SQR50-ADS

ทัวร์ยุโรป Mono Switzerland 7 วัน 4คืน (QR)

ราคาเริ่มต้น 84,888 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: QR

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) (ระยะทาง7 ก.ม./ 15 นาที) เมืองที่แสนโรแมนติกน่ารักตั้งอยู่ในรัฐโวของสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวต่างก็ขนานนามเวเว่ย์ให้เป็นไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส Pearls of the Swiss Riviera เพราะมีอากาศดีอบอุ่นเกือบทุกฤดูกาล และเมืองนี้ยังยังเป็นที่ตั้งของ สำนักงานใหญ่ของบริษัทใหญ่ด้านอาหารของโลกอย่าง เนสท์เล่ Nestle อีกด้วย แวะถ่ายรูปกับจุดไฮไลท์ของเมือง รูปปั้น “ชาลี แชปปลิ้น” (Chaplin Statue) ชาวอังกฤษที่มีผลงานสร้างชื่อเสียงในอเมริกาที่มีความหลงใหลและท่านเลือกเวเว่ย์เป็นสถานที่พักกายใจในบั้นปลายของชีวิต จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) (ระยะทาง 144 ก.ม. / 2.15 ชม.) เมืองตากอากาศเล็กๆ ที่สวยเหมือนในฝัน เป็นเมืองแห่งสองทะเลสาบ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ ทูน Thun และทะเลสาบเบรียนซ์ Bienz ล้อมรอบด้วยภูเขามีทิวทัศน์บริสุทธิ์และสวยงามมาก

วันที่เดินทาง

20 พ.ค. 67 – 26 พ.ค. 67, 30 พ.ค. 67 – 5 มิ.ย. 67

ทัวร์ยุโรป
17.30 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ โดยสายการบิน QATAR AIRWAYS โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร
21.05 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) เที่ยวบินที่ QR833
00.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด ประเทศกาตาร์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

01.45 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค โดยสายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) เที่ยวบินที่ QR093
07.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) (ระยะทาง 129 ก.ม. / 2 ชม.) นครหลวงอันงามสง่าของประเทศ และเป็นเมืองมรดกโลกอันล้ำค่าที่ได้รับการอนุรักษ์มาสู่ปัจจุบันเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในยุคกลางของยุโรปองค์การยูเนสโก้ประกาศให้ส่วนหนึ่งของเบิร์นเป็นเมืองมรดก นำท่านผ่านชม นาฬิกา ไซ้ท์ กล็อคเค่ (ZYT GLOGGE Clock Tower) หอนาฬิกายุคกลางที่มีชื่อเสียงที่สุดของย่านเมืองเก่าเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อายุ 800 ปี มีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมง ที่นาฬิกาตีบอกเวลา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงเบิร์น ไอน์สไตน์เฮาส์ (Einstein House) บ้านเลขที่ 49 ถนนแครมกัซเซอ (Kramgasse) บ้านที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยอาศัยอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลกคนนี้ บ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Pit) เมื่อมาถึงเมืองนี้ก็ต้องแวะเข้ามาชมเจ้าหมีก่อน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์นที่ว่าสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น เพราะว่ามีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยผู้ครองเบิร์นในยุคนั้นได้ออกล่าสัตว์ สัตว์ตัวแรกที่ล่าได้ คือ หมี ศาลากลางกรุงเบิร์น (Town Hall) อาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของสภาแกรนด์แห่งเบิร์น คณะผู้บริหารระดับสูงของกรุงเบิร์นและสภาแกรนด์แห่งเมืองเบิร์น อาคารแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกยูเนสโกเมืองเก่าแห่งเบิร์นและเป็นมรดกของสวิสที่มีความสำคัญระดับชาติ
เที่ยง  รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่1)
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก เมืองโลซาน (Lausanne) (ระยะทาง 101 ก.ม. / 1 ชั่วโมง 30 นาที) เป็นเมืองหลวงของโอลิมปิคโลกและยังเคยเป็นเมืองที่ในหลวง รัชการที่ 9 เคยประทับและทรงเล่าเรียนในสมัยที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ นำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารโลซาน (Cathédrale de Lausanne) หรือชื่อเรียกเต็มคือ อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งโลซาน (Cathédrale Notre-Dame de Lausanne) เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ระดับอาสนวิหารประจำเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อาสนวิหารแห่งนี้เริ่มขึ้นในปีค.ศ. 1170 และแล้วเสร็จในปี 1235 ต่อมาอาสนวิหารแห่งนี้ถูกประกาศอุทิศให้แก่พระแม่มารีย์โดยคำประกาศของสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 10 ในปี 1275 ผ่านชม โรงแรม โบริวาจ พาเลซ (Beau-Rivage Palace) หนึ่งในโรงแรมสุดหรูที่เป็นโรงแรมระดับตำนานแห่งหนึ่งของเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวานับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1861 รายล้อมไปด้วยสวนสวย ศาลากลางเมืองโลซาน (Townhall of Lausanne) อยู่ห่างจากน้ำพุแห่งความยุติธรรมเพียงไม่กี่ก้าว และตั้งอยู่บนจัตุรัส Place de la palud มีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 สังเกตรางน้ำที่มีรูปร่างคล้ายมังกร โบสถ์ปฏิรูปแซงต์-ฟรองซัวส์(Swiss Reformed Church of Saint-François) หรือที่เรียกง่ายๆ ว่าโบสถ์แซงต์-ฟรองซัวส์เป็นวิหาร โปรเตสแตนต์ ในปี 1258 ชาวฟรานซิสกันซึ่งเดินทางมาจากเบอซองซงมาตั้งรกรากในเมืองโลซาน เพื่อสร้างคอนแวนต์ร่วมกับโบสถ์ที่อุทิศให้กับฟรานซิสแห่งอัสซีซี คอนแวนต์แห่งนี้ เช่นเดียวกับโบสถ์ที่ล้อมรอบด้วยบ้านไม้และมีเพดานไม้ด้วย เคยถูกเผาในช่วงที่เกิดเพลิงไหม้ในเมืองในปี 1368 มีเพียงคณะนักร้องประสานเสียงเท่านั้นที่ได้รับการเก็บรักษาไว้จนถึงทุกวันนี้ จากนั้นโบสถ์จะถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยความมีน้ำใจของบุคคลสำคัญในท้องถิ่นซึ่งมีการทำซ้ำตราอาร์มบนห้องนิรภัยของทางเดินกลางโบสถ์ และในปี 2011 ภายในโบสถ์ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยยึดแนวคิดที่เรียกว่า “จิตวิญญาณที่มีสุขภาพดี”
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2)
ที่พัก : Movenpick Lausanne หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)
นำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Taesch) (ระยะทาง 167 ก.ม. / 2.30 ชม.) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเซอร์แมท (Zermatt) ด้วย Shuttle Train จากสถานีรถไฟทาซเดินทางสู่สถานีรถไฟเซอร์แมท (ราคาทัวร์รวมค่ารถไฟโดยสารสำหรับการเดินทางสู่เซอร์แมทแล้ว) ให้ท่านเดินเที่ยวชมหมู่บ้านเซอร์แมทที่มีบรรยากาศสบายๆ ล้อมด้วยเขาสูงสวยงาม เป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น เซอร์แมทเป็นเมืองที่มีประชากรน้อยมาก และอาชีพหลักของคนพื้นเมือง คือพนักงานโรงแรมและร้านอาหาร ซึ่งรายได้หลักของเมืองนี้มาจากการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ในวันที่อากาศเอื้ออำนวย จากเมืองด้านล่างนี้ถ้าสภาพอากาศดีและสดใส จะสามารถมองเห็น ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส ที่ความสูง 3,833 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งความสูงของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น สูงเด่นเป็นสง่าท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ และมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแมทเทอร์ฮอร์น แบบสามเหลี่ยมคล้ายพีระมิดที่จุดสูงสุดบนยอด และมีความโดดเด่นไปอีกเมื่อเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ได้เป็นโลโก้ของช็อคโกแลตดังทับเบอร์โรน
เที่ยง  รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่4)
จากนั้นพาท่านแวะเช็คอิน สะพาน Kirchbrücke จะเป็นบริเวณที่มีแม่น้ำ Vispa ไหลผ่าน สีของแม่น้ำนี้จะมีสีเป็นสีเทาๆ เพราะเกิดจากการละลายของทานน้ำแข็ง จากตรงสะพานสามารถมองเห็นยอดเขา Matterhorn ได้อีกด้วย ให้เวลาท่านอิสระเลือกเดินชมบรรยากาศความสวยงามของหมู่บ้านเซอร์
แมทตามอัธยาศัย หรือ Optional tour!! นั่งรถไฟสาย Gornergrat bahn หรือที่รู้จักกันในชื่อ รถไฟไต่เขา ขึ้นสู่ยอดเขากอร์นเนอร์แกรต (Gornergrat) เพื่อชมความสวยงามของยอดเขา Matterhorn โดย สถานีรถไฟตั้งอยู่ในเมือง Zermatt รถไฟขึ้นเขา Gornergrat เส้นทางนี้ใช้เวลา 33 นาทีจาก Zermatt ไปยัง Gornergrat รถไฟเริ่มปีนขึ้นไปในระดับความสูงมากกว่า 1,500 เมตรถึง 3,100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ท่านสามารถแวะลงที่สถานีกลาง Findelbach, Riffelalp, Riffelberg และ Rotenboden ในแต่ละสถานีจะมีไฮไลท์ของธรรมชาติพร้อมวิวของ Matterhorn สถานีส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะเกือบตลอดทั้งปี อิสระตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านนั่งรถไฟ Shuttle Train กลับสู่เมืองทาซ (Taesch)
(ค่านั่งรถไฟสาย Gornergrat bahn ไม่รวมในค่าทัวร์ หากท่านต้องการจอง OPTION สามารถติดต่อสอบถาม ได้จากหัวหน้าทัวร์ และไกด์ท้องถิ่น)
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่5)
ที่พัก : Hotel Mountime หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง)
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) (ระยะทาง 139 ก.ม./ 2 ชม.) เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักริมทะเลสาบเจนีวา ที่ล้อมรอบด้วยไร่ไวน์และมีแบล็คกราวด์เป็นเทือกเขาแอลป์ พาท่านเที่ยวเช็คอิน รูปปั้นเฟรดดี เมอร์คิวรี (Freddie Mercury Status) เขาเป็นนักร้อง นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ชาวบริติช เป็นที่รู้จักดีในฐานะนักร้องนำวงควีน วงร็อกที่มีชื่อเสียงมากๆ บุคคลโด่งดังไปทั่วทะเลสาบเจนีวา จากนั้นพาท่านไปชมด้านนอกของ มองเทรอซ์คาสิโน (Casino de Montreux) โรงละคร Rue du สร้างขึ้นบนที่ตั้งของคอมเพล็กซ์ดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงซึ่งเปิดขึ้นในปี 2426 และถูกไฟไหม้เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2514 (เป็นเหตุการณ์นี้ซึ่ง “มาพร้อมกับ” คอนเสิร์ตของ Frank Zappa และทำหน้าที่เป็นแรงผลักดัน สำหรับการสร้างสรรค์เพลงฮิต Deep Purple อันโด่งดัง – Smoke On The Water)
เที่ยง  รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่7)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) (ระยะทาง7 ก.ม./ 15 นาที) เมืองที่แสนโรแมนติกน่ารักตั้งอยู่ในรัฐโวของสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวต่างก็ขนานนามเวเว่ย์ให้เป็นไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส Pearls of the Swiss Riviera เพราะมีอากาศดีอบอุ่นเกือบทุกฤดูกาล และเมืองนี้ยังยังเป็นที่ตั้งของ สำนักงานใหญ่ของบริษัทใหญ่ด้านอาหารของโลกอย่าง เนสท์เล่ Nestle อีกด้วย แวะถ่ายรูปกับจุดไฮไลท์ของเมือง รูปปั้น “ชาลี แชปปลิ้น” (Chaplin Statue) ชาวอังกฤษที่มีผลงานสร้างชื่อเสียงในอเมริกาที่มีความหลงใหลและท่านเลือกเวเว่ย์เป็นสถานที่พักกายใจในบั้นปลายของชีวิต จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) (ระยะทาง 144 ก.ม. / 2.15 ชม.) เมืองตากอากาศเล็กๆ ที่สวยเหมือนในฝัน เป็นเมืองแห่งสองทะเลสาบ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ ทูน Thun และทะเลสาบเบรียนซ์ Bienz ล้อมรอบด้วยภูเขามีทิวทัศน์บริสุทธิ์และสวยงามมาก
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่8)
ที่พัก : Metropole หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)
นำท่านเดินทางไปสู่ สถานีกรินเดิลวาลด์ (Grindelwald Terminal) (ระยะทาง 21 ก.ม./ 30 นาที) เพื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้าไอเกอร์เอ็กซเพรส (Eiger Express) สู่ สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ (Eigergletcher) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อให้ท่านเปลี่ยนขึ้นรถไฟจุงเฟราเพื่อนำท่านสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (JUNGFRAUJOCH) ยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Top Of Europe บนเทือกเขาแอลป์ ล้อมรอบด้วยภูเขาไอเกอร์ เมินช์ และจุงเฟรา นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นบริเวณแรกในเทือกเขาแอลป์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย
เที่ยง  รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่10) บริการอาหารบนจุงฟราวให้ท่านได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศของทิวทัศน์สุดอลังการ
นำท่านเที่ยวชม ปราสาทน้ำแข็ง (Ice palace) สร้างขึ้นจากกองน้ำแข็งที่ก่อตัวอยู่ใต้ระเบียงชมวิวลงไป 20 เมตร เป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่นี่ซึ่งเกิดจากไกด์ภูเขา 2 คนได้เริ่มสลักน้ำแข็งเข้าไปเป็นโถงกว้างขนาด 1,000 ตารางเมตร โดยใช้เพียงสิ่วเจาะน้ำแข็งและเลื่อยในปี 1930 โดยทำทางเดินเหมือนโพรงถ้ำเข้าไป เพื่อชมรูปสลักน้ำแข็งต่างๆ อุณหภูมิภายในถ้ำจะคงที่อยู่ที่ -3 องศา อัลไพน์ เซนเซชัน(Alpine Sensation Adventure Tunnel) หนึ่งในสถานที่เที่ยวของจุงเฟรา อุโมงค์ความยาว 250 เมตร แสดงเรื่องราวของการรถไฟจุงเฟราและการพัฒนาของการท่องเที่ยวในเขตเทือกเขาแอลป์ มีจอภาพยนตร์ 360 องศา ที่สฟิงซ์ฮอลล์ โดยภาพยนตร์จะนำพาผู้ชมเข้าสู่โลกอัลไพน์ที่ล้อมรอบจุงเฟรา สฟิงซ์ฮอลล์ (Sphinx Observatory) ขึ้นลิฟต์ที่เร็วที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ไปเพียง 25 วินาที ก็จะถึงห้องชมวิวที่จะมองเห็นธารน้ำแข็งได้ในทุกสภาพอากาศ ซึ่งในวันฟ้าใสจะสามารถเปิดออกไปยังลานชมวิวกลางแจ้งที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,571 เมตร พร้อมวิวธารน้ำแข็งอเล็ตช์ มองเลยไปถึงฝรั่งเศส เยอรมนีและอิตาลีได้อีกด้วย จากนั้นนำท่านนั่งรถไฟไต่เขาลงจากยอดเขาจุงเฟรา โดยรถไฟ 2nd CLASS สู่สถานี สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ (Eigergletscher) จากนั้นเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ สถานีไคลเนอไชเด็ค (Kleine Scheidegg) เพื่อเดินสู่ เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) (ค่าทัวร์รวมค่าตั๋วกระเช้าลอยฟ้าและรถไฟชั้น 2) จากนั้นนำท่านสู่ เมืองซุก (ZUG) (ระยะทาง 108 กม. / 1.45 ชม.) เป็นเมื่องที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ และซุกเป็นเมืองที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกเมืองที่สะอาดที่สุด เป็นเมืองเก่าที่คงความสวยงามของพื้นหินแบบยุโรปในยุคกลางจะหลงรักเมืองนี้ สิ่งที่จะทำให้ท่านประทับใจคือรู้สึกได้ถึงอากาศที่สดชื่นและสะอาดอาจเป็นเพราะเมืองนี้ตั้งอยู่บนทะเลสาบ อิสระชอปปิ้งที่ Lohri AG Store ทีมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier, Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC, Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (ระยะทาง 32 กม. / 30 นาที)
เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่11)
ที่พัก : Ibis Styles Luzern City หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่12)
พาท่านเดินทาง เช็คอินที่เที่ยวเมืองลูเซิร์น เริ่มจากสัญลักษณ์ของเมืองคือ สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิตที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่าน แม่น้ำรอยส์ (Reuss River) ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์นเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน อิสระเดินเล่นที่ Schwanenplatz ที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนลูเซิร์น มีร้านค้ามากมายที่นี่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร มีโรงงานนาฬิกาโรเล็กซ์ในบริเวณนี้ด้วย ร้านค้ารอบๆ ขายงานฝีมือสวิสท้องถิ่น ร้านค้าบางร้านขายของที่ระลึก ช็อคโกแลต เครื่องประดับ ฯลฯ
เที่ยง  อิสระอาหารเที่ยงตามอัธยาศัยเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่องท่าน

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ระยะทาง 68 กม. / 1 ชม.)
เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
15.40 น. เดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) เที่ยวบินที่ QR096
23.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด ประเทศกาตาร์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

02.20 น. เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) เที่ยวบินที่ QR836
12.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป