17016803921

ทัวร์ยุโรป Eastern Europe ยุโรปตะวันออก ฤดูใบไม้ผลินี้… ฉันอยู่ที่ฮัลสตัท เยอรมนี เชก สโลวัก ออสเตรีย ฮังการี 9 วัน 6 คืน (EK)

ราคาเริ่มต้น 69,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ

วันที่เดินทาง

12-20 มี.ค.67, 25 มี.ค.- 02 เม.ย.67, 12-20 เม.ย.67, 29 เม.ย.- 07 พ.ค.67

โปรแกรมการเดินทาง

วันที่หนึ่ง กรุงเทพฯ
23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 10 เคาน์เตอร์ S สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง ดูไบ –มิวนิค – โรเซนไฮม์
02.25 น. ออกเดินทางสู่กรุงดูไบด้วยเที่ยวบิน EK377
06.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
08.40 น. ออกเดินทางสู่มิวนิค ด้วยเที่ยวบิน EK49
12.30 น. ถึงสนามบินมิวนิค (Munich) ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองโรเซนไฮม์ (Rosenheim) เมืองใหญ่ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เป็นเมืองอิสระที่ตั้งอยู่ในใจกลางเขตโรเซนไฮม์ ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกในหุบเขาลุ่มแม่น้ำอินน์” และเป็นประตูประตูสู่ทะเลสาบเคียมเซ (Chiemsee) ประเทศเยอรมนี และด้วยความที่โรเซนไฮม์นั้นเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญระหว่างมิวนิก ซาลส์บวร์ก และอินส์บรูค ทำให้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้ได้ตกเป็นเป้าหมายสำคัญในการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก TRYP BY WYNDHAM หรือเทียบเท่า

วันที่สาม โรเซนไฮม์ – ฮัลสตัท – เชสกี้ ครุมลอฟ – เชสกี้ บูดาโจวิค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ออกเดินทางสู่หมู่บ้านฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปลาจากทะเลสาบฮัลสตัท)
นำท่านเดินทางสู่เมืองมรดกโลกเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เที่ยวชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปรค.ศ.1992 (World Heritage) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก นำท่านชมปราสาทครุมลอฟ (Krumlov Castle) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค Senete Square และโบสถ์เก่ากลางเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองเชสกี้ บูดาโจวิช ( Cesky Budajovice)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SPA HOTEL VITA หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ เชสกี้ บูดาโจวิค – คาร์โลวี วารี – ปราก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่เข้าสู่นำท่านเดินทางสู่คาร์โลวี วารี (Karlovy vary) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปา ที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นศูนย์กลางบำบัดโรคภัยต่างๆ นำเดินชมเมืองคาร์โลวี วารี ปัจจุบันเป็นที่นิยมของผู้คนทั่วโลกที่จะมาใช้บริการรักษาสุขภาพ ตามความเชื่อที่มีมาแต่สมัยโบราณ เชิญท่านทดลองดื่มน้ำแร่ ซึ่งต้องดื่มกับแก้วพิเศษโดยเฉพาะ เป็นแก้วพอร์ซเลนที่มีปากยื่นออกมาเหมือนกาน้ำ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เป็ดโบฮีเมียน)
บ่าย จากนั้นนำคณะเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กโกสโลวาเกีย ซึ่งได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ จากนั้นนำท่านเดินเล่นบนสะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ ชมประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมง ให้เวลาท่านเดินอิสระเดินเล่นย่านเมืองเก่า ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง เช่น เครื่องแก้วโบฮีเมียน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน (เป็ดปักกิ่ง)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL EXPO PRAGUE หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า ปราก – ปราสาทแห่งปราก – บราติสลาว่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเข้าชมปราสาทแห่งปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslid ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 นำเข้าชมมหาวิหารเซนต์วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น ชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย แล้วเดินเข้าสู่ย่านช่างทองโบราณ (Golden Lane) ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึก วางจำหน่ายอยู่มากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นนำเดินทางสู่กรุงบราติสลาว่า (Bratislava) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก (Slovak) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ สโลวัค ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก นำท่านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก นำท่านถ่ายรูปคู่กับปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่สวยงามของกรุงบราติสลาว่า
ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก LINDNER HOTEL BRATISLAVA หรือเทียบเท่า

วันที่หก บราติสลาว่า – Outlet – เวียนนา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำท่านสู่ย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ ((Swarovski Crystal Worlds Store Vienna) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว

ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หมูทอดและซี่โครงหมูเวียนนา)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก QUALITY HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – กรุงบูดาเปสต์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 – 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเดินทางผ่านย่านเกษตรกรรมข้ามพรมแดนสู่ กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของ ประเทศฮังการี (Hungary) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มีอารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ
ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN BUDAPEST หรือเทียบเท่า

วันที่แปด กรุงบูดาเปสต์ – สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมบริเวณ CASTLE HILL ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ถ่ายรูปด้านนอกของอาคารพระราชวังโบราณ และชมบริเวณรอบนอกโบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก และยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ตัวโบสถ์สร้างแบบสไตล์นีโอ-โกธิค หลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามแห่งศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ทางด้านหน้า ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาเปสที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้เป็นอย่างดี ป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน
นำท่านล่องเรือแม่น้ำดานูบอันเลื่องชื่อ ชมความงามของทิวทัศน์และอารยะธรรมฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากฝั่ง ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ อาทิ อาคารรัฐสภา ซึ่งงดงามเป็นที่ร่ำลือ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บนตัวอาคารประกอบด้วยยอดสูงถึง 365 ยอด
นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
15.10 น. ออกเดินทางสู่สนามบินดูไบด้วยเที่ยวบิน EK122
23.20 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง

วันที่เก้า ดูไบ – กรุงเทพ
03.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ EK372
12.55 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ