ทัวร์ยุโรป

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2567 (1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา
18.00 น. คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินกาต้าร์ (QR) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
*** เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด ***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินเนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM
ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน

21.05 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา ประเทศกาต้าร์ โดยสายการบินกาต้าร์ เที่ยวบินที่ QR833 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง) (เวลาประเทศกาต้าร์ ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2567 (2) ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา – ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก – นูเรมเบิร์ก –
คาร์โลวีวารี
00.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา ประเทศกาต้าร์ (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที)
01.50 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินกาต้าร์ เที่ยวบินที่ QR059 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 15)
06.50 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิค ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง)
ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร หลังรับสัมภาระเรียบร้อย
นำท่านเข้าสู่ เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) (ระยะทาง 169 กม./ 2.30 ชม.) เมืองแห่งประวัติศาสตร์ในแคว้นบาวาเรีย ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน เป็นเมืองเก่าที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1050 เรียกอีกชื่อนึงว่า เนอร์นแบร์ก โดยเมื่อช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้ได้ถูกระเบิดทำลาย จนต่อมาก็ได้รับการบรูณะขึ้นมาใหม่ โดยรักษารูปแบบเดิมเอาไว้นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อในด้านความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขา โบสถ์สวยเก่าแก่แบบยุคกลาง จนทำให้เมืองนูเรมเบิร์กกลายเป็นเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ อิสระให้ท่านเดินเที่ยวเมืองเก่า Nuremberg old town ผ่านชมวิว ณ แม่น้ำเปกนิทซ์ (Pegnitz river) ที่พาดผ่านเมือง ด้วยมุมที่เปิดโล่งให้เห็นสายน้ำและสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนของนูเรมเบิร์ก ผ่านชมน้ำพุเชินเนอร์บรุนเนิน (Schoner Brunnen) หรือ Beautiful Fountain สูง 19 เมตร สีทองอร่าม ซึ่งประกอบไปด้วยรูปปั้นของเจ้าอิเล็คเตอร์ 40 องค์ นักบุญ ชาวยิวและรูปประดับอื่นๆถือได้ว่าเป็นน้ำพุที่อลังการมากที่สุดในเยอรมนีความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขา โบสถ์สวยเก่าแก่แบบยุคกลาง จนทำให้เมืองนูเรมเบิร์กกลายเป็นเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ คาร์โลวี วารี (KARLOVY VARY) (ระยะทาง 232 กม./ 3.30 ชม.) เมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน เพราะสามารถพบเห็นได้มากในเมือง อุดมด้วยแร่ธาตุชั้นดีและมีคุณภาพสูง ปัจจุบันคาร์โลวี วารี่ กลายเป็น เมืองตากอากาศชื่อดังและเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก มีสถาปัตยกรรมตามอาคารต่างๆ ที่สวยงาม รูปปั้นนักบุญ อนุสาวรีย์และอาคารเก่าแก่ยังมีอยู่ทุกมุมเมือง ผังเมืองสวยงาม มีถนนกว้างขวาง

นำท่านชมบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่ Hot Spring Colonnade เป็นบ่อน้ำพุร้อนในจุดที่มีน้ำพุผุดขึ้นจากธรรมชาติ และลึกลงไปในดินถึง 2,000 เมตร น้ำที่ขึ้นมาจากดินนี้จะพุ่งขึ้นไปในอากาศสูงถึง 12 เมตร ได้ปริมาณมากถึง 2,000 ลิตรต่อนาที และเป็นน้ำที่ชาวคาร์โลวี วารี่ใช้ในการรักษาโรคมากว่า 600 ปีแล้ว จะมีบ่อแยกย่อยออกไปถึง 12 บ่อ แต่ละบ่อจะให้สรรพคุณของน้ำแตกต่างกัน เช่น ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย และยังช่วยลดอาการอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงได้ ในบ่อน้ำเหล่านี้สามารถรองดื่มกินได้ โดยซื้อแก้วสำหรับตักชิมน้ำจากบ่อน้ำพุร้อน ที่มีบริการจำหน่ายอยู่ที่ด้านหน้า และยังนำแก้วเหล่านั้นเก็บไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย เพราะตกแต่งด้วยลวดลายอย่างสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่ดูไปแล้วคล้ายกับกาน้ำ

เย็น รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Golf Hotel Morris ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

วันอาทิตย์ ที่ 2 มิถุนายน 2567 (3) คาร์โลวีวารี – ปราก – จัตุรัสเมืองเก่า- สะพานชาร์ลส์ – หอนาฬิกาดาราศาสตร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ กรุงปราก (Prague) (ระยะทาง 171 กม./ 2.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศสาธารณรัฐเช็ก ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของยุโรปในยุคกลางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน กรุงปรากได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ในปี 1992

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านถ่ายภาพบริเวณ จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) จัตุรัสศูนย์กลางที่สำคัญของกรุงปราก ที่เคยเป็นตลาดค้าขายตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 12 มีตึกรามบ้านเรือนล้อมรอบจตุรัสที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ดื่มด่ำกับบรรยากาศของยุโรปในยุคโบราณขณะเดินออกจากร้านค้าสีสันสดใสไปยังร้านอาหารรอบๆ จัตุรัส จัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา คุณจะพบนักแสดงเร่ ศิลปิน และที่ใจกลางเมืองปราก เราจะได้เห็น หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งคอยทำหน้าที่บอกเวลาให้กับชาวเมืองทุกวัน หอนาฬิกาดาราศาสตร์ถูกสร้างขึ้นในปี 1410 นอกจากเข็มนาฬิกาที่คอยบอกเวลาแล้วตัวเรือนสีฟ้ายังมีรูปปั้นนักบุญ ตัวเรือนนาฬิกาแสดงการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แสดงเดือนปัจจุบัน เมื่อเวลาเดินมาครบชั่วโมงจะมีเสียงระฆังดังกังวานและรูปปั้น 12 สาวกของพระเยซูคริสต์ที่พากันเดินขบวนกันอยู่หลังช่องหน้าปัด นำท่านชม สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) อีกหนึ่งจุดหมายหลักที่พรากไม่ได้ สะพานแห่งนี้โดดเด่นด้วยรูปปั้นนักบุญเรียงตลอดความยาวของสะพาน และเป็นสิ่งก่อสร้างชิ้นสำคัญที่ชี้ให้คนยุคปัจจุบันเห็นได้ถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 4

เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย
ที่พัก Hotel Duo ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

วันจันทร์ ที่ 3 มิถุนายน 2567 (4) ปราก – เวียนนา – ถ่ายรูปพระราชวังเชินบรุนน์ – ช้อปปิ้งถนนคาร์ทเนอร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) (ระยะทาง 331 กม./ 4.45 ชม.) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ศูนย์กลางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เมืองนี้ยังคงมนต์เสน่ห์แห่งเมืองหลวงของจักรวรรดิออสเตรียในอดีต โดยยังคงร่องรอยของศิลปะ ดนตรีคลาสสิก สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ แหล่งอุดมวัฒนธรรม จนขึ้นชื่อว่าโรแมนติกที่สุดอีกเมืองของโลก

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่าน ถ่ายรูปด้านหน้า พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) พระราชวังขนาดใหญ่แสนงดงามที่อยู่คู่เวียนนามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกชิ้นสำคัญไปในปี 1996 ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเวียนนา และประเทศออสเตรียเลยทีเดียว

นำท่านผ่านชม โรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 ตึกรัฐสภา ซึ่งสร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1873-1883 เคยถูกใช้เป็นที่ทำการของสภาจักรวรรดิ ออสโตร-ฮังกาเรียนมาก่อนจักรวรรดิล่มสลาย
อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งแบบเต็มอิ่ม ณ คาร์ทเนอร์สตรีท (Karntner Strasse) ถนนสายนี้สืบประวัติมาตั้งแต่ยุคโรมัน ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพเป็นถนนคนเดิน ปูด้วยแนวหิน และขนาบข้างด้วยอาคารร้านค้าทั้งเก่าและใหม่สลับกันไป บรรยากาศของผู้คน ร้านรวงริมทาง และอุณหภูมิเย็นสบาย กระตุ้นต่อมช้อปปิ้งของเราให้เดินเข้าออกร้านสวยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด ทั้งร้านขนม ร้านขายงานประดิษฐ์ และร้านขายเครื่องแก้วอื่นๆอีกมากมาย

เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย
ที่พัก Hotel Senator ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

วันอังคาร ที่ 4 มิถุนายน 2567 (5) เวียนนา – ฮัลล์สตัทท์ – อินส์บรูค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (ระยะทาง 289 กม. / 4.15 ชม.) เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี และมีความเจริญรุ่งเรืองเกิดขึ้นมากในช่วงประมาณเกือบพันปีที่ผ่านมา เมืองนี้สวยและมีเอกลักษณ์สำคัญอยู่ที่การเป็นเมืองติดทะเลสาบและรายล้อมด้วยภูเขาสูง มีความสวยงามของทัศนียภาพราวกับภาพวาด และก็เป็นที่สุดของการมีบรรยากาศที่โรแมนติก ฉายาที่บ่งบอกถึงความสวยงามล้ำค่าของฮัลล์สตัทท์ก็คือ “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และสุดท้ายก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์โดยองค์การยูเนสโก้ในปี 1997
อิสระให้ทุกท่านเที่ยวชมความสวยงามของเมืองฮัลล์สตัทท์ เดินเล่นถ่ายภาพ ชมโบสถ์ประจำเมือง ถ่ายรูปสวยๆ ที่ เซ็นทรัลสแควร์ (Central Square Marktplatz) จัตุรัสกลางเมืองที่โดดเด่นด้วยรูปปั้นโฮลี่ทรินิตี้ เป็นเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลต่างๆ ชม โบสถ์พาริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบแห่งนี้มีอายุกว่า 500 ปี

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (ปราเทราซ์ย่าง)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บูร์ก (Innsbruck) (ระยะทาง 251 กม./ 3.45 ชม.) เมืองสีลูกกวาดพาสเทล แห่งออสเตรีย เมืองนี้ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำอินน์ อยู่ท่ามกลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ท่านก็จะได้เห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมท่านอยู่ โดยคำว่า บรุค (Bruck) มีรากศัพท์มาจากภาษาเยอรมัน แปล Bridge และคำว่า Inns ก็หมายถึงชื่อแม่น้ำอินส์ รวมแล้ว Innsbruck จึงมีความหมาย Bridge over The Inn ซึ่งแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอินส์ ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศดีมาก จนได้รับการขนานนามว่า Capital of Alps
เย็น รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Alphotel ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

วันพุธ ที่ 5 มิถุนายน 2567 (6) อินส์บรูค – ทะเลสาบบรายเอียซ – ทะเลสาบมิซูริน่า – ซานตา มาดดาเลน่า – อินส์บรูค – หลังคาทองคำ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบบรายเอียซ (Braies) (ระยะทาง 129 กม./ 2 ชม.) ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ เพื่อชมความงามของทะเลสาบ ตั้งอยู่ริมขอบทางทิศเหนือของอุทยานมีทางเดินอย่างดีเป็นวงกลมรอบทะเลสาบ อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่ตั้งทะเลสาบมิซูริน่า (Misurina See) (ระยะทาง 32 กม./45 นาที) ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขาที่ถือเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในโดโลไมท์ นำท่านเดินเล่นชมวิวทะเลสาบเก็บภาพสุดแสนประทับใจ

เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัยเพื่อให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
จากนั้นนำท่าน เก็บภาพความประทับใจกับวิวไฮไลท์ ของเทือกเขา Dolomites ณ หมู่บ้าน Santa Maddalena (ระยะทาง 140 กม./ 2 ชม.) ถ่ายรูปกับหนึ่งจุดไฮไลต์ด้วยวิวยอดเขาแปลกตาอีกแห่งหนึ่งในโดโลไมท์ ณ โบสถ์ Santa Maddalena โบสถ์ที่ถือเป็นสถานที่ไฮไลท์ที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุด ในอุทยานโดโลไมท์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉากหลังเป็นเทือกเขา Odles
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองอินส์บูร์ก (Innsbruck) (ระยะทาง 100 กม./ 1.30 ชม.) อิสระท่านเดินเล่นบริเวณแลนด์มาร์คของเมือง Goldenes Dachl หรือหลังคาทองคำ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครั้งที่สองของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 โดยใช้กระเบื้องทองแดงปิดทอง 2,657 แผ่น ในการมุงหลังคากว้าง 16 เมตร เพื่อพยายามลบข่าวลือว่าสถานภาพทางการเงินที่ไม่ดีในช่วงนั้น
เย็น อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย
ที่พัก Alphotel ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

วันพฤหัสบดี ที่ 6 มิถุนายน 2567 (7) อินส์บรูค – มิวนิค – มาเรียนพลัทซ์ – สนามบินมิวนิก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองมิวนิค (Munich) (ระยะทาง 163 กม./ 2.30 ชม.) เมืองหลวงที่มีเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของเยอรมนี ตั้งอยู่บนแม่น้ำอีซาร์เหนือเทือกเขาแอลป์ บนที่ราบสูงบาวาเรีย เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนี เต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนา และยังเมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน
นำท่านสู่บริเวณ มาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz) ในเขตเมืองเก่าที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการทำความรู้จักกับมิวนิค ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับงานพิธีต่างๆ ที่สำคัญของเมือง ที่บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลัสซ์นี้เองที่เราจะได้เห็น ศาลาว่าการใหม่ (New Town Hall) ที่ได้ใช้ทำการแทนศาลาว่าการเก่าตั้งแต่ปี 1874 เห็นได้ง่ายด้วยหอคอยแหลมสูงและการออกแบบและตกแต่งอย่างประณีตไม่แพ้ปราสาทหรือพระราชวัง บริเวณใกล้กันนั้นเป็น ศาลาว่าการเก่า (Old Town Hall) อาคารสีขาวสะอาดหลังนี้เป็นศาลาว่าการของเมืองมิวนิคมาตั้งแต่ปี 1310 แม้จะผ่านมากว่า 700 ปี แต่ก็ยังสวยและสง่าด้วยศิลปะสไตล์โกธิค โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche-Church of Our Lady) เป็นโบสถ์ทรงหัวหอมคู่ที่สร้างด้วยอิฐแดงสูง 99 เมตร ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองมิวนิคเช่นกัน จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่น หรือช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมตามอัธยาศัย

เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสนามบินมิวนิก
16.50 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา ประเทศกาต้าร์ โดยสายการบินกาต้าร์ เที่ยวบินที่ QR058 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 35 นาที) (เวลาประเทศกาต้าร์ ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
23.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา ประเทศกาต้าร์ (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที)
วันศุกร์ ที่ 7 มิถุนายน 2567 (8) ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา -ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
02.15 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินกาต้าร์ เที่ยวบินที่ QR836 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 55 นาที)
13.10 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป