Picture1

ทัวร์ยุโรป เยอรมนี – ออสเตรีย 8วัน 5คืน (EK)

ราคาเริ่มต้น 69,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

นำท่านเดินทางสู่เมืองเอาก์สบูร์ก (Augsburg) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของแคว้นบาวาเรียรองจากมิวนิกและนูเรมเบิร์ก โดยชื่อเมืองได้มาจากชื่อของจักรพรรดิ ออกุสตุส (Augustus) แห่งโรมัน ถือเป็นเมืองโบราณบนเส้นทางสาย      โรแมนติกของอาณาจักรบาวาเรีย ให้ท่านเข้าชม ศาลาว่าการเมืองเก่าแห่งเอาก์สบูร์ก  (Augsburger Rathaus and GoldeneSaal) สร้างขึ้นในคริสตวรรษที่ 14 โดยถูกออกแบบจนแล้วเสร็จในราวคริสตวรรษที่ 17 โดยนาย อีไลส์ ฮอลล์ สถาปนิกผู้โด่งดังในการออกแบบสถาปัตยกรรมรูปแบบเรอเนสซองส์แห่งเยอรมัน ภายในมีห้องโถงทองคำ (Golden Hall) เป็นห้องที่สำคัญที่สุดในอาคารแห่งนี้ เพราะถือยังคงรักษารูปแบบการตกแต่งแบบเรอเนสซองส์เยอรมันได้อย่างสมบูรณ์

วันที่เดินทาง

11 เม.ย. 67 – 18 เม.ย. 67, 1 พ.ค. 67 – 8 พ.ค. 67

ทัวร์ยุโรป

วันที่หนึ่ง
กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – ดูไบ
17.30 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
สายการบินเอมิเรทซ์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
20.35 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK373
วันที่สอง ดูไบ – แฟรงค์เฟิร์ต – เวิร์ซบวร์ก – โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์
00.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
03.20 น. ออกเดินทางจากต่อสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต สู่ประเทศเยอรมนีโดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK43
07.35 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานฟรังค์ฟวร์ทอัมไมน์ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นำชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg) อยู่ทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) เป็นอีกเมืองที่นักท่องเที่ยวยกย่องว่าสวยงามและมีเสน่ห์ที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆที่ตั้งอยู่เรียงรายบนถนนสายโรเเมนติกแห่งแคว้นบาวาเรีย โดยภายในเมืองแห่งนี้ยังคงความสมบูรณ์แบบมาถึงยุคปัจจุบัน อาคารสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเรอเนสซองส์ รวมไปถึงบ้านเรือนที่ถูกสร้างในรูปแบบเยอรมันขนานแท้เอาไว้ตั้งแต่เมื่อกว่า 800 ปีก่อน นำท่านเข้าชมย่านเมืองเก่าของโรเธนเบิร์ก (Marktplazt) ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิม เดินชมจัตุรัสใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของ อาคารเทศบาลเมืองและโบสถ์เซนต์จาคอบ นำท่านถ่ายรูปที่จุดเพลินไลน์ (Plonlein) เป็นอีกมุมที่สวยที่สุดของเมือง กับบ้านโครงไม้ทรงสูงยาวสีเหลืองสด เคียงคู่กับ Siebers Tower สร้างขึ้นเมือปีค.ศ.1385 ที่ตั้งเยื้องอยู่ไปทางด้านหลัง และรายล้อมไปด้วยบ้านทรงโบราณสีสันสดใส ตัวบ้านตั้งอยู่ตรงจุดที่ไล่ระดับสูงต่ำของถนนอย่างลงตัว อิสระให้ท่านมีเวลาได้เก็บภาพประทับใจ ย้อนความทรงจำในยุคอัศวินหรือขุนนางเรืองอำนาจในยุคกลางหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆที่ผลิตในเมืองนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Eisenhut หรือเทียบเท่า
วันที่สาม
โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ – ดิงเคิลสบูล – เนิร์ดลิงเงิน – เอาคส์บวร์ค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิงเกลส์บูล ( Dinkelsbühl ) เมืองท่องเที่ยวที่เก่าแก่แห่งแคว้นบาวาเรีย (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน) ส่วนใหญ่มักถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและอาคารเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ด้วยสีสันและศิลปะในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จึงส่งผลให้ดิงเกลส์บูลเป็นเมืองที่น่ามาเยือนมากที่สุด นำท่านชมโบสถ์เซนต์จอร์จ (Saint George’s Cathedral) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 โดยตัวโบสถ์นั้นออกแบบโดย Nikolaus Esele ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์ในแบบสไตล์โกธิคที่สวยงามอีกแห่งของเมือง ชมภาพเขียนรูปพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนฝีมือ มิคาเอล โวลเกอมุท (Michael Wolgemut) ที่อยู่เหนือแท่นบูชาที่สร้างในปี ค.ศ.1892
นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองเนิร์ดลิงเงิน (Nordlingen) เมืองที่มีความแปลกไม่เหมือนใครแห่งรัฐบาวาเรีย ความน่าสนใจของเมืองนี้ คือ ตัวเมืองที่ตั้งอยู่ในหลุมอุกกาบาตขนาดยักษ์ที่ตกลงมายังโลกด้วยความเร็วประมาณ 70,000 กม./ชม. ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่มีรัศมีความกว้างกว่า 25 กิโลเมตร เมืองแห่งนี้ยังเป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และด้วยการวางผังอาคารบ้านเรือนเป็นวงกลม โดยมีกำแพงสูง 4-5 เมตรล้อมรอบ ทำให้เนิร์ดลิงเงินเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกที่มีผังเมืองโดนเด่นแห่งแคว้นบาวาเรีย และยังเป็น 1 ใน 3 เมืองของประเทศเยอรมนีที่มีเมืองตั้งอยู่ภายในกำแพงคูเมืองลักษณะนี้ ซึ่งอีก 2 เมือง ได้แก่ เมืองโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ และเมืองดิงเคิลสบูล เมืองเนิร์ดลิงเงินยังเป็นเมืองต้นแบบกำแพงเมืองภาพยนตร์ในแอนิเมชั่นญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง Attack on Titan อีกด้วย อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเอาก์สบูร์ก (Augsburg) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของแคว้นบาวาเรียรองจากมิวนิกและนูเรมเบิร์ก โดยชื่อเมืองได้มาจากชื่อของจักรพรรดิ ออกุสตุส (Augustus) แห่งโรมัน ถือเป็นเมืองโบราณบนเส้นทางสาย โรแมนติกของอาณาจักรบาวาเรีย ให้ท่านเข้าชม ศาลาว่าการเมืองเก่าแห่งเอาก์สบูร์ก (Augsburger Rathaus and GoldeneSaal) สร้างขึ้นในคริสตวรรษที่ 14 โดยถูกออกแบบจนแล้วเสร็จในราวคริสตวรรษที่ 17 โดยนาย อีไลส์ ฮอลล์ สถาปนิกผู้โด่งดังในการออกแบบสถาปัตยกรรมรูปแบบเรอเนสซองส์แห่งเยอรมัน ภายในมีห้องโถงทองคำ (Golden Hall) เป็นห้องที่สำคัญที่สุดในอาคารแห่งนี้ เพราะถือยังคงรักษารูปแบบการตกแต่งแบบเรอเนสซองส์เยอรมันได้อย่างสมบูรณ์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก QU Hotel Augsburg หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ เอาคส์บวร์ค – อิงโกลสตัดท์ OUTLET – มิวนิค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ Ingolstadt Village Outlet เอ้าท์เลตขนาดใหญ่ใกล้เมืองมิวนิคที่มีสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากร้านค้าชั้นนำหลากหลายแบรนด์ อาทิ Aigner, Bally, Burberrly, Calvin Klein,Camel, Fossil, Geox, Guess, L’Occitane, Lacoste, Levi’s, NIKE,Samsonite, Stefanel, Superdry, Swarovski, The North Face, Timberland,Tommy Hilfiger, TUMI, Valentino, Versace ฯลฯ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ จากนั้นนำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น และยังเป็นที่รวมห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก NH Munchen Ost Conference Center หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า มิวนิค – ลันทซ์แบร์คอัมเล็ช – เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ – มิวนิค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองลันทซ์แบร์คอัมเล็ช (Landsberg am Lech) อีกเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเส้นทางสายโรแมนติกเป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาวาเรียอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Lech เป็นที่รู้จักเพราะที่นี่เคยเป็นที่กักขังอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ในปี ค.ศ.1924 ที่เขาพยายามจะปฏิวัติแต่ไม่สำเร็จก่อนที่เขาจะเรืองอำนาจ และฮิตเลอร์ใช้เวลาขณะถูกจองจำเขียนหนังสือชื่อ Mein Kampf ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ของเขา แคมป์แรกของพวกลัทธินาซีอยู่ห่างออกจาก Landsberg ไปไม่ไกลนักเคยใช้เป็นที่กักขังนักโทษทางการเมืองกว่า 5,000 คน ถูกทำลายลงเมื่อเดือนเมษายน ปี ค.ศ.1945 โดยกองทัพอากาศของอเมริกา นำท่านเดินชมเมืองน่ารักๆ แห่งนี้ ตั้งแต่เขตเมืองเก่าที่มีความเก่าแก่สีสันสวยงาม จากนั้นนำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
บ่าย
จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน ***

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองมิวนิค (Munich)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก NH Munchen Ost Conference Center หรือเทียบเท่า
วันที่หก มิวนิค – ซาลส์บวร์ก – ฮัลสตัท – ลินซ์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยงเมืองซาลส์บวร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เยี่ยมชมเขตเมืองเก่าศิลปะบาโรกที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน นำท่านชมสวนมิราเบลล์ (Mirabel Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก จากนั้นให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งถนนเกไทรเดร้ (Getreidegasse) ถนนชื่อดังย่านกลางเมืองเก่ามีร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย บ้านเรือนที่ตั้งอยู่เรียงรายบนถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15-18 ลักษณะเด่น คือมีป้ายเหล็กสัญญษลักษณ์ต่างๆ ที่ทำด้วยมือและกรอบหน้าต่างเป็นภาพปูนปั้นแกะสลักประดับอยู่ และยังมีสถานที่ที่น่าสนใจ ได้แก่ บ้านเกิดโมสาร์ท ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มากกว่า 20 ปี บ้านหลังนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในบ้านหลังนี้ยังทำให้เหมือนตอนที่โมสาร์ทมีชีวิตอยู่มากที่สุด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลินซ์ (Linz) เมืองเก่าแก่ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศออสเตรีย ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับมนต์เสน่ห์ของบ้านเรือนสไตล์บาโรก และอาคารต่างๆ ที่มีประวัติศาสตร์มากมายที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เมืองลินซ์ยังเคยเป็นเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปใน ค.ศ. 2009 และเป็นสมาชิกของ UNESCO Creative Cities Network (UCCN) ในฐานะเมืองแห่งศิลปะสื่ออีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Hotel Linz หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด ลินซ์ – Parndorf Outlet – เวียนนา – ดูไบ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่มหาวิหารแห่งเมืองลินซ์ (Pilgrimage church) หอคอยคู่สวยสง่า ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา Pöstlingberg โดยในอดีต “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ตั้งใจสร้างเพื่อเป็นที่เก็บศพของพ่อและแม่ เป็นสถานที่สำคัญของลินซ์ ท่านจะได้ชมวิวมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของลินซ์ จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณจัตุรัสเฮาพท์ พลัทซ์ (Hauptplatz) ย่านกลางเมืองที่สำคัญของชาวเมือง ที่รายล้อมไปด้วย อาคาร 3-4 ชั้น สีสันพาสเทล ดูใหม่ต่างจากเมืองอื่นๆ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าตามร้านค้าอยู่มากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านเดินทางสู่ Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
17.30 น. ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
21.55 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK126

วันที่แปด ดูไบ – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
06.35 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางต่อจากสนามบินดูไบกลับประเทศไทย โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK372
18.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป