HTCLX8DSWISSGERFRA

ทัวร์ยุโรป สวิส เยอรมนี ฝรั่งเศส 8 วัน 6 คืน (LX)

ราคาเริ่มต้น 129,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: head-swiss

จากนั้นนำเดินทางสู่ เมืองอีวัวร์ (Yvoire) (ระยะทาง 71 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15  ชม.) หมู่บ้านดอกไม้อันเก่าแก่ ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลาง อายุกว่า 700 ปี แต่ยังคงรักษาสภาพสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมถึงประตูเมืองและกำแพงอันเก่าแก่ไว้ได้อย่างดี ส่วนมากทำมาจากหินและไม้ โดยตลอดสองข้างทางถนนที่เราเดินจะเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสประดับตามอาคารบ้านเรือน จนได้ชื่อว่าหมู่บ้านดอกไม้  หมู่บ้านอีวัวร์เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านต้องห้ามพลาดในฝรั่งเศส  อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของหมู่บ้าน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ระยะทาง 28 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)

วันที่เดินทาง

28 ธ.ค. 66 – 4 ม.ค. 67, 12 เม.ย. 67 – 19 เม.ย. 67

ทัวร์ยุโรป

วันแรก กรุงเทพมหานคร – ซูริค

09.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินสวิสแอร์ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
13.20 น. ออกเดินทางสู่นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (บินตรง) โดยสายการบินสวิสแอร์ เที่ยวบิน LX181 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.05 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินมีบริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินตรง สู่นครซูริค
19.25 น. เดินทางถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Movenpick Hotel Zurich Airport **** หรือเทียบเท่า

วันที่สอง ซูริค – ชไตน์ อัมไรน์ – น้ำตกไรน์ – ทิทิเซ่ – ป่าดำ

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองชไตน์ อัม ไรน์ (Stein am Rhein) (ระยะทาง 54 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองประวัติศาสตร์เล็กๆที่ตั้งอยู่ในแคว้นซอฟฮาวเซ่นทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำคอนแสตนซ์ติดกับชายแดนประเทศเยอรมนี มีอาณาเขตเมืองเพียง 5.75 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรอาศัยเพียงไม่ถึง 4,000 คน นำท่านเที่ยวชมเมืองน่ารักแห่งนี้ที่สองข้างทางของถนนสายหลักเต็มไปด้วยบ้านเรือหลากสีสันสวยงาม และแวะถ่ายรูปกับ สำนักสงฆ์เซนต์จอร์จ (Abbey of St.George) ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 แบบสไตล์โกธิคและถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซอฟฮาวเซ่น (Schaffhausen) (ระยะทาง 21 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เมืองที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยกลิ่นไอของสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์ และอาคารสไตล์คลาสสิค นำท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของน้ำตกไรน์ น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา อิสระให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณและเก็บภาพความงามตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิทิเซ่ (Titisee) (ระยะทาง 69 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองตากอากาศขนาดเล็ก โอบล้อมด้วยขุนเขา ตั้งอยู่ในเขตของป่าดำ (Black Forest) ที่ปกคลุมไปด้วยป่าสนยืนต้นนับหมื่นไร่ของประเทศเยอรมนี จุดเด่นของที่นี่ คือ ทะเลสาบทิทิเซ่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่ติดอันดับความสวยงามในยุโรป ซึ่งนักท่องเที่ยวจะรู้สึกได้ถึงความเงียบสงบ พร้อมกับได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ท่านยังสามารถเลือกซื้อ นาฬิกาคุกคู สินค้าขึ้นชื่อของที่นี่ จากนั้นนำท่านสู่ศูนย์การผลิตนาฬิกาคุ๊กคู เป็นนาฬิกาโบราณออกแบบงานไม้โอ๊คแกะ เน้นรายละเอียด ดีไซด์สุดคลาสสิก ซึ่งมีประวัติศาสตร์พื้นเมืองมากว่า 100 ปี ได้เวลานำท่านสัมผัสธรรมชาติและมนต์เสน่ห์ของป่าดำกับการล่องเรือในทะเลสาบทิทิเซ่ ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงสวยงามติดอันดับต้นๆของยุโรป (***ขึ้นกับสภาพอากาศและการบริการของเรือ หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยสำหรับการล่องเรือ หรือมีเหตุขัดข้องอันใด จะนำท่านเดินชมบริเวณริมทะเลสาบแทน) จากนั้น นำท่านเดินทาง ไฟร์บูรก์ ( Freiburg) (ระยะทาง 35 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (เมนูขาหมูเยอรมัน)

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Dorint An Den Therman **** หรือเทียบเท่า

วันที่สาม สตราสบูร์ก – สำนักสงฆ์มงแซงโอดิล – กอลมาร์ – แบลฟอร์

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตารสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 85 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองหลวงอันงดงามของแคว้นอัลซาส และปัจจุบันได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวของแคว้น เนื่องจากเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เสียงของโบสถ์สไตล์โกธิคขนาดใหญ่ รวมถึงอาคารสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่สวยงามของเมืองแห่งนี้ นำท่านแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งเมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg Cathedral) คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่าง ปี ค.ศ.1176-1439 ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพู และถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศสในยุคนั้น และเคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกระหว่างปี ค.ศ.1647-1874 ปัจจุบันเป็นคริสตจักรที่สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยบางส่วนของตัวอาคารนั้นสร้างขึ้นแบบสถาปัตยกรรมโรมัน นอกจากนี้แล้วภายในวิหารยังเป็นสถานที่จัดเก็บ นาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหอนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

บ่าย นำท่านเข้าชมสู่ อารามมงแซงโอดิล (Mont Sainte Odile Monastery) หรืออารามโฮเฮนเบิร์ก (Hohenburg Abbey) โบสถ์โบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขา Vosges ในแคว้นอัลซาสที่ระดับความสูง 760 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญเซนต์โอดิล แห่งอัลซาส ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ.660-720 โดยแรกเริ่มถูกสร้างขึ้นเป็นคอนแวนต์หรือสำนักชีโดยดยุคแห่งอัลซาส นาม Adalrich ในช่วงปลายศตวรรษที่ 7 ซึ่งภายหลังถูกทำลายลงในช่วงยุคกลาง และได้บูรณะขึ้นใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 17-18 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) (ระยะทาง 52 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองเล็กที่มีคูคลองสายน้ำพาดผ่านจนขึ้นชื่อว่าเป็น “ลิตเติ้ลเวนิส” อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองโรแมนติกที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งไร่ไวน์ชั้นดี มีความสวยงามด้วยธรรมชาติหุบเขาและไร่องุ่น นำท่านเดินเที่ยวชม ย่านตัวเมืองเก่า (Old Town) ชมสถาปัตยกรรมความเก่าแก่ของบ้านไม้เก่าแก่ที่สร้างในแบบเรเนสซองส์ โดยอาคารเก่าหลายหลังถูกสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ตื่นตาไปกับความงดงามของบ้านเรือนที่เรียงรายไปตามสองฝั่งคลองที่ดูงดงามอย่างลงตัว จากนั้นแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์เซนต์มาร์ติน (St Martin’s Church) โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.1234-1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์ มีสถาปัตยกรรมโกธิคที่สวยงามโอ่อ่า ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองแบลฟอร์ (Belfort) (ระยะทาง 80 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.15 ชม.)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mercure Belfort Center **** หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ แบลฟอร์ – Saline Royal – ลียง

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินเที่ยวชม เมืองแบลฟอร์ (Belfort) เป็นเมืองทางทิศเหนือ-ตะวันออกของฝรั่งเศส ในแคว้นฟร็องช์-กงเต นำท่าน ถ่ายรูปกับป้อมปราการแบลฟอร์ (Belfort Citadel) ซึ่งเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างขึ้นระหว่างปี 1687 – 1703 ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านที่สามารถต้านกองกำลังจากเยอรมันที่เข้ามาบุกยึดพื้นที่ของฝรั่งเศสทางตอนเหนือไว้ได้ ดังนั้นเมืองนี้จึงเป็นที่รู้จักในนาม “เมืองฮีโร่” ของฝรั่งเศส นำท่านชมป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขา จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์แผ่นสลักหินรูปสิงโตขนาดใหญ่ด้วยความกว้างกว่า 22 เมตรและ สูง 11 เมตร สร้างขึ้นในปี 1875-1879 ใช้เวลากว่า 4 ปีในการสลักรูปสิงโตดังกล่าว อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามและน่ารักของเมืองเก่าแบลฟอร์ตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเบอซ็องซง (Besancon) (ระยะทาง 93 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาร์ค เอต์ เซอณ็องส์ (Arc-et-Senans) (ระยะทาง 35 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที) เพื่อเข้าชม Saline Royal หรือ Royal Saltwork กลุ่มอาคารประวัติศาสตร์ในอุตสาหกรรมผลิตเกลือที่สร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในปี ค.ศ.1775-1779 ออกแบบโดยสถาปนิกนีโอคลาสสิคชื่อดังผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส โดยบริเวณนี้เป็นหัวใจสำคัญในอุตสาหกรรมผลิตเกลือในช่วงดังกล่าว รอบๆบริเวณประกอบด้วยที่พักผู้อำนวยการ อาคารผลิต โรงเก็บเกลือ หอพัก และอื่นๆรวมทั้งสิ้นจำนวน 11 อาคาร จากนั้นเมื่อเข้าสู่ปลายศตวรรษที่ 19 อุตสาหกรรมเกลือซึ่งไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป จึงทำให้กิจการปิดตัวลง ทิ้งไว้เพียงอนุสรณ์แก่ชนม์รุ่นหลัง โดยถูกขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลก (UNESCO WORLDS’ HERITAGE) ของฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1982 ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองลียง (Lyon) (ระยะทาง 197 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mercure Lyon Center Chateau Perrache**** หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า ลียง – อันซี – อีวัวร์ – เจนีวา

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม เมืองลียง (Lyon) ซึ่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1998 นำท่านผ่านชม เพลซ เดอ เตอรัว (Place des Terreaux) จัตุรัสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลียง โดยจัตุรัสนี้ได้รับการออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1990 โดยศิลปิน Daniel Buren นำท่านแวะถ่ายรูปกับ อาคารศาลากลางเมืองลียง (City Hall) โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองลียง นำท่านถ่ายรูปโรงละครโอเปร่า (Opera house) อีกหนึ่งอาคารประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลาว่าการเมือง โดยอาคารถูกสร้างขึ้นใน ช่วงปี ค.ศ. 1826 สร้างขึ้นโดย Chenavard และ Pollet และต่อมาถูกออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์โดย Jean Nouvel โดยอาคารเปิดขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.1993 ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์แซง นิเช่ (St. Nizier church) อีกหนึ่งคริสตจักรที่ถูกสร้างขึ้นในสไตล์โกธิค เป็นโบสถ์ที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ปัจจุบันเป็นหนึ่งในอาคารที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองลียง จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์จอห์น (Cathedral of St. John) หรือ วิหารลียง (Lyon Cathedral) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก โดยวิหารถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่12 บนซากปรักหักพังของโบสถ์เก่าจากศตวรรษที่ 6 โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของวิหารแห่งนี้ คือ นาฬิกาดาราศาสตร์จากศตวรรษที่ 14
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองอันซี (Annecy) (ระยะทาง 160 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้นๆของแคว้น โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบอันซี (Annecy Lake) ในฝรั่งเศส เมืองอันซีเป็นเมืองหลวงของจังหวัดโอต-ซาวัว (Haute-Savoie) บริเวณใจกลางเมืองนั้นถือว่าเป็นส่วนที่โดดเด่นของเมืองเนื่องจากยังคงความเป็นเมืองยุคกลางและยังเป็นที่ตั้งของปราสาทโบราณ (Annecy Castle) จากศตวรรษที่ 14 มีคลองขนาดเล็กไหลผ่านใจกลางเมือง นำท่านถ่ายรูปกับปาเลส์เดอไลล์ (Palais d’Isle) หรือ “คุกเก่า” สัญลักษณ์ของเมืองอันซีและเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดของฝรั่งเศส เป็นปราสาทโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1132 ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นในรูปทรงสามเหลี่ยมคล้ายหัวเรือโบราณที่ทอดสมออยู่ในแม่น้ำและถูกประกาศให้เป็นอนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ.1900 จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแซ็ง-ปีแยร์แห่งอานซี (Cathedrale Saint-Pierre d’Annecy) มหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกและเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของจังหวัดโอต-ซาวัว และของแคว้นโรนาลป์

จากนั้นนำเดินทางสู่ เมืองอีวัวร์ (Yvoire) (ระยะทาง 71 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชม.) หมู่บ้านดอกไม้อันเก่าแก่ ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลาง อายุกว่า 700 ปี แต่ยังคงรักษาสภาพสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมถึงประตูเมืองและกำแพงอันเก่าแก่ไว้ได้อย่างดี ส่วนมากทำมาจากหินและไม้ โดยตลอดสองข้างทางถนนที่เราเดินจะเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสประดับตามอาคารบ้านเรือน จนได้ชื่อว่าหมู่บ้านดอกไม้ หมู่บ้านอีวัวร์เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านต้องห้ามพลาดในฝรั่งเศส อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของหมู่บ้าน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ระยะทาง 28 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Warwick Geneva Hotel **** หรือเทียบเท่า

วันที่หก กลาเซียร์ 3000 – ลูเซิร์น

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโคล เด ปิลยอง (Col De Pillon) เมืองที่ตั้งของสถานีกระเช้าไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จุผู้โดยสารได้ถึง 125 คน นำท่านขึ้นกระเช้ามุ่งหน้าสู่ยอดเขา กลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) ยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 เมตร นำท่านสัมผัสความหวาดเสียวที่ สะพานพีควอล์ค (PEAK WALK BY TISSOT) สะพานความยาว 107 เมตรหนึ่งเดียวที่เชื่อมต่อระหว่างสองยอดเขาเข้าด้วยกัน นำท่านชม จุดชมวิวกลาเซียร์ 3000 ที่สูงกว่า 4,000 เมตรจากพื้นดิน ท่านสามารถชม วิวภูเขาที่งดงาม และปกคลุมด้วยหิมะแบบพาโนราม่า ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขา จุงเฟรา, แมทเทอร์ฮอร์น และ มองท์ บลังซ์ ได้อย่างชัดเจน อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับกิจกรรมที่มีให้เลือกมากมายบนยอดเขา กลาเซียร์ 3000 (*บางกิจกรรมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) อิสระให้ท่านเก็บภาพความน่าประทับใจตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บนยอดเขากลาเซียร์ 3000
(หากภัตตาคารไม่สามารถรองรับคณะได้ จะนำท่านรับประทานอาหารที่ท้องถิ่นที่ร้านอื่นทดแทน)
บ่าย นำท่านนั่งกระเช้าลงจากกลาเซียร์ 3000 และนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ระยะทาง 154 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านชม สะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์น สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด จากนั้นนำท่านชมรูป แกะสลักสิงโตร้องไห้ หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสะพานไม้มากนัก อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Radisson Blu Hotel Lucern **** หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด ซูริค
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) (ระยะทาง 53 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านสู่ จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมือง ซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านถ่ายรูปกับ Munsterbrucke ซึ่งเป็นสะพานข้ามถนนและทางเดินทางในเมืองเก่า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำลิมมัต และเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์ Crash Landing on You นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีวิหาร Fraumunster and Gross Munster อีกด้วย จากนั้นนำท่านสู่ Linderhof Strasse ซึ่งเป็น ฉากเปิดเรื่อง และเป็นจุดชมวิวเมืองซูริคอันเลื่องชื่อ พร้อมกับวิวแม่น้ำลิมมัต อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ (***ร้านค้าส่วนมากในประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะปิดทำการในวันอาทิตย์)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องจีน

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ Lindt Home of Chocolate ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตลินด์ ส่งออกที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ ให้ท่านได้เลือกซื้อช็อกโกแลตเป็นของฝากได้ตามอัธยาศัย

15.00 น. นำท่านสู่สนามบิน เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund
18.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ LX180 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.40 ชม.)

วันที่แปด กรุงเทพมหานคร

10.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

ทัวร์ยุโรป