
…นำท่านเดินทางสู่ กรุงปารีส (Paris) (ระยะทาง 280 กม. ใช้เวลาประมาณ 3.45 ชม.) เมืองหลวงของ ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยุ่บนแม่น้ำแซนน์บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศสบนใจกลางแคว้น อีล-เดอ- ฟรองซ์ จากการตั้งถิ่นฐานมากว่า 2000 ปี เมืองปารีสมหานครซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองหลวง ด้านแฟชั่น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
นำท่านเดินทางสู่ ร้านปลอดภาษี (DUTY FREE) เพื่อให้ท่านได้สนุกสนานเลือกซื้อสินค้าต่างๆ มากมาย อาทิเช่นเครื่องสำอาง, น้ำหอม, เครื่องประดับ, กระเป๋าหนัง และเครื่องหนังอื่นๆ รวมทั้งเสื้อผ้า Brand Name จากยุโรป ในราคาสุดพิเศษ !!
…จากนั้นอิสระให้ท่านช็อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังเปิดใหม่ La Samaritaine ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ห้างที่มีเสน่ห์ของอาคาร แบบดั้งเดิม นั่นคือการตกแต่งแบบ Art Nouveau และ Art Décoซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น ของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ จนได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ในปี 1990 โดย กระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ห้าง La Samaritaineเป็นห้างสรรพสินค้าคอนเซปต์สโตร์แห่งใหม่ที่เน้น ย้ำถึงเสน่ห์ของชุมชนชาวปารีส ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ และ มีนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอดของฝรั่งเศส ที่ปัจจุบันมีสาขากว่า 61 แห่ง มีผู้คนมาใช้ จ่ายวันละ 1,000,000 คน /วัน ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมแทบจะทุกยี่ห้อต่างมากมาย เช่น HERMES , PRADA,LUIS VuITTON, GUCCI, LONGCHAMP, ARMANI , BOTEGA, แว่นตารองเท้า,ของ เล่นเด็ก,นาฬิกา,กระเป๋า,เครื่องสำอางค์,น้ำหอม

…อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านล่องเรือไปตามแม่น้ำแซน (Seine River) ผ่านสถานที่สำคัญโบราณสถานและอาคารที่ เก่าแก่สวยงามมากมาย อาทิเช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ศาลาว่าการโอเตล็เดอวลิส์เกาะเซ็นตห์ ลุยส์ โบสถ์นอร์ทเตรอดาม พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์แซงวาลิด พระราชวังบูร์บ็อง สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ฯลฯ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนูพิเศษ ซีฟู๊ด / หอยเอสคาร์โก้ / สเต็ก / ไอศครีม / ไวน์
ที่พัก NOVOTEL EIFFEL HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว ( พัก 2 คืน สบายๆ ไม่ต้องย้ายโรงแรม)
วันที่แปด ปารีส – หอไอเฟล – มงมาร์ต – พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ – ประตูชัย – ถนนชองป์เซลิเซ่
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
…นำท่านถ่ายรูปหอไอเฟลมุมสวน Champ de Mars เป็นมุมยอดนิยมอันดับหนึ่งในการถ่ายภาพ หอ ไอเฟล เนื่องจากหอไอเฟลนั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะชองส์เดอมาร์ส และด้วยขนาด อันกว้างใหญ่ของสวน บวกกับสนามหญ้าสีเขียวขจี และต้นไม้หลากหลายชนิดในบริเวณรอบๆ ทำให้ทุก คนสามารถเดินหามุมถ่ายภาพสวย ๆ ของหอไอเฟล

…นำท่านถ่ายหอไอเฟลจาก มุมถ่ายภาพจากช่องตึก ถนน 5 Avenue de Suffrenหรือ 228 Rue de l’Universitéซึ่งจากจุดถนน 2 ฝั่งซ้ายขวาของหอไอเฟล จากจุดนี้เราจะได้ภาพของอาคารเก่าแก่ของปารีส ทั้งสองฝั่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองปารีสกลุ่มอาคารเก่าแก่อายุหลายร้อยปีที่ได้รับการดูแลรักษาเป็น อย่างดี

…นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ (MUSEE DU LOUVRE) พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด และ เก่าแก่ที่สุด (เปิดตั้งแต่ปีค.ศ. 1793) และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เดิมทีตัวอาคารเป็นพระราชวังหลวง ต่อมาในปีค.ศ. 1672 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้ย้ายราชสำนักไปยังพระราชวังแวร์ซายส์ กระทั่งปี ค.ศ. 1793 ภายหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส ลูฟวร์จึงได้รับการบูรณะให้เป็นพิพิธภัณฑ์ และได้รับการยกย่องว่าเป็น พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมวลหมู่อาคารหลายหลัง สำหรับตัวพิพิธภัณฑ์แล้วประกอบด้วยอาคาร 3 หลังด้วยกัน แต่ละอาคารจะแบ่งประเภทงานศิลปะไว้อย่างชัดเจน โดยพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ แห่งนี้ได้จัด แสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะอันทรงคุณค่าระดับโลกไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสำคัญมีถึง 6,000 ชิ้น

…นำท่านถ่ายรูปประตูทางเข้าพิระมิดกระจกใสครอบไว้เมื่อปี 1988พิระมิดนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ ของลูฟวร์ ที่ผู้มาเยี่ยมเยือนจะต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก
…นำท่านชมภาพเขียนโมนาลิซา ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี ที่วาดโดยลีโอนาร์โด ดาวินชี ระหว่าง ปี ค.ศ. 1503 – 1505 รูปแกะสลักหินอ่อนของกรีกที่ชื่อ Venus de Milo ผลงานของอเล็กซานดรอส แห่ง Antioch, The Virgin and Child with St.Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของ เลโอ นาร์โด ดาวินชี โบราณวัตถุของอียิปต์ กรีก และโรมันมากมาย เป็นต้น

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
…นำท่านถ่ายรุปกับ ถนนชองป์เซลิเซ่ ต้นแบบถนนราชดำเนินของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้า ขายขอดีราคาแพงจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลก

…นำท่านถ่ายกับ ประตูชัย สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนโปเลียนพร้อมชมสองฟากฝั่ง
…อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย
…จากนั้นให้ท่านได้มีเวลาเดินช้อปปิ้ง ณ ถนนชองป์เซลิเซ่ ซึ่งเป็นถนนที่มีร้านค้าแบรนด์เนม และสินค้า หลากหลายให้ท่านได้เลือกซื้อตามอัธยาศัย หรือ ท่านไหนจะเลือกถ่ายรูปตามถนน ก็ได้ซึ่งมีมุมและ สถาปัตยกรรมสวยๆให้ท่านได้ถ่ายรูปเล่น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก NOVOTEL EIFFEL HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
วันที่เก้า ปารีส – จัตุรัสทรอคาเดโร – สนามบิน ชาร์ลเดอโกลด์ – กรุงเทพ
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
…นำท่านแวะเก็บภาพหอไอเฟลจากจัตุรัสทรอคาเดโร (Trocadero) ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปอีกด้านหนึ่งของหอ ไอเฟลได้อย่างสวยงาม ที่ห้ามพลาดอีกจุด อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจก่อนกลับเมือง

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย
15.35 น. (เวลาท้องถิ่น) ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบินสายการบินเอมิเรตส์(EK) โดย เที่ยวบินที่ EK074/EK384
วันที่สิบ สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพมหานคร
*.*.*. แวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ 00.20-02.50 *.*.*.
12.30 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

ทัวร์ยุโรป