b43dfd603cba44e6e10f30930fbce988

ทัวร์ยุโรป Spain บาร์เซโลนา ซาราโกซ่า โตเลโด มาดริล เซโกเวีย 8 วัน 5 คืน (EK)

ราคาเริ่มต้น 92,999 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

นำท่านชม สวนสาธารณะ ปาร์ค กูเอล (Park Güell) ถูกสร้างในปี 1900 โดยใช้เวลาถึง 14 ปี ในการสร้าง สวนเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาคาร์เมล ด้วยศิลปะงานโมเสคและเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของสถาปนิกชื่อดัง “เกาดี อี กูร์เนต (Antoni Gaudi i Cornet)” นอกจากนี้องค์การยูเนสโกได้ทำการยกย่องให้สภานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกอีกหนึ่งสถานที่ในประเทศสเปนอีกด้วย และเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของเมืองบาร์เซโลนา จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้คือ “มังกรโมเสค (Mosaic dragon)” ไต่คลานบนบันไดน้ำพุ จากมุมนี้เราสามารถเห็นวิวของเมืองบาร์เซโลนาได้อย่างกว้างขวางแถมยังเห็นวิวทะเลอยู่ไกลๆ

วันที่เดินทาง

18-25 ก.พ.67, 09-16 เม.ย. 67

17.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 ROW S เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตส์ Emirate Airline (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน
20.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK373 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
ไฟล์บินอาจมีปรับเวลาไม่มีผลต่อโปรแกรมเดินทาง
ตรวจสอบไฟล์ทบินได้ตามตารางอัตราค่าบริการ

00.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)
03.45 น. ออกเดินทางสู่ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยเที่ยวบินที่ EK255
08.15 น. เดินทางถึง สนามบินบาร์เซโลนา เอล แปรต (Barcelona–El Prat) ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) นครใหญ่แห่งคาตาลันยา และเมืองสำคัญอันดับ 2 ของสเปน และเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นอาณานิคมของโรมันมาก่อน เคยถูกยึดครองโดยชาติต่าง ๆ หลายครั้ง รวมทั้งฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ. 1640

จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่ มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา หรือ ซากราดาฟามิเลีย (La Sagrada Familia) โบสถ์เก่าแก่ที่ใช้เวลาสร้างมายาวนานมากเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มหาวิหารแห่งนี้ออกแบบโดย “เกาดี อี กูร์เนต (Antoni Gaudi i Cornet)” เป็นผลงานในแนวมูดาร์นิซมา ซึ่งเป็นงานศิลปะเฉพาะถิ่นและเป็นนวศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกาตาลุญญา มหาวิหารแห่งนี้มีความสูงถึง 170 เมตร เป็นศิลปะแบบนีโอ โกธิค ด้วยแนวความคิดการคืนกลับสู่ธรรมชาติ ตัวอาคารบรรจงประดับด้วยโมเสคจากเวเนเชี่ยน ประดับด้วยปฏิมากรรมแกะสลักจากหินหลายพันชิ้นจากศิลปินสเปน ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ก็ยังดำเนินการก่อสร้างคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2026

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านชม สวนสาธารณะ ปาร์ค กูเอล (Park Güell) ถูกสร้างในปี 1900 โดยใช้เวลาถึง 14 ปี ในการสร้าง สวนเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาคาร์เมล ด้วยศิลปะงานโมเสคและเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของสถาปนิกชื่อดัง “เกาดี อี กูร์เนต (Antoni Gaudi i Cornet)” นอกจากนี้องค์การยูเนสโกได้ทำการยกย่องให้สภานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกอีกหนึ่งสถานที่ในประเทศสเปนอีกด้วย และเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของเมืองบาร์เซโลนา จุดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้คือ “มังกรโมเสค (Mosaic dragon)” ไต่คลานบนบันไดน้ำพุ จากมุมนี้เราสามารถเห็นวิวของเมืองบาร์เซโลนาได้อย่างกว้างขวางแถมยังเห็นวิวทะเลอยู่ไกลๆ

จากนั้นนำท่านถ่ายภาพกับ คาซ่า มิลา (Casa Mila) หรือลา เปเดอรา (La Pedrera) ตึกประหลาดที่มีเอกลักษณ์ที่เด่นชัดสะดุดตา อีกหนึ่งผลงานของสถาปนิกชื่อดัง “เกาดี อี กูร์เนต (Antoni Gaudi i Cornet)” แรงบันดาลใจของ Casa Mila มาจากธรรมชาติ คลื่น ภูเขา การทาสีผนังด้านในให้เหมือนอยู่ในทะเล หรือทาสีเพดานเป็นรูปดอกไม้สีสันสวยประหลาด

ใกล้กันนำท่านชมกับตึกประหลาดอีก 1 แห่งคือ คาซ่า บัตโล่ (Casa Battlo) สร้างครั้งแรกเมือปี ค.ศ. 1877 จากนั้นได้รับการออกแบบใหม่ในปี ค.ศ. 1904 และได้รับการตกแต่งใหม่หลายครั้ง อีกหนึ่งผลงานของสถาปนิกชื่อดัง “เกาดี อี กูร์เนต (Antoni Gaudi i Cornet)” เดิมเป็นพื้นที่ให้บริการสำหรับผู้เช่าอพาร์ตเมนต์ ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ด้านหน้าของบ้านสไตล์โมเดิร์นนิสต์หลังนี้ตกแต่งด้วยหน้าต่างรูปไข่ ด้านหน้าส่วนใหญ่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคที่หลากสี ที่เริ่มต้นด้วยโทนสีส้มทองและกลายเป็นสีฟ้าอมเขียว

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดินลารัมบลาส (La Rambla) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของ ตลาด Mercat de la Boqueria ถนนมีความยาวตั้งแต่จัตุรัส Pizza Catalunya ไปถึงท่าเรือ Port Vell เป็นระยะทางกว่า 1 กม. ถนนคนเดินแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในบรรดานักท่องเที่ยว

ค่ำ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
ที่พัก Novotel Cornella หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เขามอนต์เซอร์รัต (Montserrat Mountain) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ช.ม.) แห่งแคว้นกาตาลุญญาหรือคาตาโลเนีย (Catalonia) เป็นที่ตั้งของ ซานตามาเรีย เดอ มอนต์เซอร์รัต (Santa Maria de Montserrat)

จากนั้นนำท่าน นั่ง Cable Car กระเช้าขึ้นสู่ เขามอนต์เซอร์รัต (Montserrat Mountain) โดยกระเช้า มหาวิหาร ซานตามาเรีย เดอ มอนต์เซอร์รัต มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 11 และสร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 20 ภายในมหาวิหารเป็นที่ประดิษฐาน รูปปั้นพระมารดาแห่งมอนต์เซอรรัต หรือ พระแม่มารีดำ (Black Madonna) อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณของคาตาโลเนียและสถานที่แสวงบุญที่มีชื่อเสียงของสเปน โดยรอบมีโบสถ์ ร้านอาหาร ร้านค้า โรงแรม ห้องสมุด และสำนักนักบวช

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองซาราโกซ่า (Zaragoza) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2.40 ช.ม.) อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นอารากอนของประเทศสเปน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอโบรและแควสาขาอูเอร์บาและกาเยโก ในหุบเขาตอนกลางของแคว้นซึ่งมีภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทะเลทราย ป่าหนาทึบ ทุ่งหญ้า ไปจนถึงทิวเขา

นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสพลาซา เดล พิลาร์ (Plaza Del Pilar) จัตุรัสคนเดินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสเปนอันเป็นศูนย์รวมของผู้คนในเมืองเมืองหลวงแห่งแคว้นอารากอนในประเทศสเปน ดินแดนแห่งสถาปัตยกรรมโรมัน บริเวณใกล้กันมี มหาวิหารของพระเยซูคริสต์ (La Seo de Zaragoza) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกทรงคุณค่า ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซาราโกซ่า สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1380 และ 1550 เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างโกธิคบาโรก และมัวร์ได้อย่างลงตัวสวยงามจนถูกยกย่องให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกยุคใหม่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก Diagonal Plaza หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชม มหาวิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์ (Basilica of our lady of the pillar) หรือ ซานตามาเรีย เดอร์ฟิลลาร์ เป็นมหาวิหารคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก สถาปัตยกรรมสไตล์บาร็อค มหาวิหารนี้สร้างทับโบสถ์หลังแรก มีขนาด 8,318 ตารางเมตร ใช้เวลาสร้าง 191 ปี ช่วงปี ค.ศ.1681–1872 ตามตำนานสมัยแรกเริ่มของพระศาสนจักรกล่าวไว้ว่า นักบุญยากอบองค์ใหญ่อัครสาวก (St. Apostle James the Greater) เป็นผู้นิพนธ์พระวรสารที่ซีซาเรากุสต้า (Caesaraugusta เป็นชื่อเดิมของเมืองซาราโกซ่า) กระนั้นงานแพร่ธรรมของท่านไม่ได้เกิดผลมากมายนัก จนกระทั่งท่านเห็นพระนางมารีย์มาปรากฎเพื่อชักชวนท่านไปยังกรุงเยลูซาเล็ม ในนิมิตนั้นพระนางปรากฎอยู่บนเสาที่ถูกแบกมาโดยหมู่เทพนิกร และเชื่อกันว่าเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ต้นเดียวกับที่เป็นที่เคารพนับถือกันในซาราโกซ่า

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงมาดริด (Madrid) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 3.20 ช.ม.) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของทวีปยุโรป รองจาก กรุงลอนดอน และกรุงเบอร์ลิน และในเขตเมืองยังเป็นอันดับที่ 3 ของยุโรป รองจากกรุงลอนดอน และกรุงปารีส อีกด้วย กรุงมาดริด

ชม ปูเอร์ตา เดล โซล (Puerta del Sol) หรือประตูพระอาทิตย์เป็นจัตุรัสสาธารณะกลางกรุงมาดริด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย และมีผู้คนพลุกพล่านที่สุดในเมือง ในย่านแห่งนี้มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกมากมาย

ใกล้กันท่านจะได้พบกับอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากดังไปทั่วโลก อนุสาวรีย์หมีและต้นไม้สตรอเบอร์รี่ (El Oso y el Madroño) เป็นประติมากรรมจากช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 เป็นสัญลักษณ์แทนตราแผ่นดินของมาดริด และตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของ Puerta del Sol ระหว่าง Calle de Alcalá และ Carrera de San Jerónimo และฝั่งตรงข้าม ปูเอร์ตา เดล โซล มีอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ สัญลักษณ์แผ่นหินบนทางเท้า (Kilometer Zero) ที่เก่าแก่มีอายุตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 ทำหน้าที่เป็นศูนย์กม.จากการวัดถนนในแนวรัศมีทุกเส้นในสเปน ซึ่งแสดงให้เห็นโดยแผ่นป้ายบนพื้นของจัตุรัสซึ่งระบุจุดที่แน่นอนของกม.0 ก่อตั้งในปี ค.ศ.1857

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พิเศษ!! นำท่านชมโชว์ ระบำฟลามิงโก้ ศิลปะระบำสเปน มรดกแห่งภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขนานนามโดยองค์การยูเนสโกหนึ่งในการแสดงที่ขึ้นชื่อลือชาไปทั่วโลก ทั้งท่วงท่าการร่ายรำประกอบเสียงดนตรีที่เร้าใจสนุกสนาน

ที่พัก NH Ventas หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองโตเลโด (Toledo) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ช.ม.) เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่บนเนินเขา มีทั้งภูเขาและแม่น้ำเป็นกำแพงธรรมชาติล้อมรอบ มีป้อมปราการ มีกำแพงเมือง มีประตูเมืองกั้นเขตเมืองเก่าอีกชั้น ในปี ค.ศ. 1986 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมากมายในฐานะหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิสเปน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ชาวยิว และชาวมัวร์อยู่ร่วมกันอีกด้วย

นำท่านเข้าชม มหาวิหารแห่งโตเลโด (Toledo Cathedral) ที่เริ่มสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1227 เสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อ ค.ศ. 1493 ซึ่งสร้างขึ้นจากที่ตั้งของมัสยิดเดิม เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาธอลิกในเมืองโตเลโด เป็นมหาวิหารที่มีความโดดเด่นด้วยความงามของศิลปะและสถาปัตยกรรม ศิลปะโกธิกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 มีต้นกำเนิดจากชาวมัวร์ แต่ส่วนหลักถูกสร้างขึ้นในปี 1559

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองเซโกเบีย หรือเซโกเวีย (Segovia) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ช.ม.) เมืองมรดกโลกแห่ง แคว้นคาสตีล และเลออน ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมา กับแม่น้ำกลาโมเรส ที่ตีนเขากวาดาร์รามา เป็นเขตเมืองเก่าล้อมรอบด้วยกำแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 และได้รับการบูรณะในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันเป็นแหล่งมรดกโลกตามการประกาศจากองค์การยูเนสโก

นำท่านชม สะพานส่งน้ำโบราณ (Aqueduct of Segovia) เป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้มากที่สุด สร้างขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 1 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 โดยชาวโรมันขณะที่กำลังขยายอำนาจในคาบสมุทรไอบีเรียเพื่อนำน้ำจากแม่น้ำฟรีโอ (Río Frío) ซึ่งห่างออกไปประมาณ 18 กิโลเมตรเข้าสู่ตัวเมือง ซึ่งต้องยกระดับตัวสะพานขึ้นในช่วง 1 ก.ม. สุดท้ายจากภูเขากวาดาร์รามาถึงกำแพงเมืองเก่า ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของเซโกเบียอีกด้วย

โดยบริเวณรอบๆจะมี จัตุรัสอาโซเกโฆ (Plaza del Azoguejo) เป็นจุดศูนย์กลางของเขตเมืองเก่า บริเวณนี้จะมีบันไดให้ท่านขึ้นไปและสามารถมองเห็นวิวของเมืองและสะพานส่งน้ำได้อย่างชัดเจนและสวยงาม นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงจะเป็นเขตเมืองเก่าตามซอยตามถนนจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากกลับบ้านได้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พิเศษเมนูหมูหันสไตล์สเปน
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงมาดริด (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1.20 ช.ม.)
ที่พัก NH Ventas หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชม พลาซ่า เดอ เอสปาน่า (Plaza de España) เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริด ใจกลางจัตุรัสคืออนุสาวรีย์ที่ประกอบด้วยเสาหินที่มีรูปปั้น มิเกล เด เซร์บันเตส เป็นนักเขียนชาวสเปน มีผลงานที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า และมีประติมากรรมสำริดของ ดอนกิโฆเต้และซานโช ปันซา อยู่ตรงใต้ฝ่าเท้าด้านหน้าของอนุสาวรีย์ ส่วนด้านข้างจะประติมากรรมหินของ Aldonza Lorenzo ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้อยู่ติดกับตึกระฟ้าที่โดดเด่นที่สุดสองแห่งของมาดริด

จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังหลวงแห่งมาดริด (Royal Palace of Madrid) เป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของราชวงศ์สเปนที่เมืองมาดริดแม้ว่าปัจจุบันจะใช้สำหรับพิธีการของรัฐเท่านั้น เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดที่ยังคงใช้งานอยู่และเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ภายในพระราชวังหลวงแห่งนี้แบ่งเป็นห้องต่างๆ ถึง 3,400 ห้อง ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามหรูหรา จัดแสดงผลงานศิลปะเลอค่าชั้นสูงมากมาย รวมถึงเครื่องลายคราม ชุดเกราะโบราณ อาวุธต่างๆ ที่กษัตริย์สเปนและราชวงศ์เคยใช้เป็นเวลาหลายร้อยปีถูกออกเเบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ที่เน้นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยนเเละฝรั่งเศส จึงมีลักษณะคล้ายๆ กับพระราชวังเเวร์ซายน์ที่ฝรั่งเศส

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่นพิเศษกับ เมนู Paella ข้าวผัดสเปน
นำท่านช้อปปิ้งที่ หมู่บ้านลาส โรซาส (Las Rozas outlet village) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 30 นาที) แหล่งช้อปปิ้งเอาท์เล็ทสุดหรูชานเมืองมาดริด สถานที่ที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศที่มอบส่วนลดมากสุดถึง 60% ตลอดทั้งปี มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อเช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ และเครื่องเรือนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายให้เลือก

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงมาดริด (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 40 ช.ม.)
นำท่านเดินเล่นที่ พลาซ่ามายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1580 เสร็จในปี ค.ศ.1619 โดยมีสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Juan Gómez de Mora ด้วยศิลปะผสม ออสเตรีย-สเปนในอดีตเคยเป็นตลาดที่มีผู้คนคึกคักและค่อนข้างวุ่นวาย จนกระทั่งกษัตริย์กษัตริย์ฟิลิเปที่ 2 ทรงมีดำริให้เปลี่ยนจากตลาดเป็นจัตุรัสเป็นพื้นที่สาธารณะที่สำคัญในใจกลางกรุงมาดริด ซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลจากปูเอร์ตา เดล โซล โดยรอบๆมี ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เครื่องของที่ระลึก และร้านค้าอีกมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ

จากนั้นให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัยบริเวณใกล้เคียงมี ตลาดซานมิเกล (Mercado San Miguel) เป็นตลาด ในอาคารที่มีหลังคากระเบื้องสีน้ำตาลโครงสร้างอาคารเหล็กและกระจก มีความเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ.1915 มีร้านอาหารหลากหลายมาก ที่นี่เป็นทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ตลาดนัด ถนนคนเดิน มีซุ้มและโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งรับประทานอาหาร มีทั้งอาหารท้องถิ่นสเปน อาหารเอเชีย อาหารทะเล ทาปาส และเบเกอรี่

ค่ำ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
ที่พัก NH Ventas หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเช้าได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมาดริดบาราคัส (Aeropuerto Adolfo Suárez Madrid-Barajas) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Tax Refund)
14.25 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน เที่ยวบินที่ EK142 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **

00.25 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดูไบ ให้ท่านผ่อนคลายอริยบทระหว่างรอเวลาเปลี่ยนเครื่อง
03.05 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 384
12.05 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม