17033023191

ทัวร์ยุโรป SWITZERLAND and GERMANY เกาะดอกไม้ รถไฟหรรษาและมหาธารน้ำแข็ง สวิตเซอร์แลนด์ – เยอรมนี 8 วัน 5 คืน (TG)

ราคาเริ่มต้น 109,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg

นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส   ตลอดแนวสะพาน  จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโก  แลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น

วันที่เดินทาง

16 พ.ค. 67 – 23 พ.ค. 67

ทัวร์ยุโรป 

วันแรก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
21.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่สอง ซูริค – เบิร์น – โลซานน์ – เข้าขมพิพิธภัณฑ์โอลิมปิก
00.35 น. ออกเดินทางสู่สวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 970
06.35 น. เดินทางถึงสนามบินซูริค (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านเดินลัดเลาะสู่ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse) ถนนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในย่านเมืองเก่า มีบ้านอาคารสไตล์บาโรกตอนปลาย นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเบิร์น (Bern’s Minster) วิหารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า จากนั้นเดินสู่ถนนแครมกัซเซอ (Kramgasse) นำถ่ายรูปกับบ้านไอน์สไตน์ (Einsteinhaus) บ้านเลขที่ 49 ที่อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เคยอาศัยอยู่ที่นี่ เมื่อครั้งมาทำงานเป็นผู้ตรวจสอบของสำนักงานสิทธิบัตรของสวิส ช่วงปี ค.ศ.1902-1905 จากนั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์กาสเซ(Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิส และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงเคยประทับและทรงศึกษาที่เมืองแห่งนี้อีกด้วย นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์โอลิมปิก (The Olympic Museum) อีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่พลาดไม่ได้ของเมืองโลซานน์ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งโอลิมปิก ภายในพิพิธภัณฑ์มีการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และมีจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิกกว่า 510,000 ภาพ และคลิปวิดีโอที่ถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญของกิจกรรม และนักกีฬาที่มีชื่อเสียง อีกทั้งยังจัดแสดงอุปกรณ์กีฬาที่เคยใช้แข่งขันกว่า 10,000 ชิ้น เช่น คบเพลิง ถ้วยรางวัล ชุดกีฬา และมาสคอตทีเคยใช้ประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ ภายนอกของพิพิธภัณฑ์ยังมีสวนสาธารณะที่มีผลงานศิลปะเกี่ยวกับกีฬามากมาย ให้ท่านได้เดินชม และถ่ายรูปอีกด้วย จากนั้นนำท่านชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารขจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MOVENPICK LAUSANNE หรือเทียบเท่า
วันที่สาม โลซานน์ – ปราสาทชิลยอง – มหาธารน้ำแข็งยักษ์อาเล็ทช์ กลาเซียร์ – บริก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ทางด้านนอก ปราสาทแห่งนี้ เป็นปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี นำท่านขึ้น กระเช้าสู่ยอดเขาเอกกิสฮอร์น (Eggishorn) ยอดเขาเอกกิสฮอร์นนั้นเป็นยอดเข้าที่ตั้งอยู่ในเขตของ Jungfrau-Aletsch-Bietschhorn รัฐ Valais มีความสูงของยอดเขาอยู่ที่ 2,927 เมตร โดยยอดเขาเอกกิสฮอร์นนั้นเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวในการมาชมวิวธารน้ำแข็งยักษ์อาเล็ทช์ กลาเซียร์ เพราะเนื่องจากเป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่สูงสุดที่จะสามารถชมวิวธารน้ำแข็งยักษ์ อาเล็ทช์ กลาเซียร์ ได้ โดยทั่วไปแล้วการขึ้นชม อาเล็ทช์ กลาเซียร์ นั้นสามารถขึ้นชมได้ทั้งหมด 3 ทาง ซึ่งจะมีระดับความสูงจะลดหลั่นกันไปตามแต่ละจุดดังนี้ 1. จุดชมวิว Moosfluh มีความสูงอยู่ที่ 2,333 เมตร 2. จุดชมวิวBettmerhorn มีความสูงอยู่ที่ 2,647 เมตร และ 3.จุดชมวิว Eggishorn มีความสูงอยู่ที่ 2,869 เมตร ** ในกรณีที่ไม่สามารถขึ้นจุดชมวิว Eggishorn ได้ ทางบริษัทจะเปลี่ยนไปจุดชมวิวอื่นแทน **
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านชม มหาธารน้ำแข็งยักษ์อาเล็ทช์ กลาเซียร์ (Aletsch Glacier) ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ มีความยาวประมาณ 23.6 กิโลเมตร พื้นที่โดยรวมกว่า 100 กิโลเมตร ถูกค้นพบเมื่อช่วงศตวรรษที่ 19 โดยธารน้ำแข็งนี้เกิดขึ้นจากการบรรจบกันของธารน้ำแข็งขนาดย่อย 4 สาย อันได้แก่ ธารน้ำแข็งโกรเซอร์อาเล็ทช์เฟียร์น (Grosser Aletschfirn), ธารน้ำแข็งจุงเฟราเฟียร์น (Jungfraufirn) , ธารน้ำแข็งเอวิกชเนเฟ็ลท์ (Ewigschneefäld) และธารน้ำแข็งกรุนเน็คเฟียร์น (Grüneggfirn) ให้ท่านได้สัมผัสกับความงดงามของมหาธารน้ำแข็งสีขาวที่มาบรรจบกับท้องฟ้าสีฟ้า ประกอบกับทิวทัศน์อันสวยงามที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ โดยในวันที่อากาศดีท่านอาจจะได้เห็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงต่างๆของสวิตเซอร์แลนด์ เช่น ยอดเขาจุงเฟราหรือยอดเขามัตเตอร์ฮอร์นอีกด้วย โดยสถานที่แห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆของสวิตเซอร์แลนด์และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปีค.ศ. 2001 หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองบริก (Brig) อีกหนึ้งเมืองสวยที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL AMBASSADOR หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ บริก – ขึ้นรถไฟกลาเซียร์ เอ็กเพรซ พร้อมชมวิวหลักล้านของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ – สถานีเมืองคูร์ – ทะเลสาบเคามา – เบรเกนซ์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านนั่ง รถไฟกลาเซียร์เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) “รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก” หนึ่งในรถไฟท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยที่นั่งแบบเฟิร์สคลาส (First Class) เบาะใหญ่ นั่งสบาย พร้อมกระจกชมวิวบานใหญ่โดยรถไฟวิ่งข้ามผ่านภูมิประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจของสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านเทือกเขาแอลป์, หน้าผา, หุบเขา, ธารน้ำแข็ง, ทะเลสาบ และ แม่น้ำ ที่เรียกได้ว่าสวยงามตระการตานอกจากท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันสวยงามของสองข้างทางแล้ว ยังให้ท่านสัมผัสรสชาติอาหารสวิต ที่มาเสริฟให้ท่านถึงที่นั่ง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ บนรถไฟกลาเซียร์เอ๊กเพรซ พร้อมชมวิวสุดอลังของสวิตเซอร์แลนด์ระหว่างทานอาหาร
เดินทางถึงสถานีเมืองคูร์ (Chur) หลังจากนั้นนำท่านต่อรถโค้ชโดยสารเดินทางสู่เมืองฟลิมส์ (FLIMS) เมืองเล็กๆในเขต Graubünden ภูมิประเทศในเขตนี้เกิดจากภัยธรรมชาติ ที่รู้จักกันในนาม FLIMS ROCKSLIDE ทำให้เกิดเป็นภูมิประเทศที่มีความสวยงามแปลกตา และยังเป็นสวรรค์ของการพักผ่อนสำหรับชาวสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย นำท่านชมทะเลสาบเคามา (Caumasee) ทะเลสาบมหัศจรรย์สีเทอร์ควอยซ์ ที่ตั้งอยู่ตั้งอยู่กลางป่าไม้ขนาดใหญ่ในภูมิภาคเทือกเขาแอลป์ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวสวิสที่นิยมมาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ปิคนิค ปั่นจักรยาน อิสระให้ท่านชมทะเลสาบมรกตแห่งนี้ตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรหมแดนสวิตเซอร์แลนด์ – ออสเตรียสู่เมืองเบรเกนซ์ (Bregenz)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก GRAND HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า เบรเกนซ์ – เกาะแห่งดอกไม้ไมเนา – ซุก – ลูเซิร์น – ซูริค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เกาะไมเนา (Minau Island) เกาะที่มีชื่อเสียงเรื่องการท่งอเที่ยวเป็นอันดับต้นๆของประเทศเยอรมนี โดยใน 1 ปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่แตะหลักล้าน เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบคอนสแตนซ์ (Lake Constance) ซึ่งเป็นจุดบรรจบกันของประเทศเยอรมันนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ เกาะนี้จะถูกตกแต่งด้วยดอกไม้กว่า 500 ชนิด ทำให้ที่นี่เรียกอีกอย่างนึงว่า “เกาะดอกไม้” หรือ “เกาะพฤกษาชาติ” โดยดอกไม้ที่ตกแต่งรอบเกาะจะปรับเปลี่ยนไปตามแต่ฤดูกาล ท่านจะได้เพลิดเพลินกับความงามของดอกไม้ที่บานไสวเต็มท้องทุ่งสุดลูกหูลูกตาเต็มไปหมดตั้งแต่ประตูทางเข้าจนถึงท้ายเกาะ นอกจากนี้แล้วเกาะยังมีสวนพฤกษาต่างๆหลายสวน บางสวนประกอบด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 150 ปี และยังมีสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิค เช่น ปราสาทของอดีตเจ้าผู้ครองเกาะ หรือคาเฟ่และร้านขายของที่ระลึกต่างๆเต็มไปหมด อิสระให้ท่านได้เดินเล่นรอบเกาะตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald’s church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม) นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่างเคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้ เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการทำฟาร์มผลไม้ ทั้งสตอเบอร์รี่, บูลเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ ฯลฯ รวมทั้ง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น จากนั้นนำท่านข้ามพรหมแดนสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโก แลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HARRY’S HOME หรือเทียบเท่า
วันที่หก ซูริค – ยอดเขาชิลธอร์น – เลาเทอร์บรุนเน่น – อินเทอร์ลาเกน – ซูริค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน Stechelberg เพื่อขำท่านขึ้นกระเช้าที่ยาวที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์สู่ยอดเขาชิลธอร์น (Schilthorn) โดยยอดเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในแถบบริเวณเทือกเขาแอลป์ เป็นยอดเขาที่มีความสูงกว่า 2,970 เมตร และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ ยอดเขาแห่งนี้นั้นมีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากการที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำเจมส์ บอนด์ 007 ภาค “On her majesty’s secret service” หรือในชื่อไทย “ยอดพยัคฆ์ราชินี” ด้านบนของยอดเขานั้นเป็นที่ตั้งของภัตตาคารหมุนได้ 360 องศา พิตซ์ กลอเรีย (Piz Gloria) ภัตตาคารแห่งนี้สามารถหมุนได้เป็นวงกลม เพื่อให้ลูกค้าสามารถชมทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ได้รอบทิศทาง นอกจากนั้นแล้วชั้นล่างของภัตตาคารยังจัดเป็นที่แสดงนิทรรศการของเจมส์บอนด์ หรือ เรียกว่า Bond World 007 อีกด้วย โดยในวันที่อากาศดีนั้นจากยอดเขาชิลธอร์น สามารถมองเห็นยอดเขาต่างๆของสวิตเซอร์แลนด์ได้หลายยอดเขาเลยทีเดียว เช่น ยอดเขาไอเกอร์ , ยอดเขาทิตลิส , ยอดเขาเมินซ์ รวมถึง ยอดเขาจุงฟราวด์ด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเลาเทอร์บรุนเน่น (Laterbrunnen) นำท่านเดินเล่นแวะถ่ายรูปกับหมู่บ้าน เล็กๆในหุบเขาที่แยกเป็นสองแพร่ง เงียบสงบที่ไม่วุ่นวาย โดยมีฉากหลังของหมู่บ้านคือน้าตกที่มีชื่อเสียงที่สุดชื่อว่า ชเตาบ์บาค (Staubbach) น้ำตกที่มีความสูง 300 เมตรและเป็นหนึ่งในน้ำ ตกที่ตกลงมาแบบม้วนเดียวจบที่สูงที่สุดในยุโรป (Zurich) นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HARRY’S HOME หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด ซูริค – สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่สนามบินซูริค เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
13.15 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ TG 971
วันที่แปด กรุงเทพฯ
06.10 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป