1713867076

ทัวร์ยุโรป น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นที่สวิต ออสเตรีย – เยอรมนี – สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน (EK)

ราคาเริ่มต้น 66,999 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ นำท่านชมหลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล

วันที่เดินทาง

เมษายน 67 – กันยายน 67

ทัวร์ยุโรป

วันที่หนึ่ง กรุงเทพฯ
22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 8 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์(Emirates)โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
**คณะเดินทางวันที่ 01 พ.ค. 2567 นัดหมายเวลา 23.00 น. ออกเดินทางเวลา 03.30 น. เที่ยวบินที่ EK 371 ถึงดูไบ เวลา 06.50 น.**
วันที่สอง ดูไบ – เวียนนา – ถนนคาร์ทเนอร์
02.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) เที่ยวบินที่ EK 371
06.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยสายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) เที่ยวบินที่ EK 127
12.25 น. เดินทางถึง สนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง

เดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นเชิญช๊อปปิ้งสินค้าในย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Kartnerstrasse) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton , Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ (Swarovski Crystal Worlds Store Vienna) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวารอฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก RAINERS หรือเทียบเท่า

วันที่สาม เวียนนา – ฮัลสตัท – มิวนิค – โรเซนไฮม์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง อิสระให้ท่านได้เดินเล่นฮัลสตัท หมู่บ้านที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึง่ในยุโรปตามอัธยาศัย โดย ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิก (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำท่านชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิก บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น และยังเป็นที่รวมห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆมากมาย
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองโรเซนไฮม์ (Rosenheim) เมืองใหญ่ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เป็นเมืองอิสระที่ตั้งอยู่ในใจกลางเขตโรเซนไฮม์ ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกในหุบเขาลุ่มแม่น้ำอินน์” และเป็นประตูประตูสู่ทะเลสาบเคียมเซ (Chiemsee) ประเทศเยอรมนี และด้วยความที่โรเซนไฮม์นั้นเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญระหว่างมิวนิก ซาลส์บวร์ก และอินส์บรูค ทำให้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้ได้ตกเป็นเป้าหมายสำคัญในการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร นำท่านชมจตุรัสแมกซ์โจเซฟพลาทซ์ (Max-Josefs-Platz) จตุรัสเก่าของเมืองซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของตลาดกลางการค้าโรเซนไฮม์ต่อมาได้พัฒนาเป็นจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของเมืองโรเซนไฮม์ โดยบ้านเมืองรอบๆจตุรัสนั้นจะตกแต่งสไตล์ Inn-Salzach region ที่เป็นสถาปัตยกรรมที่เน้นความโค้งของเพดาน หน้าต่างและหลังคา อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN EXPRESS ROSENHEIM หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ โรเซนไฮม์ – อินส์บรุค – วาดุซ – ซูริค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ นำท่านชมหลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองวาดุซ (Vaduz) เป็นเมืองหลวงของประเทศลิกเทนสไตน์ (Liechtenstein) เมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ นำท่านสู่จดชมวิวเมืองละถ่ายรูปคู่กับปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) ปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันในย่านใจกลางเมือง โดยปราสาทแห่งนี้ยังเป็นที่พักของพระบรมวงศานุวงศ์แห่งลิคทนสไตน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวปราสาทนั้นสร้างดั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อนที่จะมีการบูรณะและต่อเดิมในปีค.ศ. 1904 นำท่านเข้าสู่ร้าน Huber ร้านนาฬิกาและเครื่องประดับชื่อดัง แหล่งรวมนาฬิกาชั้นนำมากมายและเยกได้ว่ามียี่ห้อชั้นนำครบมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว อาทิ เช่น Patak Philippe, Rolex, Panerai , Omega, Brequets, IWC, Cartier, Piaget, Chopard ,Tag Heuer, Hublot, Vacheron Constantin, Audemars Piguet, Breitling, Longines, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Chanel, Hermes, Bvlgari, Rado, Tissot, Swatch ฯลฯ
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อิสระให้ท่านได้เดินชมเมือง ถ่ายรูปและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก INTERCITY HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า ซูริค – ทะเลสาบเบรียนซ์ – ขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขาชิลธอร์น – หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเน่น – อินเทอร์ลาเกน – ซูริค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz Lake) วิวสวยอีกแห่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชมความสวยงามระหว่างทางกันบ้าง หมู่บ้าน และ เมืองน่ารัก หลายที่ตั้งอยู่ติดกับริมทะเลสาบ ตามรอยซีรี่ย์เรื่องดังของเกาหลีอย่าง Crash Landing on you มีเวลาให้ท่านได้ชื่นชมความงดงามของทะเลสาบ

นำท่านเดินทางต่อสู่หมู่บ้านสเตเชลเบิร์ก (Stechelberg) เพื่อนำท่านขึ้นกระเช้าที่ยาวที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์สู่ยอดเขาชิลธอร์น (Schilthorn) โดยยอดเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในแถบบริเวณเทือกเขาแอลป์ เป็นยอดเขาที่มีความสูงกว่า 2,970 เมตร และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ ยอดเขาแห่งนี้นั้นมีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากการที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำเจมส์ บอนด์ 007 ภาค “On her majesty’s secret service” หรือในชื่อไทย “ยอดพยัคฆ์ราชินี” ด้านบนของยอดเขานั้นเป็นที่ตั้งของพิตซ์ กลอเรีย (Piz Gloria) ภัตตาคารหมุนได้ 360 องศา ภัตตาคารแห่งนี้สามารถหมุนได้เป็นวงกลม เพื่อให้ลูกค้าสามารถชมทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ได้รอบทิศทาง นอกจากนั้นแล้วชั้นล่างของภัตตาคารยังจัดเป็นที่แสดงนิทรรศการของเจมส์บอนด์ หรือ เรียกว่า Bond World 007 อีกด้วย โดยในวันที่อากาศดีนั้นจากยอดเขาชิลธอร์น สามารถมองเห็นยอดเขาต่างๆของสวิตเซอร์แลนด์ได้หลายยอดเขาเลยทีเดียว เช่น ยอดเขาไอเกอร์ , ยอดเขาทิตลิส , ยอดเขาเมินซ์ รวมถึง ยอดเขาจุงเฟราด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
บ่าย จากนั้นนำท่านลงจากเขาเพื่อเดินทางสู่ หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) หมู่บ้านเล็กๆ อันเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ที่ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของหุบเขาอันสวยงาม ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีน้ำตกมากถึง 72 แห่งที่คอยอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาได้ชมความสวยงาม โดยน้ำตกมีชื่อเสียงที่สุดชื่อว่า “น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach waterfall)” มีความสูง 297 เมตร และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ตกลงมาแบบม้วนเดียวจบที่สูงที่สุดในยุโรป
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองซูริค (Zurich)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก INTERCITY HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่หก ซูริค – ซุก – ลูเซิร์น – เบิร์น – สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ กรุงเบิร์น (Bern) เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลก ในปี ค.ศ.2010 อีกด้วย นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านนั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์กาสเซ(Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานซูริค เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
21.55 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) เที่ยวบินที่ EK086
วันที่เจ็ด ดูไบ – กรุงเทพ
07.10 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) เที่ยวบินที่ EK372
18.40 น. เดินทางถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป