ทัวร์ยุโรป (1)

ทัวร์ยุโรป Wonderful Dolomite Germany Austria Italy 9D6N (EK)

ราคาเริ่มต้น 119,999 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองออร์ติเซ่ (Ortisei) เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ เป็นเมืองรีสอร์ทเล็กๆที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Dolomites Val Gardena โดยมีเทือกเขาต่างๆอยู่รายล้อม เช่น Seceda, Resciesa, Alpe di Siusi, Monte Piz และ Col de Mesdí ฯลฯ ที่นี่จัดได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวโดโลไมท์ในด้านตะวันตก จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนตลอดทั้งปี
นำท่าน นั่งกระเช้าขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า Alpe di Siusi นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา Sasolungo Mountain Range ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่นมีเส้นทาง เดินลัดเลาะ สู่จุดชมวิวต่างๆ ให้ท่านมีเวลาเก็บภาพสวยๆ อันประทับใจก่อนท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศสุดที่จะบรรยาย อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย
ยุโรปนั้นยังคงมนต์ขลังไว้เช่นเดิม ย่านวอเตอร์ ฟร้อนท์ เพิ่มเสน่ห์ด้วยสีสันของร้านรวงสมัยใหม่เข้าไปได้อย่างเก๋ไก๋ลงตัว ซึ่งนี่เองคืออีกหนึ่งความผสมผสานที่เป็นเสน่ห์ของเมืองนี้

วันที่เดินทาง

11 มี.ค. 67 – 19 มี.ค. 67, 11 เม.ย. 67 – 19 เม.ย. 67

ทัวร์ยุโรป

กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
2 สนามบินเมืองมิวนิค-มิวนิค-จัตุรัสมาเรียพลัทซ์-ชมเมืองเก่ามิวนิค
02.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยสายการบิน เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK377 (02.00-06.00+1) / EK49 (08.40-12.30)
ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 17 ชั่วโมง 25 นาที (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
12.30 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี (ปลายเดือน มี.ค.-ต.ค เวลาท้องถิ่นช้ากว่า]ประเทศไทย 5 ชั่วโมง พ.ย.-ต้นเดือน มี.ค. เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (Munich) ประเทศเยอรมัน หรือในภาษาเยอรมันเรียกเมืองนี้ว่า มึนเซน (Munchen) เมืองศูนย์กลางของวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการจัดงานเทศกาลเบียร์ หรือ “ออคโตเบอร์เฟส” ในเดือนตุลาคมของทุกปี ที่มีเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย ซึ่งเป็นอีกเมืองในยุโรปที่มีบรรยากาศดีและสวยงาม อิสระให้ท่านพักผ่อนเดินเล่นชมเมืองมิวนิค นำท่านชม ศาลากลางของเมืองมิวนิค (Neues Rathaus) ที่ตั้งอยู่ด้านเหนือของ จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ หรือ จัตุรัสพระแม่มารี คือจัตุรัสกลางเมืองของนครมิวนิค ถือเป็นจัตุรัสหลักประจำเมืองมาตั้งแต่ ค.ศ. 1158 และยังเป็นที่ตั้งของเสาอนุสรณ์ พระแม่มารี ซึ่งตั้งตระหง่านที่จัตุรัสแห่งนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1638 ในปัจจุบัน ด้านเหนือของจัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองแห่งเก่า และด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งของศาลาการเมืองแห่งใหม่ จัตุรัสนี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของมิวนิคเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านสินค้า แบรนด์เนมต่างๆ ให้ท่านเดินเลือกชมได้อย่างมากมาย มีสถาปัตยกรรมต่างๆที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์โกธิค นำท่านถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมืองเก่า (Old town hall หรือ Altes Rathaus) ตัวอาคารขนาดไม่ใหญ่นักแต่มีลวดลายสีสันสดใสสะดุดตา อิสระให้ท่านเดินชมเมืองและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหาร Hofbraeuhaus (พิเศษ! ขาหมูเยอรมัน+เบียร์ท่านละ 1 แก้ว)
พักที่ Hotel Courtyard by Marriott Munich City Center หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
(**โรงแรมที่นำเสนอเป็นการนำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่พักทางบริษัทจะทำการแจ้ง 3 – 5 วันก่อนการ เดินทาง เนื่องจากโรงแรมมีจำนวนจำกัด หากเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไปนอนเมืองใกล้เคียงแทน**)
3 ปราสาทนอยชวานสไตน์-เมืองอินน์สบรูค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินสู่ เมืองชวังเกา (Schwangau) เป็นเมืองชนบทในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี หมู่บ้านเล็กๆ ที่เป็นที่ตั้งของปราสาทอันโด่งดัง เมืองชวังเกาตั้งอยู่ติดกับชายแดนประเทศออสเตรีย ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบฟอร์เกิน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร
นำท่านเดินทางเข้าชม ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) แห่งบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ปราสาทสวยที่แม้แต่ราชาการ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ ยังหลงใหลนำไปเป็นปราสาทเจ้าหญิงนิทราในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของตัวปราสาทที่โดดเด่นและมีทะเลสาบและธารน้ำ เปรียบได้กับปราสาท 3 ฤดู ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปเยือนในช่วงฤดูไหน ก็จะมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันออกไป ทุกห้องในปราสาท ตกแต่งงดงาม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินน์สบรูค (Innsbruck) หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน “Inn River” และโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาแอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้ ระหว่างทางท่านจะได้พบกับวิวสองข้างทางที่สวยงาม ตามถนนเส้นทางอัลไพน์ ผ่านทั้งเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบ หมู่บ้าน ทุ่งหญ้า
นำท่านเข้าสู่ตัวเมืองนําท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ อาคารหลังคาทองคํา (Goldenness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อน และมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประทับใจกับ เฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus)ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโค เข้าไปในศตวรรษที่18 ทำให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดน เนอร์แอดเลอร์ (Goldener Adler Hotel) สร้างตั้งแต่ ค.ศ.ที่16 เป็น โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและยังเคยใช้ต้อนรับ อะคันตุกะจากต่างแดน มาแล้วอย่างมากมาย อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
พักที่ Hotel Grauer Bär หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
(**โรงแรมที่นำเสนอเป็นการนำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่พักทางบริษัทจะทำการแจ้ง 3 – 5 วันก่อนการ เดินทาง เนื่องจากโรงแรมมีจำนวนจำกัด หากเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไปนอนเมืองใกล้เคียงแทน**)

4 พิพิธภัณฑ์สวารอฟสกี คริสตัลเวิลด์-หมู่บ้านวาล ดิ ฟุเน่-โบสถ์ซานตา แมดดาลีน่า
คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองวัตเทน (Wattens) เป็นที่ตั้งของ บริษัทคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski Crystal Glass Company) โรงงานผลิตคริสตัลที่มีชื่อเสียงระดับโลก หรือที่รู้จักกันในชื่อ สวารอฟสกี้ คริสตัล เวิลด์ (Swarovski Crystal World) แห่งแรกของโลก สวารอฟสกี คริสตัลเวิลด์ ให้บริการตั้งแต่ปี 1995 เพื่อฉลองวาระครบรอบ 100 ปี โดยมี André Heller ศิลปินผู้ออกแบบ ให้มีเอกลักษณ์โดดเด่น และความมหัศจรรย์ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนจากทั่วทุกมุมโลกมีเนื้อที่ที่สามารถจุสนามฟุตบอลได้มากกว่า 10 สนาม สวนของไจแอนท์มีหัวพันธุ์ดอกไม้ปลูกไว้ถึง 72,445 หัว ภายในมีห้องที่เต็มไปด้วยความประกายสุกใสของคริสตัล พื้นที่ด้านนอกที่เป็นสวนอันงดงามของคริสตัล ให้นักท่องเที่ยวได้เคลิบเคลิ้มไปกับแสงระยิบระยับจากเมฆคริสตัล Crystal Cloud ประกอบด้วยคริสตัลมากกว่า 600,000 ชิ้นอิสระให้ท่านชมและเลือกซื้อสินค้าใน Swarovski Kristallwelten Store ศูนย์รวมสินค้าครบทุกชนิดที่มีอยู่ในโลกของผลิตภัณฑ์จาก Swarovski ตั้งแต่อัญมณีไปจนถึงประติมากรรมขนาดเล็ก รวมทั้ง Swarovski Optik และ Swarovski Lichtdesign ตามแบบฉบับสวารอฟสกี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำเดินทางเมืองสู่ เมืองบริกเซ่น (Brixen) เมืองเก่าแก่ในแคว้น South Tyrol ให้ท่านเดินเล่นชมเมืองโดยเมืองบริกเซ่นมีโบสถ์ประจำเมืองคือ Cathedral of Brixen ที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 10 และมีการรีโนเวตใหม่ในศตวรรษที่ 18 เป็นโบสถ์สไตล์บาโรก ที่สวยงาม อิสระให้ท่านเดินเล่นชมจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านวาล ดิ ฟุเน่ (Val Di Funes) มหัศจรรย์ของดินแดนแห่งธรรมชาติกับยอดเขาแปลกตาอีกแห่งในโดโลไมท์ เป็นหมู่บ้านมรดกโลกของอิตาลี รายล้อมด้วยเทือกเขาสูงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนที่เมืองแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวสดใส สดชื่นสบายตา
นำท่านถ่ายภาพกับโบสถ์ซานตา แมดดาลีน่า (Santa Maddalena Church) เป็นโบสถ์ที่อุทิศแด่ เซนต์แมดดาลีน่า (St. Maddalena) เป็นสิ่งก่อสร้างที่อยู่คู่เมืองแห่งนี้มาไม่ต่ำกว่า 600 ปี โบสถ์แห่งนี้อาจดูไม่ได้สวยงามใหญ่โตเหมือนโบสถ์ในเมืองใหญ่ๆ แต่สิ่งที่ทำให้โบสถ์แห่งนี้มีชื่อเสียง คือวิวทิวทัศน์เบื้องหลังของโบสถ์ที่มีฉากหลังเป็นยอดเขาโอดเล่ (Odle) อันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ (Puez-Odle National Park) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี งดงามเหนือคำบรรยาย เป็นหนึ่งในจุดชมวิวมหาชนที่ท่านต้องไม่พลาดนำมาเก็บเป็นภาพประทับใจ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ (Cortina D’ampezzo) เมืองสกีรีสอร์ท ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ เป็น Best of The Alps เพียงแห่งเดียวของอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1956 และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 007 ตอน For Your Eye Only เมืองนี้อยู่สูงจากน้ำทะเล 1,219 เมตร ได้รับการขนานนามว่าเป็น ไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมท์ เป็นสถานที่ตากอากาศตลอดปีของชนชั้นสูง และบรรดาหนุ่มสาว ที่ไม่ได้มาเพียงเพื่อเล่นสกีเท่านั้น แต่ในหน้าร้อนมักนิยมท่องเที่ยวแบบ Hiking ปีนเขาชมทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียง
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหาร
พักที่ Hotel Alaska Cortina หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (พัก 2 คืน)
(**โรงแรมที่นำเสนอเป็นการนำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่พักทางบริษัทจะทำการแจ้ง 3 – 5 วันก่อนการ เดินทาง เนื่องจากโรงแรมมีจำนวนจำกัด หากเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไปนอนเมืองใกล้เคียงแทน**)
5 เมืองออร์ติเซ่-นั่งกระเช้าขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า Alpe di Siusi-ทะเลสาบเบรียส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองออร์ติเซ่ (Ortisei) เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ เป็นเมืองรีสอร์ทเล็กๆที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Dolomites Val Gardena โดยมีเทือกเขาต่างๆอยู่รายล้อม เช่น Seceda, Resciesa, Alpe di Siusi, Monte Piz และ Col de Mesdí ฯลฯ ที่นี่จัดได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวโดโลไมท์ในด้านตะวันตก จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนตลอดทั้งปี
นำท่าน นั่งกระเช้าขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า Alpe di Siusi นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา Sasolungo Mountain Range ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่นมีเส้นทาง เดินลัดเลาะ สู่จุดชมวิวต่างๆ ให้ท่านมีเวลาเก็บภาพสวยๆ อันประทับใจก่อนท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศสุดที่จะบรรยาย อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย
ยุโรปนั้นยังคงมนต์ขลังไว้เช่นเดิม ย่านวอเตอร์ ฟร้อนท์ เพิ่มเสน่ห์ด้วยสีสันของร้านรวงสมัยใหม่เข้าไปได้อย่างเก๋ไก๋ลงตัว ซึ่งนี่เองคืออีกหนึ่งความผสมผสานที่เป็นเสน่ห์ของเมืองนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร
จากนั้นนำท่านชมความงามของ ทะเลสาบเบรียส (Lake Braies) ซึ่งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ ให้ทุกท่านได้ ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบเบรียส ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมท์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมท์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unseco)
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหาร
พักที่ Hotel Alaska Cortina หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว (พัก 2 คืน)
(**โรงแรมที่นำเสนอเป็นการนำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่พักทางบริษัทจะทำการแจ้ง 3 – 5 วันก่อนการ เดินทาง เนื่องจากโรงแรมมีจำนวนจำกัด หากเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไปนอนเมืองใกล้เคียงแทน**)

6 ทะเลสาบอันตอร์โน-ทะเลสาบมิซูลิน่า-เวนิส-เที่ยวชมเกาะเวนิส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านแวะถ่ายรูป ทะเลสาบอันตอร์โน (Lake Antorno) ทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากทะเลสาบมิซูริน่า เพียง 2 กิโลเมตรที่มีฉากหลังเป็นยอดเขา Tre Cime เป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน นำท่านเดินถ่ายรูปกับ ทะเลสาบมิซูลิน่า (MISURINA LAKE) ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขา ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งในโดโลไมท์ นำท่านแวะถ่ายภาพบริเวณ ทะเลสาบมิซูรีน่า (Lake Misurina) เป็นทะเลสาบอยู่บนภูเขาสูงที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินเลยทีเดียว ด้วยบรรยากาศของท้องฟ้า มีภูเขาสูงเป็นฉากหลังสวยงาม มองเห็นวิวทิวทัศน์ยิ่งใหญ่อลังการของทะเลสาบ ทิวสนด้านข้าง อาคารสีเหลืองทอง และที่สำคัญสถานที่แห่งนี้อากาศบริสุทธิ์มากจน อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต (Tronchetto) เพื่อโดยสารเรือสู่ เกาะเวนิส (Venice Island) เมืองในฝันของนักท่องเที่ยวหลายๆคน ชมความสวยงามของ จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) จุดศูนย์กลางของเกาะเวนิส ที่รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ มหาวิหารซานมาร์โค (St. Mark’s Basilica) เดิมที่เป็นโบสถ์ส่วนตัวของผู้ครองเมืองในสมัยนั้น พระราชวังดอจส์ (Doge’ s Palace) ภายในของพระราชวังซึ่งประกอบด้วยห้องที่ประทับ เรือนรับรอง ห้องทรงงาน ห้องดนตรี ห้องลีลาศ และห้องพิจารณาคดีซึ่งจะมี สะพานทอดถอนใจ (Bridge of Sighs) ที่เชื่อมต่อกับคุก ถ่ายรูปกับ ลีโอเน่ (Lione) รูปปั้นสิงโตตัวใหญ่ติดปีกพร้อมถือหนังสือ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเวนิส อิสระให้ท่านเดินชมความโรแมนติกของเกาะแห่งนี้พร้อมทั้งช้อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงมากมายอย่างเช่นเครื่องแก้วมูราโน่ ซึ่งที่นี่เป็นศูนย์กลางการผลิตมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 พร้อมทั้งให้ท่านได้ร่วมชมสาธิตการเป่าแก้วที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอีกด้วย ***อิสระ การล่องเรือกอนโดล่า เอกลักษณ์ของเมือง และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกชมความงามสุดแสนโรแมนติกของเกาะเวนิส (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)***
นำท่านเดินทางกลับมายังฝั่งเวนิส (Venice Mestre) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ของ ประเทศอิตาลี เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียติก เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุดของประเทศอิตาลี
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหาร
พักที่ Hotel Leonardo Royal Hotel Venice Mestre หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
(**โรงแรมที่นำเสนอเป็นการนำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่พักทางบริษัทจะทำการแจ้ง 3 – 5 วันก่อนการ เดินทาง เนื่องจากโรงแรมมีจำนวนจำกัด หากเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไปนอนเมืองใกล้เคียงแทน**)

7 เมืองเวโรน่า-ชมเมืองเวโรน่า-เมืองซีร์มิโอเน่-มิลาน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (Verona) อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ อิตาลี เป็นเมืองที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับสองในแคว้น เวเนโต รองจาก เมืองเวนิส เมืองเวโรนาได้รับสมญานามว่า “LITTLE ROMAN” เพราะยังคงสภาพสิ่งก่อสร้างจากสมัย โรมันไว้อย่างสมบูรณ์ เป็นเมืองที่มากไปด้วยกลิ่นอายแห่ง ศิลปะและวัฒนธรรม เป็นเมืองขนาดกระทัดรัด อบอุ่น ล้อมรอบด้วยสายน้ำ ในปี ค.ศ. 2000 องค์การ การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่ง สหประชาชาติก็ประกาศให้เวโรนาเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม นำท่านถ่ายภาพด้านนอก Verona Arena โรงละครกลางแจ้งแบบโรมัน ลักษณะเหมือนโคลอสเซี่ยมที่โรมแต่ขนาดเล็กกว่า นอกจากนี้ เวโรนาเป็นเมืองแห่งความรัก ที่มีเรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มสาวของสองตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ มองตากิว(โรมีโอ) และ คาปูเล็ต (จูเลียต) ยิ่งเมื่อ วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ เอาเรื่องราวของโรมิโอกับจูเลียต มาเขียนเป็นบทละครเวที ชื่อเสียงของ โรมีโอ จูเลียต และ เวโรนา ก็โด่งดังมากขึ้นและดึงดูดให้นักท่องเที่ยว นำท่านถ่ายภาพด้านนอก บ้านของจูเลียต (Casa di Giulietta) ชม ระเบียงหินอ่อนเล็กๆ ที่สมุมติเป็นฉากที่จูเลียตเคยยืนอยู่โดยมีโรมิโอมาคอยเฝ้าขอความรักอยู่ด้านล่าง ซึ่งหน้าบ้านจูเลียต ปัจจุบันคือร้าน Armani ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไปจับที่หน้าอกของรูปปั้นจูเลียต นอกจากนี้ภายในบริเวณกำแพงบ้านจูเลียตยังมีการเขียนแสดงความรักกันมากมายจนแทบไม่เห็นสีกำแพงเดิม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซีร์มิโอเน่ (Sirmione) เมืองปราสาทเก่าแก่ห้อมล้อมด้วย ทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) เก่าแก่อายุนับ 2000 ปี ลักษณะเมืองเป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดาที่สวยงามมีมาก่อนศตวรรษที่ 15 ซีร์มิโอเน่ อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองเวนิส หรือจะเรียกได้ว่าเป็นอาณาบริเวณหนึ่งของ เมืองเวนิส เพราะสมัยนั้นเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลียังไม่ได้รวมตัวกันต่างเป็นเอกเทศปกครองตนเองแถมมีการทำสงครามเพื่อแย่งชิงเมือง ซีร์มิโอเน่เลยเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ที่สำคัญมีหลักฐานและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคสมัยโรมันทั้งกำแพงเมืองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันสงครามในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีผู้คนที่มี ฐานะในยุคสมัยโรมันใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ปัจจุบันจึงกลายเป็นเมืองพักผ่อนริม ทะเลสาบการ์ดา ชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบ ซี่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์ ดังนั้นซีร์มิโอเน่ จึงถูกล้อมรอบ ด้วยทะเลสาบทั้งสองด้าน ถึงแม้จะเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาพักผ่อนตลอดทั้งปี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน(Milan) เมืองใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงโรม ตั้งอยู่ทาง ตอนเหนือของประเทศอิตาลี มิลานได้ชื่อว่าเป็นหลวงแห่งแฟชั่นชั้นนำของโลกอีกเมืองหนึ่ง เช่น เดียวกับปารีสและนิวยอร์ค อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของประเทศอิตาลีอีกด้วย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหาร
พักที่ Hotel DoubleTree by Hilton Milan หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
(**โรงแรมที่นำเสนอเป็นการนำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่พักทางบริษัทจะทำการแจ้ง 3 – 5 วันก่อนการ เดินทาง เนื่องจากโรงแรมมีจำนวนจำกัด หากเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไปนอนเมืองใกล้เคียงแทน**)
8 ชมเมืองมิลาน-มหาวิหารดูโอโม่-ช้อปปิ้ง แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ณ โรงแรม
นำท่านถ่ายภาพด้านนอก มหาวิหารดูโอโม่ (Duomo di Milano) แห่งเมืองมิลาน มหาวิหารนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ที่ถือว่ามีความใหญ่โตเป็นอันดับสามของโลก เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1386 แต่กว่าจะเสร็จต้องใช้เวลากว่า 400 ปี ด้านนอกมีหลังคายอดเรียวแหลมที่ทำจากหินอ่อนจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากสมัยต่างๆ กว่า 2,245 ชิ้น ยอดที่สูงที่สุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตรของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอกที่ โรงละครลาสกาล่า (La Scala Theatre) เป็นโรงละครคู่เมืองมิลานมากว่า 230 ปี เป็นสถานที่แสดงโชว์ชื่อดังมากมาย และที่ด้านหน้าโรงละครสกาล่าบริเวณจัตุรัส พิอาซซ่า เดลล่า สกาล่า จะได้เห็นรูปปั้น อนุสรณ์แห่งลีโอนาร์โด ดาวินซี (Statue of Leonardo Da Vinci) โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ลีโอนาร์โด ดาวินซี นักประดิษฐ์และนักวิทยาศาตร์คนสำคัญของโลก
กลางวัน อิสระ รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่าน ช้อปปิ้งภายในอาคาร แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 (Galleria Vittorio Emanuele ll)
ช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีชื่อเรียกเล่นๆว่าเป็นห้องนั่งเล่นของ เมืองมิลาน เพราะนอกจากจะมีสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงขายแล้ว ยังมีร้านกาแฟที่เรียกกันว่าไซด์ วอล์ค คาเฟ่
นั่งจิบคาปูชิโน นั่งดูหนุ่มสาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าทันสมัย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมความงดงามของอาคารหลังนี้ หรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเมืองมิลาน เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ
21.35 น. ออกเดินทางจากเมืองมิลาน กลับกรุงเทพฯ โดย เอมิเรตส์แอร์ไลน์(EK) เที่ยวบินที่ EK92 (21.35-06.50) / EK372 (09.30-18.40(+1) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง 5 นาที (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
9 กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)
18.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป