messageImage_1699329728319

ทัวร์ยุโรป เยอรมัน เช็ก ออสเตรีย อิตาลี มิวนิค ฮัลล์สตัทท์ เวนิส เวโรน่า มิลาน เชสกี้ครุมลอฟ 8D5N (SQ)

ราคาเริ่มต้น 79,990 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: logo-footer-singaporeairlines

นำท่านเดินเข้าชม “สวนมิราเบลล์” (Mirabell Garden) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังมิราเบลล์ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1606 โดยพระราชประสงค์ของเจ้าชาย อาร์ค บิชอป วูล์ฟดาย์ทริซ ปัจจุบันเป็นจุดถ่ายรูป ยอดนิยมที่สุดของคู่บ่าวสาวและนักท่องเที่ยว จากทั่วโลก มีเวลาให้ท่านเดินชมและเก็บภาพ ความสวยงาม

วันที่เดินทาง

10 เม.ย. 67 – 17 เม.ย. 67

Day1 สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินชางงี

17.00 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
20.10 ออกเดินทางสู่ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) เที่ยวบินที่ SQ713
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
23.30 เดินทางถึง สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์

Day2 สนามบินชางงี – สนามบินมิวนิค – เมืองมิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ – รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเสาสูง – ศาลาว่าการเมืองใหม่ – มหาวิหารเฟราเอน – เมืองซาลส์บวร์ก – สวนมิราเบลล์ – แม่น้ำซอลซาค – อนุเสาวรีย์โมสาร์ท – มหาวิหารแห่งเมืองซาลสเบิร์ก – ถนนเกไตรเด้
00.30 ออกเดินทางสู่ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบิน Singapore Airlines เที่ยวบินที่ SQ328
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 30 นาที
06.55 เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมันนี ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบการของสนามบิน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (Munich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) มหานครแห่งแคว้นทางตอนใต้ เป็นเมืองที่มีบรรยากาศรื่นรมย์ เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามมากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของภูมิภาค และเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่เด่นที่สุดในประเทศเยอรมนีอีกหลายแห่ง
จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) หรือ จัตุรัสมารี ซึ่งถือเป็นหัวใจของเขตเมืองเก่า และเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มชมเมือง ในยุคกลางที่นี่เคยเป็นตลาด แต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งมีสิ่งที่น่าชมมากมาย อาทิ รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเสาสูง , ศาลาว่าการเมืองใหม่ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่หอนาฬิกาที่เรียกว่า GLOCKENSPIEL มีระฆังและตุ๊กตาซึ่งจะออกมาเต้นระบำให้ชมกัน ถ่ายภาพกับ มหาวิหารเฟราเอน (Frauenkirche) ที่มีโดมเป็นรูป ทรงหัวหอมคู่เป็นสัญลักษณ์ บริเวณดังกล่าวล้อมรอบไปด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย และห้างสรรพสินค้า ที่ท่านสามารถเดินเล่นและช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลิน อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) ซึ่งโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ ดินแดนแถบนี้เป็นแหล่งค้าเกลือเก่าแก่มาแต่โบราณ บ้านเมืองสร้างด้วยศิลปะแบบบาร็อค และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้เมื่อปี ค.ศ. 1997 เยี่ยมชมบ้านเกิดของคีตกวีเอกของโลก โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) และ สวนดอกไม้หนึ่งในเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อมตะเรื่อง The Sound of Music
เที่ยง อิสระอาหารกลางวัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว

นำท่านเดินเข้าชม “สวนมิราเบลล์” (Mirabell Garden) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังมิราเบลล์ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1606 โดยพระราชประสงค์ของเจ้าชาย อาร์ค บิชอป วูล์ฟดาย์ทริซ ปัจจุบันเป็นจุดถ่ายรูป ยอดนิยมที่สุดของคู่บ่าวสาวและนักท่องเที่ยว จากทั่วโลก มีเวลาให้ท่านเดินชมและเก็บภาพ ความสวยงาม

นำท่านเดินข้ามสะพาน แม่น้ำซอลซาค (Salzach River) อันงดงามมุ่งสู่เขตเมืองเก่าเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับบ้านของโมสาร์ท โมซาร์ทเกิดในปี ค.ศ.1756 ใน บ้าน Hagenauer Haus เลขที่ 9

นำท่านชมสถานที่ที่สำคัญๆ ของเมืองเก่าของซาลส์บวร์ก นำท่านชม จัตุรัสกลางเมืองเพื่อถ่ายรูปคู่กับ อนุเสาวรีย์โมสาร์ท (Mozart Square and Mozart Monument) ถ่ายภาพกับ มหาวิหารใหญ่หรือ มหาวิหารแห่งเมืองซาลสเบิร์ก (Salzburg Cathedral) สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเรอเนอซองส์ตอนปลายต่อบาร็อคตอนต้น ถือเป็นโบสถ์บาร็อคยุคแรก โดยสร้างขึ้นใหม่เพื่อแทนโบสถ์หลังเดิมที่ถูกไฟไหม้ใหญ่จนเกินซ่อมแซมและถูกระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถล่มเสียหาย

จากนั้นให้ท่านเดินเล่นบน ถนนเกไตรเด้ (Getreidegasse) ที่มีบ้านเรือนเรียงราย ซึ่งถูกสร้างขึ้นช่วงในศตวรรษที่ 15-18 ลักษณะเด่นคือมีลานบ้านที่มีหลังคาสวยงาม ป้ายเหล็กที่บ่งบอกชื่อร้านค้าหรือบ้านเรือนที่ทำด้วยมือและกรอบหน้าต่างที่เป็นภาพปูนแกะสลัก ปัจจุบันเป็นย่านช้อปปิ้งที่มีร้านค้า แบรนด์เนมมากมายและเป็นที่ตั้งของบ้านเกิดของโมสาร์ท จากนั้นอิสระเพื่อให้ได้ท่านเพลิดเพลินกับการ ช้อปปิ้ง เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม สินค้าที่ระลึกชื่อดังมากมาย ตลอดจนขนมและซ็อคโกแลตชื่อดังของเมืองนี้ก็คือ ช็อคโกแลตโมสาร์ต

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (1)
ที่พัก Holiday Inn City, Salzburg ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
Day3 เมืองฮัลล์สตัทท์ – โบสถ์แพริช – โบสถ์ประจำเมืองฮัลล์สตัทท์ – จัตุรัสกลางเมือง – รูปปั้นโฮลี่ทรินิตี้ – เมืองฟิลลัค – ชมเมืองฟิลลัค – โบสถ์เซนต์จาค็อบ – เมืองเวนิสเมสเตร

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติก ที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียได้ให้ฉายาเมืองนี้ว่า “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อปี 1997 อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย นำท่านถ่ายภาพกับ โบสถ์แพริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบมีอายุกว่า 500 ปี ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อสร้างขึ้นท่ามกลางซากปรักหักพังของป้อมโรมัน ถ่ายภาพกับ โบสถ์ประจำเมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt Lutheran Church) ที่มียอดแหลมสูงเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมมองของเมือง เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1785 เพื่อใช้เป็นสถานที่ฟังเทศนา พระราชกฤษฎีกาโดยจักรพรรดิโยเซฟที่ 1 ผ่านชม จัตุรัสกลางเมือง (Central Square Marktplatz) ที่โดดเด่นด้วย รูปปั้นโฮลี่ทรินิตี้ (Holy Holy Trinity Statue) เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆของเมือง

เที่ยง อิสระอาหารกลางวัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟิลลัค (Villach) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองแห่งการท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของมณฑลคารินเทีย (Carinthia) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเดรา (Drau River) ปัจจุบันเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่ย้อนกลับไปในสมัยโรมันแห่งนี้ ได้กลายเป็นเมืองที่คึกคัก ไปด้วยย่านธุรกิจ การค้า การท่องเที่ยวและการพักผ่อนหย่อนใจที่มีชื่อเสียง นำท่านเดินเล่น ชมเมืองฟิลลัค เมืองที่มีความน่ารักของสีสันอาคารย่านการค้า จากนั้นผ่านชม โบสถ์เซนต์จาค็อบ (St Jakob Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14-15 ในแบบสไตล์โกธิค โดยโบสถ์แห่งนี้ถือว่าเป็นคริสตจักร โปรเตสแตนต์แห่งแรกของประเทศออสเตรียอีกด้วย ยอดของโบสถ์สูงตะหง่านอย่างเป็นเอกลักษณ์ของเมืองฟิลลัค

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิสเมสเตร (Venice Mestre) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ของประเทศอิตาลี เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียติก เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุดของประเทศอิตาลี

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน (3)
ที่พัก Best Western Hotel Tritone, Venice Mestre ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

Day4 ท่าเรือตรอนเคตโต้ – ล่องเรือเกาะเวนิส – สะพานถอนหายใจ – วังดอดจ์ – จัตุรัสซานมาร์โค – โบสถ์ซานมาร์โค – เมืองเวโรน่า – โรงละครกลางแจ้งแบบโรมัน – บ้านของจูเลียต – จัตุรัสใจกลางเมือง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto Pier) เพื่อ ล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส (Cruise to Venice) สู่ เกาะเวนิส (Venice) หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยการคมนาคมทั้งเมืองใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “เมืองแห่งสายน้ำ หรือ ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง เดินทางถึง ท่าเรือซานมาร์โค (San Marco Pier) ศูนย์กลางของเกาะเวนิส นำท่าน เดินชมความสวยงามโดยรอบ ของเมืองเวนิส ผ่านชม สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ผ่านชม วังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองเมืองเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาแล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง
นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสซานมาร์โค (St. Mark’s Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในทวีปยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาณาเขตอันงดงาม รวมทั้ง นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ โบสถ์ซานมาร์โค (St. Mark’s Bacilica) ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ อิสระให้ท่านได้มีเวลาเดินเที่ยวชมเกาะอันสุดแสนโรแมนติกตามอัธยาศัย เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก เช่น เครื่องแก้วมูราโน่, หน้ากากเวนิส หรือ เลือกซื้อสินค้าแฟชั่นชั้นนำ หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1720 หรือ เลือกซื้อโปรแกรมเสริมพิเศษ นั่งเรือกอนโดล่า เรือพื้นเมืองของชาวเวนิส ล่องชมความสวยงามโดยรอบของเกาะเวนิส
**ไม่รวมค่าล่องเรือกอนโดล่า ราคาขึ้นอยู่กับชนิดของเรือ และ แต่ละช่วงวัน ราคาอาจมีการ เปลี่ยนแปลงได้ กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พิเศษเมนู สปาเก็ตตี้หมึกดำ (5)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (VERONA) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองที่ โด่งดังมาจากนิยายรักอมตะเรื่องเอกของ วิลเลี่ยม เชกส์เปียร์ เรื่องโรมิโอและจูเลียต นำท่านชมย่านเมือง เก่า ที่ยังคงสภาพบ้านเรือนแบบโบราณ นำท่านชมเมืองเวโรนา ถ่ายภาพด้านนอก โรงละครกลางแจ้งแบบโรมัน (VERONA ARENA) ลักษณะเหมือนโคลอสเซี่ยมที่โรมแต่ขนาดเล็กกว่า นอกจากนี้ เวโรนาเป็นเมืองแห่งความรัก ที่มีเรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มสาวของสองตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ มองตากิว(โรมีโอ) และ คาปูเล็ต (จูเลียต) ยิ่งเมื่อ วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ เอาเรื่องราวของโรมิโอกับจูเลียต มาเขียนเป็นบทละครเวที ชื่อเสียงของ โรมีโอ จูเลียต และ เวโรนา ก็โด่งดังมากขึ้นและดึงดูดให้นักท่องเที่ยว มาเยือนเมืองแห่งนี้
นำท่านเข้าชม บ้านของจูเลียต (Casa di Giulietta) คือบ้านเลขที่ 27 ถนน Via Cappello Casa di Giulietta ซึ่งแท้จริงแล้วบ้านหลังนี้ เคยเป็นของตระกูล Cappello เป็นความบังเอิญที่ชื่อตระกูลคล้ายคลึงกับตระกูล Capulet ของจูเลียต แต่ด้วยความที่กระแสของละครดัง คนก็เลยอินจัด เมืองนี้ก็เลยถูกพัฒนาให้เป็นที่ท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามบ้านหลังนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่13 และได้ทำการปรับปรุงใหม่ในศตวรรษที่ 20 โดยเพิ่มระเบียงซึ่งเป็นที่ที่โรมิโอสารภาพรักกับจูเลียตในบทประพันธ์ อีกทั้งยังเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หญิง สาวจากทั่วโลกพากันมาที่นี่ ยืนริมระเบียงแห่งนี้ และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เขียนขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนเพื่อจินตนาการถึงโรมิโอของพวกเธอ
จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณ จัตุรัสใจกลางเมือง (PIAZZA DELL ERBE) เป็น Market Square ที่สวยงาม เป็นที่ชุมนุมของชาวบ้านมาตั้งแต่ยุคโรมัน ตึกที่รายล้อมสี Pastel หวานๆ มีร้านรวงเล็กๆ ลักษณะเหมือนตลาด อิสระให้ทุกท่านท่องเที่ยวตามอัธยาศัย

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว
ที่พัก SGH Hotel Catullo, Verona ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day5 เมืองเบอร์กาโม – กำแพงเมืองเบอร์กาโมเวนิส – ประตูเมืองเบอร์กาโม – จัตุรัสเก่า – มหาวิหารเซนต์แมรี – พิพิธภัณฑ์ร็อคโค – เมืองโคโม – ทะเลสาบโคโม – เมืองมิลาน

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบอร์กาโม (Bergamo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) เบอร์กาโม เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ในแคว้นลอมบาร์เดียทางตอนเหนือของอิตาลี และมีลักษณะเฉพาะด้วยการแยกส่วนตอนล่างและส่วนบนด้วยกำแพงเมืองเวนิสอันเก่าแก่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เบอร์กาโมเป็นเมืองของราชวงศ์ลอมบาร์ดพำนัก จึงกลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งเหลือล้นอันเนื่องมาจากสมบัติล้ำค่ามากมายที่เก็บไว้ ในฐานะที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นำท่านชม กำแพงเมืองเบอร์กาโมเวนิส (Bergamo Venetian Walls) ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เมืองเก่าของเบอร์กาโมเคยถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันขนาดใหญ่หลายชุด นำท่านชม ประตูเมืองเบอร์กาโม (Bergamo City Gate) เมืองเก่าของเบอร์กาโมรายล้อมไปด้วยกำแพงเมืองเวนิสที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งเป็นประตูทางเข้าที่ทำจากหินอ่อนสีขาวตระการตา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 และตั้งตระหง่านเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงป้องกันเมือง เมื่อเดินขึ้นไปทีประตูจามทางเดินโค้ง คุณจะมองเห็นเมืองเบอร์กาโมอันกว้างไกลทั้งเขตเมืองและเขตชนบท นำท่านเยี่ยมชม จัตุรัสเก่า Piazza Vecchia จัตุรัสที่น่ารื่นรมย์แห่งนี้เป็น
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักในเมืองตอนบนอันเก่าแก่ รอบๆจัตุรัสเป็นอาคารที่สวยงามหลายหลังรวมถึง Campanone Torre Civica, Palazzo della Ragione อันงดงามและน้ำพุตกแต่งตรงกลาง มักจะมีการจัดงานต่างๆขึ้นภายในจัตุรัสที่มีเสน่ห์แห่งนี้

นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ มหาวิหารเซนต์แมรี (Basilica of St.Mary) แต่เดิมสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 มหาวิหารยังไม่แล้วเสร็จจนกระทั่งศตวรรษที่ 14 เนื่องจากปัญหาทางการเงินของโบสถ์ ด้านหน้าของโบสถ์มีการตกแต่งมากมาย และเหนือหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ตรงกลางมีการออกแบบทรงลูกบาศก์ 3 มิติ ที่ทำจากหินอ่อนโพลีโครม นอกจากนี้ยังมีซุ้มหินอ่อนและรูปปั้นนักบุญชาวอิตาลี ภายในมหาวิหาร คุณจะประทับใจกับรายละเอียดและการตกแต่งจำนวนมาก โดยที่เพดานและซุ้มประตูถูกปิดด้วยปูนสีทองและสีสันสดใส นำท่านผ่านชม พิพิธภัณฑ์ร็อคโค (Rocca Museum) พิพิธภัณฑ์ Rocca ตั้งอยู่ทางเหนือของส่วนหลักของกำแพงเมืองเวนิส ภายในป้อมปรากาเก่าแก่ พร้อมด้วยด้วยหอคอยทรงกลมและกำแพงหินขนาดมหึมา นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะอันสวยงามอยู่ใต้ป้อมปราการซึ่งท่านสามารถเดินผ่านชมได้เช่นกัน

เที่ยง อิสระอาหารกลางวัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโม (Como) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลสาบโคโมและเทือกเขาแอลป์ทำให้โคโมเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกเมืองนึงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวกัน ถ่ายรูปกับ ทะเลสาบโคโม (Como Lake)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (Milan) หรือ มิลาโน (Milano) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ประเทศอิตาลี เป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดียและเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี (Lombardy) ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเคลต์ คำว่า “Mid-lan” ซึ่ง

หมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับนิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และโรม
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (7)
ที่พัก Ibis Milano Malpensa Airport, Milan ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

Day6 เมืองมิลาน – มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน – อนุสาวรีย์กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 – อนุสาวรีย์ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ – โรงละครปิอัซซ่า เดลลา สกาลา – ประตูชัยแห่งเมืองมิลาน – ห้างแกลเลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่ด้วยความสูง 157 เมตร และกว้างถึง 92 เมตร ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลานเปรียบเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิลาน เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศอิตาลีรองจากมหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา ที่ตั้งอยู่ที่นครรัฐวาติกันเท่านั้น **ไม่รวมค่าบัตรเข้าชม มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน ท่านละ ประมาณ 5 ยูโร (EUR) หรือ คำนวณ เป็นเงินไทย ท่านละ ประมาณ 200 บาท นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Vittorio Emanuele II Monument) ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ อนุสาวรีย์ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ (Leonado Davinci Monument) หันหน้าไปทางโรงละครที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของ ผ่านชม โรงละครปิอัซซ่า เดลลา สกาลา (Piazza della scala) หรือ โรงละครสกาล่าเก่าแก่ของเมือง ผ่านชม ประตูชัยแห่งเมืองมิลาน (Porta Sempione) ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเมืองมิลานแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1888

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน (9)

นำท่านเดินทางสู่ ห้างแกลเลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) เป็นศูนย์การค้าที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดของเมืองมิลาน อิสระทุกท่านช้อปปิ้ง อาทิ Louis Vuitton, Gucci, Armani, Borsalino, Luisa Spagnoli, Bric’s, Tod’s, Swarovski, Stefanel, Massimo Dutti เป็นต้น

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยว
ที่พัก Ibis Milano Malpensa Airport, Milan ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
Day7 เมืองมิลาน – สนามบินมิลาโน มัลเปนซา – สนามบินชางงี

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (10)
หลังรับประทานอาหารเช้านำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินมิลาโน มัลเปนซา เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
13.00 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบิน Singapore Airlines เที่ยวบินที่ SQ355 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

Day8 สนามบินชางงี – สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

07.00 เดินทางถึง สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ และรอต่อเครื่อง
09.30 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Singapore Airlines เที่ยวบินที่ SQ708 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
11.00 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจ
ทัวร์ยุโรป