ยุโรปตะวันออก (นอยชวานชไตน์-ฮัลล์สตัทท์-ครุมลอฟ)1354_20231115102115

ทัวร์ยุโรปตะวันออก (นอยชวานชไตน์-ฮัลล์สตัทท์-ครุมลอฟ) 8วัน 5คืน (SV)

ราคาเริ่มต้น 59,990 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ฟุสเซ่นเป็นเมืองในบาวาเรีย อยู่ห่างจากชายแดนออสเตรียประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเครื่องดนตรีไวโอลีน นอกจากนี้เมืองนี้ก็ยังมีความน่ารักในตัวเองเพราะเป็นเมืองเล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาและธรรมชาติ

วันที่เดินทาง

กุมภาพันธ์ 67 – พฤกษภาคม 67

ทัวร์ยุโรป

Day1 สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

22.00/00.00 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน

Day2 สนามบินคิงอับดุลอะซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย – สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน – เมืองมิวนิค – ศาลากลางเมืองมิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์

01.05/03.00 ออกเดินทางสู่ สนามบินคิงอับดุลอะซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines เที่ยวบินที่ SV849
(บริการ อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.00/07.00 เดินทางถึง สนามบินคิงอับดุลอะซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย
09.40/10.40 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines เที่ยวบินที่ SV175
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
13.30/15.15 เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน หลังจากนั้นนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระพร้อมออกเดินทางตาม (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (Munich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐไบเอิร์น ประเทศเยอรมัน เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับ 3 ในเยอรมันรองจากเบอร์ลินและฮัมบวร์ค มิวนิคตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอีซาร์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำดานูบ
นำท่านชม ศาลากลางเมืองมิวนิค (Neues Rathaus) ที่ตั้งอยู่ด้านเหนือของ จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ หรือ จัตุรัสพระแม่มารี คือจัตุรัสกลางเมืองของนครมิวนิค ถือเป็นจัตุรัสหลักประจำเมืองมาตั้งแต่ ค.ศ. 1158 และยังเป็นที่ตั้งของเสาอนุสรณ์ พระแม่มารี ซึ่งตั้งตระหง่านที่จัตุรัสแห่งนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1638 ในปัจจุบัน ด้านเหนือของจัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองแห่งเก่า และด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งของศาลาการเมืองแห่งใหม่ จัตุรัสนี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของมิวนิคเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านสินค้า แบรนด์เนมต่างๆ ให้ท่านเดินเลือกชมได้อย่างมากมาย มีสถาปัตยกรรมต่างๆที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์โกธิค อิสระให้ท่านเดินชมเมืองและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำ บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (1)
ที่พัก Holiday Inn Express, Munich ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

Day3 เมืองมิวนิค – เมืองฟุสเซ่น – ปราสาทนอยชวานซไตน์ – เมืองซาลส์บูร์ก – ถนน Getreidegasse

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ฟุสเซ่นเป็นเมืองในบาวาเรีย อยู่ห่างจากชายแดนออสเตรียประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเครื่องดนตรีไวโอลีน นอกจากนี้เมืองนี้ก็ยังมีความน่ารักในตัวเองเพราะเป็นเมืองเล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาและธรรมชาติ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (3)

นำท่านเข้าชม ปราสาทนอยชวานซไตน์ (Neuschwanstein Castle) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน สร้างในสมัยพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845 – 1886 ออกแบบโดย Christian Jank ตามจินตนาการของพระเจ้าลุดวิทที่ 2 แห่งบาวาเรีย มีพระประสงค์ให้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คนและเพื่ออุทิศให้แก่ มหากวีชื่อ ริชาร์ท วากเนอร์ ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่อง โลอินกรีน มีเนื้อหาเกี่ยวกับอัศวินขี่หงส์ขาว ดังนั้น ปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งตามเรื่องราวในบทประพันธ์ดังกล่าว ปราสาทนี้เป็นปราสาทยุโรปที่งดงามมากที่สุดในโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงแดนเนรมิต **รวมค่าเข้าชมปราสาทนอยชวานซไตน์แล้ว ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมภายในปราสาทได้ซึ่งจะทราบ ณ วันเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าตั๋วเข้าชม ท่านละ 17.5 ยูโร ทั้งนี้ยังสามารถเที่ยวชมบริเวณโดยรอบของปราสาทได้ หรือ จุดชมวิวปราสาท ตามความเหมาะสม ณ วันเดินทาง**

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศออสเตรียเมืองเก่าของซาลส์บูร์กเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก เป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน ได้รับขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1996 นำท่านเดินทางสู่ ถนน Getreidegasse (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Grain Lane) ยังมีแหล่งช็อปปิ้ง ที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายพื้นบ้าน, เครื่องประดับอินเทรนด์, ของโบราณ รวมถึงร้านอาหารนั่งดื่มชิล ๆ
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก Leonardo Hotel, Salzburg ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

Day4 เมืองซาลส์บูร์ก – สวนมิราเบล – บ้านเกิดโมสาร์ท – เมืองฮัลล์สตัทท์ – โบสถ์แพริช – โบสถ์ประจำเมืองฮัลล์สตัทท์ – เมืองเช็กกี้ บูดิเยโยวิเซ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)
นำท่านเข้าชม สวนมิราเบล (Mirabell Palace & Gardens) ซาลส์บูร์กมีอาคารและสวนเก่าแก่ไม่มากนัก แต่มีพระราชวังมิราเบลล์อันโดดเด่นและเป็นหนึ่งในอาคารที่ดีที่สุดในออสเตรีย พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสาวรีย์มรดกทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นในปี 1606 นอกจากพระราชวังแล้ว ยังมีสวนที่สวยงามจนน่าอัศจรรย์ สวนนี้ให้ทัศนียภาพอันงดงามของวิหาร นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเกิดโมสาร์ท (House of Walfgang Amadeus Mozart) กวีเอกของโลกชาวออสเตรียปัจจุบันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติของโมสาร์ทและครอบครัว

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน (5)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติก ที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียได้ให้ฉายาเมืองนี้ว่า “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อปี 1997 อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย นำท่านถ่ายภาพกับ โบสถ์แพริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบมีอายุกว่า 500 ปี ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อสร้างขึ้นท่ามกลางซากปรักหักพังของป้อมโรมัน ถ่ายภาพกับ โบสถ์ประจำเมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt Lutheran Church) ที่มียอดแหลมสูงเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมมองของเมือง เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1785 เพื่อใช้เป็นสถานที่ฟังเทศนา พระราชกฤษฎีกาโดยจักรพรรดิโยเซฟที่ 1 ผ่านชม จัตุรัสกลางเมือง (Central Square Marktplatz) ที่โดดเด่นด้วย รูปปั้นโฮลี่ทรินิตี้ (Holy Holy Trinity Statue) เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆของเมือง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเช็กกี้ บูดิเยโยวิเซ (Ceske Budejovice) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ในสาธารณรัฐเป็นเมืองตามกฎหมาย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโบฮีเมียใต้ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการค้าของภูมิภาค รวมทั้งเป็นที่ตั้งของสังฆมณฑลนิกายโรมันคาธอลิกแห่งเชสเก บูเดโจวิซ มหาวิทยาลัยโบฮีเมียใต้ และสถาบันวิทยาศาสตร์ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาของแม่น้ำ Vltava ที่จุดบรรจบกับ Male

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก Clarion Congress Hotel, Ceske Budejovice ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
Day5 เมืองเช็กกี้ บูดิเยโยวิเซ – เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ – ปราสาทครุมลอฟ – กรุงปราก – มหาวิหารเซนต์วิตัส – สะพานชาร์ลส์

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองขนาดเล็กในภูมิภาคโบฮีเมียทางตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐเช็ก มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรม และศิลปะของเขตเมืองเก่า ด้วยทำเลที่ตั้งของตัวเมืองที่มีคู่น้ำล้อมรอบ ทำให้กลายเป็นปราการที่สำคัญในการป้องกันข้าศึก ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางด้านการปกครอง การพิพากษาคดีและการจัดเก็บภาษี ต่อมาในปี ค.ศ. 1963 ได้รับการประกาศว่าเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์และภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของประเทศ ในตอนปลายปี ค.ศ. 1989 ได้มีการบูรณะอาคารและปราสาทครั้งใหญ่โดยยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้อย่างน่าชื่นชม จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความสำคัญและโดดเด่นในการอนุรักษณ์สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งโบฮีเมีย” ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1992 นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ปราสาทครุมลอฟ (Krumlov Castle) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองลงมาจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค (Senete Square) และโบสถ์เก่าแก่กลางเมือง

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (7)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงปราก (Praque) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ก มหานครที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปรากเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยปราสาทเก่าแก่ มีเสน่ห์ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ มหาวิหารเซนต์วิตัส (St.Vitus Cathedral) โดยตัววิหารตั้งอยู่บริเวณปราสาทปราก เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของกรุงปรากเลยก็ว่าได้ เป็นปราสาทอันเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.885 และกินเนสต์บุ๊คยังรับรองว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกด้วย ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ที่ประกอบไปด้วย ปราสาท พระราชวัง สวนขนาดใหญ่ และ มหาวิหารเซน์วิตัส นอกจากความเก่าแก่และความยิ่งใหญ่แล้ว สถาปัตยกรรมของปราสาทปรากยังมีความน่าสนใจ จากนั้นนำท่านเดินทางชม สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานที่ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างฝั่งตะวันออก กับฝั่งตะวันตกของเมืองปราก มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1375 ตัวสะพานมีความยาวถึง 621 เมตร และในสมัยก่อนถูกใช้สำหรับการสัญจรไปมาสำหรับพระราชวงศ์เท่านั้น ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมกันหนาแน่นทุกวัน

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก Holiday Inn Airport, Prague ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day6 กรุงปราก – กรุงเวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – ถนนคาร์ทเนอร์ สตรีท

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวียนนา (Vienna) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยศิลปะ ดนตรีคลาสสิก สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ แหล่งอุดมวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อว่าโรแมนติกที่สุดในโลก พื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงเวียนนาเป็นภูเขา ดังนั้นเวียนนาจึงมีความโดดเด่นในฐานะเมืองแห่งธรรมชาติ ด้วยการผสมผสานทั้งสวนดอกไม้ เทือกเขา ทะเลสาบสีน้ำเงินเข้ม ประกอบกับบ้านเมืองที่สะอาด บรรยากาศดี ก่อสร้างและทาสีดุจดั่งเทพนิยาย ทำให้เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุด จนได้กลายไปเป็นฉากหลังของภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง The sound of music อีกด้วย

นำท่านเข้าชม ความสวยงามของ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์คซึ่งจะมีไกด์ท้องถิ่นนำท่านชมห้องต่างๆและเล่าประวัติการสร้างมาของพระราชวังตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้อง ในระหว่างปี ค.ศ. 1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและโถงพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ในประเทศฝรั่งเศส โดยรอบของพระราชวังเชินบรุนน์ ถูกรายล้อมด้วยสวนที่จัดตกแต่งประดับประดา จากต้นไม้ ดอกไม้ตามฤดูกาล ได้อย่างสวยงามตระการตา ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี 1996 ** รอบของการเข้าชมอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม กรณีไม่สามารถเข้าชมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่าย ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งให้กับท่านได้ทุกกรณี เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับผู้แทนเรียบร้อยแล้วทั้งหมด **

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (9)

นำท่านเยี่ยมชม ถนนคาร์ทเนอร์ สตรีท (Kaerntner Street) เป็นแหล่งถนนคนเดินและชอปปิ้ง สำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่นิยมในการนั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ และซัคเกอร์เค้กที่มีชื่อเสียงของกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นศูนย์กลางของถนนสายช๊อปปิ้งแยกออกไปอีก 8 แฉก แยกออกไปตามซอยเล็กๆแต่เต็มไปด้วยร้านค้าจำนวนมากอาทิเช่น สินค้าแบรนด์เนม Louis Vitton, Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer, Zara , H&M, Pandora ร้านของที่ระลึก คาเฟ่ และร้านอาหารต่างๆ

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก Ibis Wien Messe, Vienna ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

Day7 พระราชวังฮอฟเบิร์ก – โบสถ์เซนต์สตีเฟ่น – ถนนสายวงแหวน – สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย – สนามบินคิงอับดุลอะซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (10)

นำท่านผ่านชม พระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮอฟเบิร์กมาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 13-20 นำท่านผ่านชม โบสถ์เซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของเมืองเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชนนำท่านสู่ ถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) เส้นทางท่องเที่ยวสายหลักของเมืองเวียนนา ซึ่งแวดล้อมไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่งดงาม เช่น โรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในช่วง ค.ศ. 1863-1869

เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินเวียนนา เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
15.30/16.05 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines เที่ยวบินที่ SV150 (บริการอาหารแล เครื่องดื่ม บนเครื่อง)
22.35/22.10 เดินทางถึง สนามบินคิงอับดุลอะซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย

Day8 สนามบินคิงอับดุลอะซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย – สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
01.55/0315 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines เที่ยวบินที่ SV844 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
13.40/15.40 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจ

ทัวร์ยุโรป