messageImage_1705482466968_0

ทัวร์ญี่ปุ่น GO JAPAN SOUTH KYUSHU SAGA KAGOSHIMA 7D 5N (TG)

ราคาเริ่มต้น 77,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg
 ถนนสายสาเกฮิเซ็นฮามาชูกุ (Hizen Hamashuku) ถนนเก่าแก่แห่งคาชิมะ เรียกได้ว่าเป็นอีกไฮไลต์ของเมืองซากะ ย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านสาเกและโรงงานทำสาเกอันโด่งดัง ที่แฝงตัวอยู่ภายในอาคารบ้านเรือนเก่าแก่อายุนับร้อย ๆ ปี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่น่ามาเดินเล่นกินลมชมวิวสุดๆ นอกจากจะได้พบกับร้านขายสาเกขึ้นชื่อของเมืองแล้ว ยังเจอกับร้านขายของน่ารัก ๆ ที่เป็นงาน Handmade เก๋ ๆ ชิค ๆ ที่ไม่เหมือนใครแน่นอน ได้เวลาอันควรเดินทางสู่เมืองน้ำแร่ผิวสวย
วันที่เดินทาง

13 เม.ย. 67 – 19 เม.ย. 67

ทัวร์ญี่ปุ่น 

วันแรก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) (TG 648 00.50 – 08.00)
21.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
วันที่สอง คิวชู (สนามบินฟุกุโอกะ) – ศาลเจ้าดาไซฟุ – เมืองซากะ – ศาลเจ้ายูโทคุ อินาริ – ถนนสาเก ฮิเซ็นฮามาชูกุ – ศาลเจ้าสารพัดนึก โทโยตะมะฮิเมะ – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ
00.50 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 648
(สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
08.00 น. เดินทางถึง สนามบินฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
[สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้] เดินทางสู่ ศาลเจ้าแห่งตำนานปราชญ์ คนสำคัญของญี่ปุ่น ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ คือ ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในดาไซฟุ ซึ่งเคยเป็นที่ทำการของรัฐบาลประจำจังหวัดชิกุเซ็นในศตวรรษที่ 7 เมื่อปี 901 รัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ฟุจิวะระ โนะ โทคิฮะระ (Fujiwara no Tokihara) ได้วางแผนเพื่อทำให้คู่แข่งของ ซุกะวะระ โนะ มิชิซาเนะ (Sugawara no Michizane) ถูกลดขั้นลงจากตำแหน่งในชั้นศาลกลายเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยประจำที่ดาไซฟุ หลังจากนั้นซุกะวะระจบชีวิตลงที่นั่นและถูกฝังอยู่ที่นี่ในฐานะเทพผู้คุ้มครอง นอกจากนี้เขายังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ การอุทิศตนและโชคลาภ ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมันกุ ดึงดูดผู้คนที่มาเยี่ยมชมและขอพรมากกว่า 700,000 คนต่อปี อีกทั้งยังได้รับความนิยมอย่างยิ่งในหมู่นักเรียนที่กำลังเตรียมสอบ ที่ผู้คนพากันมาสักการะบูชาขอพร โดยเฉพาะด้านการเรียนการศึกษา ทั้งสองฝั่งถนนที่เดินเข้าบริเวณศาลเจ้ายังต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก และขนมขึ้นชื่อตามตำนาน อุเมะกาเอะโมจิ รวมทั้งสตาร์บัคส์ที่ตกแต่งได้สวยงามติดอันดับโลกอีกด้วย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)
ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ อีกหนึ่งศาลเจ้าเก่าแก่ของจังหวัดซากะ (Saga) ที่มีอายุหลายร้อยปีถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี ค.ศ. 1688 ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่ยู่ศาสนาพุทธนิกายชินโตเป็นศาลเจ้าประจำตระกูลนาเบะชิมะ (Nabeshima clan) ผู้ปกครองเมืองซากะ ในสมัยเอโดะ และยังเป็นศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับ 3 รองมาจาก ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushi-mi Inari Shrine) ในเกียวโต(Kyoto) และศาลเจ้าคะซะม่าอินาริ (Kasama Inari Shrine) ในอิบาระกิ(Ibaraki)อีกด้วย โดยเป็นที่ประทับของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมักจะนิยมมาสักการะขอพรเพื่อให้ทั้งการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรและธุรกิจต่างให้มีความสำเร็จอย่างไม่ขาดสาย แถมยังเป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆของเมือง ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยามที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง มีจุดที่เมื่อมาแล้วต้องไปเช็กอินก็ตรงส่วนหน้าศาลเจ้าก็ยังมีสะพานสีแดงคู่กับแม่น้ำสายเล็กๆเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามเลยทีเดียว บริเวณด้านหน้าศาลเจ้ายังมีร้านค้าขายของที่ระลึกท้องถิ่นที่น่ารักมากมาย

ถนนสายสาเกฮิเซ็นฮามาชูกุ (Hizen Hamashuku) ถนนเก่าแก่แห่งคาชิมะ เรียกได้ว่าเป็นอีกไฮไลต์ของเมืองซากะ ย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านสาเกและโรงงานทำสาเกอันโด่งดัง ที่แฝงตัวอยู่ภายในอาคารบ้านเรือนเก่าแก่อายุนับร้อย ๆ ปี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่น่ามาเดินเล่นกินลมชมวิวสุดๆ นอกจากจะได้พบกับร้านขายสาเกขึ้นชื่อของเมืองแล้ว ยังเจอกับร้านขายของน่ารัก ๆ ที่เป็นงาน Handmade เก๋ ๆ ชิค ๆ ที่ไม่เหมือนใครแน่นอน ได้เวลาอันควรเดินทางสู่เมืองน้ำแร่ผิวสวย

ศาลเจ้าสารพัดนึก โทโยตะมะฮิเมะหรือที่เรียกว่า “ปลาดุกนามะสึซามะ” (Toyotamahime Shrine) ผู้ให้พรผิวสวยโทโยทามะฮิเมะคือผู้รับใช้เจ้าหญิงโอโตะฮิเมะแห่งวังบาดาล เรื่องเล่ามีอยู่ว่าเมื่อครั้งที่โทโยทามะฮิเมะเดินทางมาเยือนอุเรชิโนะ นางได้พบกับปลาดุกตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ จึงราดน้ำร้อนที่ผุดขึ้นมาใส่แล้วพบว่าผิวของมันสวยขึ้น ภายในศาลเจ้าโทโยทามะฮิเมะจินจะมี “ศาลนามะสึ” ที่เชื่อกันว่าถ้าสัมผัส “ปลาดุกนามะสึซามะ” ซึ่งทำจากดินสีขาวลื่นเป็นมันวาว ผู้นั้นก็จะมีผิวที่ขาวและสวยเฉกเช่นเดียวกัน ทำให้นักท่องเที่ยวหญิงนิยมมาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้เป็นจำนวนมาก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)
ที่พัก KARATSU ROYAL RESORT หรือเทียบเท่า
หลังจากทานอาหารค่ำ ให้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่สาม หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอร์รัล – ทะเลสาบคิริน – บ่อน้ำจิโกกุ เมกุริ (ชม 2 บ่อ) – เบปปุ – นั่งกระเช้าชมวิว เมืองเบปปุ – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
หมู่บ้านยูฟุอิน (YUFUIN FLORAL VILLAGE) เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ในจังหวัดโออิตะห่างจากเมืองบ่อน้ำร้อนเบปปุประมาณ10 กิโลเมตร หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านหัตถกรรม และยังเป็นที่รวบรวมแบบบ้านต่างๆในประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 120-180 ปีมารวมไว้ที่นี่อีกด้วย ที่นี่จึงจัดได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี จากนั้นพบความงามของ ทะเลสาบคิริน (Kirin Lake) น้ำทะเลสาบใสเห็นตัวปลาแหวกว่ายในผืนน้ำ บางช่วงมีหมอกบางๆ ลง นับว่าคุ้มค่ากับการมาเห็นความงามนี้ด้วยตาตัวเองสักครั้งนึงอย่างแน่นอน อิสระให้ท่านเดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองเบปปุ (Beppu) เมืองในจังหวัดโออิตะ ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองท่องเที่ยวแช่น้ำพุร้อนยอดนิยอมของญี่ปุ่น จัดเป็นเมืองที่มีรีสอร์ทน้ำแร่มากที่สุด นักท่องเที่ยวนิยมมาแช่ออนเซนหรืออบทรายร้อนริมทะเลที่เมืองนี้

ชม จิโงคุเมงุริ (JIGOKU MEGURI) ซึ่งประกอบไปด้วยบ่อน้ำแร่สีสันแปลกตาทั้งหมด 8 บ่อ (ไกด์จะพาท่านเยี่ยมชม 2 บ่อ) ที่เกิดจากการรังสรรค์ขึ้นโดยธรรมชาติแต่ละบ่อมีความร้อนสูงเกินกว่า 100 องศาเซลเซียส ด้วยสีสันและความร้อนชนิดที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจลงไปสัมผัสได้ จึงถูกกล่าวขานว่าเป็นเสมือน “บ่อน้ำแร่นรก” ดังนั้น ที่นี่จึงมีตัวมาสคอทเป็นยมทูตน้อยคอยให้การต้อนรับทุกคนที่มาเยือน

นั่งกระเช้าชมวิว เมืองเบปปุ (Beppu Ropeway) เป็นกระเช้าขนาดยักษ์ที่เชื่อมต่อจากเชิงเขาไปถึงยอดของภูเขา Tsurumi ในเมืองเบปปุ มีความสูง 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล นับเป็นกระเช้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู อิสระให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ รอบๆเมืองเบปปุ ได้ถึง 360 องศา โดยความงดงามของที่นี้ จะแตกต่างกันไปทั้ง 4 ฤดู

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)
ที่พัก BEPPU ROYAL RESORT หรือเทียบเท่า
หลังอาหารค่ำ ได้ท่านผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่สี่ สะพานแขวนยูเมะ โออิตะ – สวนดอกไม้คุจู – ช่องแคบทาคาจิโฮะ – เมืองคุมาโมโตะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)
สะพานแขวนยูเมะ โออิตะ (KOKONOE“YUME) เปิดเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2549 มีความยาว 390 เมตร สูง 173 เมตร กว้าง 1.5 เมตร เป็นสะพานแขวนที่มีไว้สำหรับทางเดินที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น หากวันที่สภาพอากาศเป็นใจ ด้านหน้าของสะพานแขวนยูเมะ สามารถมองเห็น น้ำตกชินโดโนะทากิ’ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 100 น้ำตกที่สวยงามใน คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของแต่ละฤดูกาลได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถมองเห็น ภูเขามิมาตะ และภูเขาไวตะ ในระยะไกล ด้วยทิวทัศน์ 360 องศาที่สวยงาม

สวนดอกไม้คุจู (KUJU FLOWER PARK) สวนดอกไม้ที่ตั้งอยู่ใจกลางคิวชูมีเนื้อที่ประมาณ 49 เอเคอร์ปลูกดอกไม้ประมาณ 3 ล้านต้น 500 สายพันธุ์ ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงช่วงใบไม้ร่วงในสวนให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทุ่ง ดอกไม้หลากสี อาทิเช่น ทุ่งดอกทิวลิป ดอกหน้าแมว ดอกเดซี่แฟนซี ดอกเนโมฟิล่า ดอกป๊อปปี้ ที่จะบานกันในช่วง ใบไม้ผลิ คือช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม และ ดอกไฮเดรนเยีย, ดอกลาเวนเดอร์ที่จะผลัดเวียนกันเบ่งบานในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมของทุกปี (เป็นเพียงกำหนดการคราว ๆ จากเว็บไซต์ทางการของสวน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7)
ช่องแคบทาคาจิโฮะ (TAKACHIHO GORGE) ช่องแคบนี้มีลักษณะเป็นรูปตัววีซึ่งเกิดจากการที่แม่น้ำโกคาเสะถูกลาวาที่ปะทุขึ้นมาจากภูเขาไฟอะโสะกัดเซาะจนเกิดเป็นช่องแคบนี้ขึ้นมา ให้ท่านได้ชมความงดงามของทิวทัศน์ และถ่ายรูปคู่กับไฮไลท์ของช่องแคบทาคาจิโฮะ คือ “น้ำตกมานาอิ” ที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปเป็นมุมฮิตเมื่อได้มาเยือน จากนั้นเดินทางสู่ จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto) เป็นจังหวัดในภูมิภาคคิวชู ที่มีน้องหมีดำจอมกวน คุมะมง (Kumamon) เป็นมาสคอตประจำจังหวัดที่โด่งดังไปทั่วโลก ผู้คนนิยมเลี้ยงสัตว์และปลูกผืชพักผลไม้ เป็นจังหวัดที่ส่งออกแตงโมเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 8)
ที่พัก KUKAMOTO CASTLE HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า ปราสาทคุมาโมโตะ – ซากุระโนะบาบะ โจไซเอ็น – เมืองอิบูซุกิ – กิจกรรม อบทรายร้อน – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 9)
ชม ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) ปราสาทคุมาโมโตะเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมปราสาทของญี่ปุ่น จัดเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1601 โดยคาโตะ คิโยมาสะและใช้เวลาในการก่อสร้างเจ็ดปี ปราสาทแห่งนี้ ซึ่งรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “กินนันโจ” (ปราสาทกิงโกะ) เป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่โตและสวยงาม เมื่อปี ค.ศ.2016 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ส่งผลให้ตัวปราสาทได้รับความเสียหายอย่างหนัก ต้องปิดปรับปรุงไปหลายปี จนปัจจุบันได้กลับมาเปิดให้ทุกท่านสามารถเข้าชมความสวยงามและสัมผัสความยิ่งใหญ่ของปราสาท

ย่านช้อปปิ้งซากุระโนะบาบะ โจไซเอน (Sakura-no-baba Josaien) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของตัวปราสาทคุมาโมโตะ เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ที่มีการจำลองบรรยากาศชุมชนรอบปราสาทในช่วงศตวรรษที่ 17 ขึ้นมาใหม่ มีร้านอาหารกว่า 20 ร้าน มีร้านขายผลิตภัณฑ์อาหารดั้งเดิมของคุมาโมโตะด้วย ได้แก่ ซาชิมิเนื้อม้า (บาซาชิ), รากบัวทอดยัดไส้มัสตาร์ด (คาราชิเร็งกง) และดังโงะไส้มันเทศ (อิคินาริดังโงะ) นอกจากนี้ยังมีสินค้าจำกัดตามฤดูกาล เช่น ชาส้มยูซุกับขิง ซึ่งจะมีเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น ส่วนหน้าร้อนเพลิดเพลินกับร้านแผงลอยที่มาเปิดที่นี่ที่มีเอกลักษณ์ สไตล์ย้อนยุคที่ถูกจัดสรรพื้นที่มาเป็นอย่างดี จุดเด่นของที่นี่จะเป็นสินค้าพื้นเมือง ข้าวของเครื่องใช้ ของฝากต่างๆ และพิพิธภัณฑ์ Wakuwaku ที่บอกเล่าความเป็นมาของเมือง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารขายของกินต่างๆ โดยเฉพาะ เมนูท้องถิ่น เช่น ไอศกรีมชาเขียว อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 10)
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองอิบุซูกิ เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองคาโกชิม่า เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการอบทรายร้อน จากนั้นนำท่านสัมผัสประสบการณ์การ อบทรายร้อน (SAND BATH) ที่จะทำให้ท่านได้รู้สึกผ่อนคลายความเมื่อยล้า คุณสมบัติของทรายของที่นี่ จะอุดมด้วยแร่ธาตุที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเรื่องระบบการไหลเวียนของเลือด ระบบสมอง ระบบไขข้อกระดูก และยังบรรเทาโรคกระเพาะได้อีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 11)
ที่พัก IBUSUKI PHONIX HOTEL หรือเทียบเท่า
หลังอาหารค่ำ ได้ท่านผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่หก นั่งเฟอร์รี่สู่เกาะซากุระจิมะ – ภูเขาไฟซากุระจิมะ – เมืองคาโกชิม่า – สถานีคาโกชิม่า – นั่งรถไฟชินคันเซ็นจากเมืองคาโกชิม่าสู่เมืองฟุกุโอกะ – สถานีฮากาตะ – ช้อปปิ้งเทนจิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 12)
นำท่าน นั่งเฟอร์รี่สู่เกาะซากุระจิมะ (SAKURAJIMA) สัญลักษณ์ของจังหวัดคาโกชิม่าและยังเป็นที่ตั้งของ ภูเขาไฟซากุระจิมะ (MT.SAKURA JIMA) ภูเขาไฟที่ยังคงมีการปะทุอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้สามารถเห็นควันปะทุจากปล่องได้ ให้ท่านได้ชื่นชมไปกับควันที่พวยพุ่งออกมาจากปล่องภูเขาไฟ ด้วยคุณลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดที่มีระดับความสูงของ 1,117 เมตรและเส้นรอบวงประมาณ 50 กิโลเมตร จึงทำให้ภูเขาไฟซากุระจิมะ ตั้งเด่นสง่าไม่แพ้ภูเขาไฟฟูจิเลยทีเดียว

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 13)
เดินทางสู่ สถานีคาโกชิม่า (KAGOSHIMA STATION) นำท่าน นั่งรถไฟชินคันเซ็นจากเมืองคาโกชิม่ามุ่งหน้าสู่เมืองฟุกุโอกะ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง 30นาที โดยรถไฟชินคันเซนจะนำท่านสู่จุดหมายปลายทางด้วยความเร็วสูงสุด 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยรถไฟชินคันเซนของญี่ปุ่นมีสถิติการเดินรถคลาดเคลื่อนจากตารางเวลาเพียงปีละ 36 วินาทีเท่านั้น เดินทางถึง สถานีฮากาตะ (HAKATA STATION) เมืองฟุกุโอกะ ถือว่าเป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่ บริเวณรอบ ๆ สถานีเต็มไปด้วยศูนย์การค้าเช่นห้างสรรพสินค้าฮันคิว แหล่งช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ อามิวพลาซ่า ฮากาตะ และแหล่งร้านอาหารที่ตั้งอยู่เรียงรายภายในสถานี

ช้อปปิ้งย่านการค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองฟุกุโอกะ ย่านเทนจิน เพลิดเพลินกับการจับจ่ายซื้อของที่ระลึกอย่างจุใจกับแบรนด์เนมมากมาย และเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่น ๆ อีกมากมาย จากย่านเทนจิน

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก MONTE HERMANA FUKUOKA HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด คิวชู (สนามบินฟุกุโอกะ) – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) (TG 649 11.35 – 14.55)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 14)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินฟุกุโอกะ
ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
11.35 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 649
(สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
14.55 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

ทัวร์ญี่ปุ่น