17019486141

ทัวร์ยุโรป NORTH ITALY + EAST EUROPE อิตาลี ออสเตรีย เยอรมนี เชก สโลวาเกีย ฮังการี 10 วัน 7 คืน (EK)

ราคาเริ่มต้น 83,888 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่า

วันที่เดินทาง

25 เม.ย.-04 พ.ค.67, 09-18 ก.พ.67, 11-20 มี.ค.67, 11-20 เม.ย.67, 21-30 พ.ค.67

โปรแกรมการเดินทาง

วันที่หนึ่ง กรุงเทพฯ

23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง ดูไบ – สนามบินเวนิส – เกาะเวนิส – เมสเตร้
02.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงดุไบด้วยเที่ยวบิน EK377
06.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.35 น. ออกเดินทางสู่เวนิส ด้วยเที่ยวบิน EK135
13.15 น. ถึงสนามบินมาร์โค โปโล เมืองเวนิส ประเทศ นำท่านเดินทาง สู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้
ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค (St.Mark’s Bacilica) ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเดินเที่ยวชมเกาะอันสุดแสนโรแมนติกตามอัธยาศัย เช่น เดินเล่นชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซาน มาร์โคที่สวยงาม , ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส เลือกซื้อสินค้าแฟชั่นชั้นนำ หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก CROWNE PLAZA VENICE EST หรือเทียบเท่า

วันที่สาม เมสเตร้ – ออร์ทิเซ่ – ขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขาแอลป์ ดิ ซุสเซ่ – โบลซาโน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองออร์ทิเซ่ (Ortisei) ศูนย์กลางของแถบอุทยานโดโลไมท์ โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงาม อิสระให้ท่านพักผ่อนเพลิดเพลิน กับอากาศอันบริสุทธิ์ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้า (Cable Car) เราจะพาขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า แอลป์ ดิ ซุสเซ่ (Alpe di Siusi) นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่า “กว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป” ให้ท่านได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของทิวทัศน์มุมสูงของเทือกเขาโดโลไมท์ เวลาที่มองลงไปด้านล่างจะยังเห็นบ้านเรือนในสไตล์ยูโรเปี้ยนรีสอร์ทกระจายอยู่ตามไหล่เขา อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับลงสู่ด้านล่าง ***การนั่งกระเช้า หากสภาพอากาศหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัยและในกรณีที่กระเช้าปิดจะเปลี่ยนไปขึ้นเขาข้างเคียงแทน***
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางเข้าสู่ โบลซาโน (Bolzano) เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์และเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เนินเขาที่เป็นป่าทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขาโดโลไมท์ในทางทิศตะวันออก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก STADT HOTEL CITTA หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ โบลซาโน – ทะเลสาบมิสุริน่า – ทะเลสาบเบรียส – อินส์บรูค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางข้ามพรหมแดนออสเตรีย – อิตาลี เข้าสู่เขตเทือกเขาโดโลไมท์ สู่ทะเลสาบมิสุริน่า (Misurina Lake) ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,754 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบ Dolomite นี้เลย เนื่องด้วยความสวยงามของทะเลสาบ บางเวลาน้ำนิ่งราวกระจกเงาใส ที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนมาอิสระท่าน ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบจนเต็มอิ่ม จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส (Lake Braies) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย ออกเดินทางสู่เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้น ทีโรล เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ นำท่านชมหลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า
สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล จากนั้นนำท่านเข้าชมร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ (Swarovski) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก PENT WEST HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า อินส์บรูค – เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ – มิวนิค -จัตุรัสมาเรียนพลาสท์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน **

กลางวัน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น.
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก MUNCHEN CONFERENCE OST CENTRE หรือเทียบเท่า

วันที่หก มิวนิค – คาร์โลวี วารี – กรุงปราก – สะพานชาร์ล
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเดินทางข้ามพรหมแดนสู่ประเทศเชก เมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy vary) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปา ที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นศูนย์กลางบำบัดโรคภัยต่างๆ นำเดินชมเมืองคาร์โลวี วารี ปัจจุบันเป็นที่นิยมของผู้คนทั่วโลกที่จะมาใช้บริการรักษาสุขภาพ ตามความเชื่อที่มีมาแต่สมัยโบราณ เชิญท่านทดลองดื่มน้ำแร่ ซึ่งต้องดื่มกับแก้วพิเศษโดยเฉพาะ เป็นแก้วพอร์ซเลนที่มีปากยื่นออกมาเหมือนกาน้ำ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เป็ดโบฮิเมียน)

บ่าย

จากนั้นนำคณะเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กโกสโลวาเกีย ซึ่งได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ จากนั้นนำท่านเดินเล่นบนสะพานชาร์ล (Chazrles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวาสไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ ชมประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมง ให้เวลาท่านเดินอิสระเดินเล่นย่านเมืองเก่า ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง เช่น เครื่องแก้วโบฮีเมียน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL EXPO หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด กรุงปราก – เข้าชมปราสาทแห่งปราก – บราติสลาว่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชมปราสาทแห่งปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งเป็นธรรมเนียบของประธานาธิบดีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1819 จนถึงปัจจุบัน ชมมหาวิหารเซนต์ วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์ที่สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น (กรณีมีพิธีภายในมหาวิหาร อาจไม่ได้รับอณุญาตให้เข้าชม) แล้วชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ซึ่งใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย นำท่านเดินชมย่านช่างทองโบราณ (Golden Lane) ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึกวางจำหน่ายอยู่มากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน (เป็ดปักกิ่ง)

จากนั้นนำเดินทางสู่กรุงบราติสลาว่า (Bratislava) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก (Slovak) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ สโลวัค ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก นำท่านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก นำท่านถ่ายรูปคู่กับปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่สวยงามของกรุงบราติสลาว่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL BRATISLAVA หรือเทียบเท่า
วันที่แปด บราติสลาว่า – บูดาเปสต์ – ป้อมชาวประมง – ล่องเรือแม่น้ำดานูบ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางผ่านย่านเกษตรกรรมข้ามพรมแดนสู่ กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของ ประเทศฮังการี (Hungary) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มีอารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ซุปกุลาซ)
นำท่านชมบริเวณ CASTLE HILL ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ถ่ายรูปด้านนอกของอาคารพระราชวังโบราณ และชมบริเวณรอบนอกโบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก และยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ตัวโบสถ์สร้างแบบสไตล์นีโอ-โกธิค หลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามแห่งศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ทางด้านหน้า ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาเปสที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้เป็นอย่างดี ป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน นำท่านล่องเรือแม่น้ำดานูบอันเลื่องชื่อ ชมความงามของทิวทัศน์และอารยะธรรมฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากฝั่ง

ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ อาทิ อาคารรัฐสภา ซึ่งงดงามเป็นที่ร่ำลือ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บนตัวอาคารประกอบด้วยยอดสูงถึง 365 ยอด

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN BUDAPEST หรือเทียบเท่า

วันที่เก้า บูดาเปสต์ – Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf – เวียนนา – สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำท่านสู่ย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ ((Swarovski Crystal Worlds Store Vienna) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว
ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
21.55 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน EK126

วันที่สิบ ดูไบ – กรุงเทพ
06.55 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น. ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน EK372
18.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ