messageImage_1705482355683_0

ทัวร์ญี่ปุ่น SENDAI FUKUSHIMA ซากุระ สงกรานต์ 7D 4N (JL)

ราคาเริ่มต้น 67,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: logo_001_new

หน้าผาหินโทโนะ เฮทสึริ (Tono Hetsuri) หน้าผาหินที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำโอคาวะ โดยเชื่อกันว่า หน้าผาหินแห่งนี้มีอายุหลายล้านปี และถูกธรรมชาติกัดเซาะในระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้หน้าผาแห่งนี้มีรูปร่าง หน้าตาที่แปลกประหลาดคล้ายๆกับเจดีย์หินขนาดยักษ์ ที่นี่มีสะพานแขวน เรียกว่า สะพานฟูจิมิบาชิ ให้เดินชมวิวแม่น้ำสีเขียวมรกตสวยงาม แถมยังได้ดูร่องหินของหน้าผา และสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในระยะใกล้ๆอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมที่ทุกท่านไม่ควรพลาด

วันที่เดินทาง

15 เม.ย. 67 – 21 เม.ย. 67

ทัวร์ญี่ปุ่น

วันแรก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – โตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) (JL034 22.05 – 06.10)
19.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
22.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ JL 034
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
วันที่สอง โตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) – เมืองนิกโก้ – ศาลเจ้าโทโชคุ – หน้าผาโทโนะเฮทสิริ – หมู่บ้านโออุจิจูคุ – เมืองไอสึวากะมัตสึ – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ
06.10 น. เดินทางถึง สนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
[สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้] เมืองนิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองมรดกโลก ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ โชกุนตระกูลโทคุกาวา (Tokugawa) มีการสร้างวัดและศาลเจ้าสวยงามหลายแห่ง โชกุนก็ได้อาศัยอยู่ในเมือง Nikko หลังจากโชกุนได้เสียชีวิตมีการสร้างสุสานโชกุนที่ Nikko ซึ่งเป็น 1 ในสุสานที่สวยงามของญี่ปุ่น
ศาลเจ้าโทโชคุ (Nikko Toshogo) เป็นศาลเจ้าที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนิกโก้ ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพแห่งแสงสว่าง อีกทั้งยังเป็นที่พำนักอาศัยที่สุดท้ายของ โชกุน Tokugawa Ieyasu ทำให้กลายเป็นวัดเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิโก้ มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งภายในศาลเจ้าแห่งนี้มีการออกแบบและประดับตกแต่งตัวอาคารต่างๆอย่างประณีตงดงาม ส่วนมากจะเน้นไปที่การตกแต่งด้วยไม้สลักเป็นหลัก เนื่องจากบริเวณที่สร้างอยู่บนเขาซึ่งเคยเป็นป่าทึบมองไปทางไหนก็เห็นป่าเขาเต็มไปหมด และหนึ่งในจุดที่เป็นไฮไลท์และมีชื่อเสียงอย่างมากของที่นี่นั่นก็คือ รูปลิงปิดหู ปิดตา ปิดปาก เรียกได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่แม้จะดูเรียบง่ายแต่บรรยากาศดีมาก

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)
หน้าผาหินโทโนะ เฮทสึริ (Tono Hetsuri) หน้าผาหินที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำโอคาวะ โดยเชื่อกันว่า หน้าผาหินแห่งนี้มีอายุหลายล้านปี และถูกธรรมชาติกัดเซาะในระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้หน้าผาแห่งนี้มีรูปร่าง หน้าตาที่แปลกประหลาดคล้ายๆกับเจดีย์หินขนาดยักษ์ ที่นี่มีสะพานแขวน เรียกว่า สะพานฟูจิมิบาชิ ให้เดินชมวิวแม่น้ำสีเขียวมรกตสวยงาม แถมยังได้ดูร่องหินของหน้าผา และสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในระยะใกล้ๆอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมที่ทุกท่านไม่ควรพลาด

หมู่บ้านโออูจิ จูคุ (Ouchi-juku) เป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบมุงหลัง ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2183 เป็นบ้านพักในสมัยเอโดะที่ตั้งอยู่ในถนนสายสำคัญ ที่ใช้เชื่อมระหว่างเมืองไอสุวาคามัสสึ กับเมืองนิคโก้ ซึ่งปัจจุบันดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหารที่มีของท้องถิ่นขึ้นชื่อ “โซบะต้นหอม” ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทาน นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและวัดประจำเมืองโออูจิจูคุ โดยวัดตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก ให้นักท่องเที่ยวจะได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองได้จากบริเวณด้านบนของวัด

เมืองไอสึวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) เป็นเมืองในจังหวัดฟุคุชิมะที่ตั้งอยู่ค่อนไปทางตอนเหนือของญี่ปุ่นในภูมิภาคโทโฮคุ มีประชากรราวๆ 125,000 คน ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของภูเขาบันไดและทะเลสาบอินาวาชิโระ จึงจัดเป็นสถานที่เดินเขาและเล่นสกีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวขาลุยสายธรรมชาติ และในขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่โดดเด่นด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ยุคซามูไรตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นแคว้นไอสึ จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)
ที่พัก HIGASHIYAMA GRAND HOTEL หรือเทียบเท่า
หลังจากทานอาหารค่ำ ให้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่สาม ปราสาทสึรุกะ – กิจกรรมเก็บผลไม้ – หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ – เซนได
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
ชมด้านนอกของ ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือ ปราสาทนกกระเรียน ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1384 มีทั้งหมด 5 ชั้น เต็มไปด้วยมนต์ขลัง และผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มามากมาย ทำให้โดนทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1964 ปัจจุบันปราสาทสึรุกะได้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองไอสุ-วาคามัทสุ รวมทั้งเครื่องเขินและดาบโบราณต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะโปรยปรายปกคลุมตัวปราสาท ยิ่งสวยงามเกินบรรยาย ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สามารถชมซากุระกว่า 1,000 ต้นในสวนของปราสาท ซึ่งถือเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)
เดินทางสู่ สวนสตรอว์เบอร์รี ชมบรรยากาศโรงเรือน การปลูกสตรอว์เบอรีแบบ Organic 100% และยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อยู่ในระบบปิดที่มีการควบคุมสภาพอากาศตลอดเวลา สะอาดมากจนสามารถเก็บทานได้เลยโดยที่ไม่ต้องล้าง ให้ท่านได้สนุกกับกิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รี สด ๆ จากต้นมาทานได้แบบไม่อั้น ยิ่งลูกไหนแดงรสชาติก็จะหวานอร่อยถูกใจแน่นอน (ระยะเวลาการเก็บสตรอว์เบอร์รี จะอยู่ในช่วงต้นเดือนมกราคม จนถึง เดือนเมษายน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

เดินทางสู่ หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแห่งซาโอะ (Zao Fox Village) ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว รวมถึงสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง ในประเทศญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่สำคัญชนิดหนึ่ง ตั้งแต่ระดับชาวบ้านมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกมีวิญญาณของเทพอินาริโอคามิ หรือเทพเจ้าของศาสนาพุทธชินโตอยู่ ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ของการเกษตร(ข้าว, ใบชา) และความเจริญรุ่งเรือง ให้ท่านได้สัมผัสความน่ารักของสุนัขจิ้งจอก และป้อนอาหารสุนัขจิ้งจอก พร้อมเก็บภาพความประทับใจ
เดินทางสู่ เมืองเซนได(Sendai) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) ของภูมิภาคโทโฮกุ เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ และยังเป็นเมืองเกษตรกรรมเป็นแหล่งปลูกข้าวสายพันธุ์ดีในญี่ปุ่น จนมี มุสึบิมารุ (Musubimaru) มาสคอตสุดคิวท์ประจำเมืองที่ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวปั้นอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร(มื้อที่ 5)
ที่พัก METROPOLITAN SENDAI HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ ล่องเรืออ่าวมัตสึชิมะ – วัดไกไดโดะ – ปราสาทเซนได – ช้อปปิ้ง ถนนอิจิบังโจ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)
นำท่าน ล่องเรือชมอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ถือไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่มัตสึชิม่า ท่านจะได้ชมหมู่เกาะน้อยใหญ่บนอ่าวมัตสึชิม่าได้อย่างเด่นชัดกว่า 100 เกาะ จากทั้งหมดที่มีอยู่มากกว่า 260 เกาะ เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของเกาะต่างๆมากมาย อย่างเช่น เกาะที่มีรูปทรงแปลกตามองเห็นราวกับเป็นนักรบผู้เฝ้าประตูวัด เกาะที่มีโพรงลักษณะคล้ายรูประฆัง เป็นต้น ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตา จนติดอันดับ 1 ใน 3 ที่สุด จุดชมวิวประเทศญี่ปุ่น หรือ Nihon Sankei ที่จะประกอบไปด้วย 1. อามาโนะ ฮาชิดาเตะ สันทรายสู่สวรรค์ที่เมืองเกียวโต 2.เสาโทราอิกลางน้ำที่เกาะมิยาจิม่า จังหวัดฮิโรชิม่า และ 3. อ่าวมัตซึชิมะ

วัดโกไดโดะ (Godaido Temple) เป็นวัดขนาดเล็ก ติดกับท่าเรือมัตสึชิมะ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมัตสึชิมะ สร้างขึ้นในปี 807 เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 5 องค์ ซึ่งก่อตั้งโดยพระสงฆ์ที่ก่อตั้งวัดซูอิกันจิ (Zuiganji Temple) โดยรูปปั้นจะถูกนำมาให้ประชาชนได้ชมกันทุกๆ 33 ปี (ครั้งสุดท้ายที่นำออกมาจัดแสดงคือปี 2006)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7)
นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทเซนได (Sendai Castle) จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่นกัน หรือ ปราสาทอาโอบะ ซึ่งแปลว่า ปราสาทใบไม้สีเขียว สร้างขึ้นบนยอดเขาอาโอบะ โดยท่านไดเมียวดาเตะ ซามามุเนะ เจ้าผู้ครองเมืองเซนไดคนแรก เมื่อปี ค.ศ.1601 แต่ในช่วง 400 ปีหลัง ยุคศักดินาถูกต่อต้านในช่วงสมัยเมจิ เกิดไฟไหม้ปราสาทในปี ค.ศ 1882 และโดนระเบิดในปี ค.ศ 1945 จึงทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงซากกำแพงหินด้านนอกและหอรักษาความปลอดภัยให้เราได้ชมกัน ยิ่งถ้ามาในฤดูใบไม้ผลิ บริเวณรอบๆปราสาทจะเต็มไปด้วยต้นซากุระ (โดยปกติซากุระจะบานประมาณปลายงมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

นำท่านช้อปปิ้ง ย่านอิจิบันโจ (ICHIBANCHO) เป็นแหล่งช้อปปิ้งในใจกลางเมืองเซนได ที่ประกอบด้วยถนนช้อปปิ้งหลายสาย จึงได้ชื่อว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ตลอดสองข้างทางของถนนนั้นเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย เช่น ของแบรนด์เนมต่างๆ ร้านขายสินค้าแฟชั่นพวกเสื้อผ้า รองเท้าเครื่อง ประดับ ร้านขายยา ร้านขายสินค้า 100 เยน ตลอดจนร้านอาหาร ในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาอย่างยิ่งช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะมีการจัดแสดงไฟไว้ตลอดเส้นทาง รวมทั้งมีการตั้งต้นคริสต์มาสและประดับไฟเอาไว้ตามจุดต่างๆ พร้อมด้วยเสียงเพลงที่เข้ากับบรรยากาศ

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก METROPOLITAN SENDAI HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า นั่งรถไฟ JR TOHOKU SHINKANSEN LINE – โตเกียว – ช้อปปิ้งชิบูย่า – ชินจูกุ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)
เดินทางสู่สถานีเซนได นำท่าน นั่งรถไฟชินคันเซ็น จากเมืองเซนไดมุ่งหน้าสู่เมืองโตเกียว โดยรถไฟชินคันเซนที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ซึ่งนำท่านสู่จุดหมายปลายทางด้วยความเร็วสูงสุด 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยรถไฟชินคันเซนมีสถิติการเดินรถคลาดเคลื่อนจากตารางเวลาเพียงปีละ 36 วินาทีเท่านั้น

ชิบูย่า (Shibuya) เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารที่ทันสมัย สถานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม คลับ และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีสถานที่ต่าง ๆ ที่คนต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี อาทิรูปปั้นฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่กลายเป็นจุดนัดพบและสถานที่ที่หากใครมาเยือนชิบูย่าต้องแวะมาถ่ายรูป ห้าแยกชิบูย่าที่มีคนเดินสวนกันไปมาจนตาลายบริเวณ ชิบูย่าเซ็นเตอร์ไก (Shibuya Center-gai) ถนนช้อปปิ้งแหล่งรวมตัวของวัยรุ่น

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ย่านชินจูกุ (Shinjuku) แหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น ในแต่ละวันมีผู้คนจำนวนมากถึง 2.5 ล้านคนที่ใช้บริการสถานีแห่งนี้ ทางด้านตะวันตกย่านนี้ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าหลายอาคาร มีทั้งโรงแรมชั้นนำ และในส่วนทางด้านตะวันออกนั้นคือ คาบูกิโจ (Kabuki-jo) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Bic Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่มีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย เช่นร้านอิซากายะ (Izakaya)

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก THE B IKEBUKURO HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่หก วัดอาซากุสะ – ถนนนากามิเสะ – ถ่ายรูปวิวโตเกียวสกายทรี ริมแม่น้ำสุมิดะ – อิออน มอลล์ มาคุฮาริ – ไดเวอร์ซิตี้ โอไดบะ – สนามบินฮาเนดะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 9)
เดินทางเข้าสู่ วัดอาซากุสะ หรือ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) วัดที่ว่ากันว่า เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว ซึ่งเคยเป็นวัดที่เหล่าโชกุนและซามูไรให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมากในอดีต นำท่านนมัสการ องค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่ประดิษฐานในวิหารหลังใหญ่ (อยู่หลังฉากม่านกั้น) และ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ “คามินาริมง (ประตูฟ้าคำรณ)” ซึ่งมีโคมไฟสีแดงที่ได้ชื่อว่าเป็น “โคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก” มีความสูงใหญ่ถึง 4.5 เมตร อีกทั้งยังมี “ถนนนากามิเสะ”ถนนร้านค้าแหล่งรวมสินค้าของที่ระลึกต่างๆ มากมาย อาทิ พวงกุญแจ ตุ๊กตาแมวกวัก ดาบซามูไร ชุดกิโมโน ร่มญี่ปุ่น หรือ ขนมอาเกมันจู ขนมขึ้นชื่อของวัดอาซากุสะ

พาท่านเดินสู่ ริมแม่น้ำสุมิดะ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจหอคอยที่สูงที่สุดในโลก หอคอยโตเกียวสกาย ทรี (Tokyo Sky tree) ที่เปิดเมื่อ 22 พฤษภาคม 2555 มีความสูง 634 เมตร และสามารถทำลายสถิติความสูงของหอกวางตุ้ง ในมณฑลกว่างโจว ซึ่งมีความสูง 600 เมตร กับ CN Tower ในนครโตรอนโตของแคนาดา ที่มีความสูง 553 เมตร

ช้อปปิ้งที่ ห้างอิออนมอลล์ มาคุฮาริ (AEON Shopping Mall) ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ากว่า 150 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น Muji , Sanrio Store , ร้าน100เยน (100 Yen Shop) ,ร้านขายยาและเครื่องสำอางค์ Matsumoto Kiyoshi , เกมส์เซ็นเตอร์ , ร้านหนังสือ , ร้านรองเท้า ฯลฯ และยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในส่วนของ Jusco ที่รวมของสด ของแห้ง อีกมากมาย

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
โอไดบะ (Odaiba) เป็นเกาะรวมศูนย์กลางควมบันเทิง ย่านเมืองใหม่ที่เกิดจากการถมทะเลขึ้นมาเป็นเกาะ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1850 เกาะนี้เป็นที่แสดง ให้เห็นถึง วิสัยทัศน์ และศักยภาพของชาวญี่ปุ่นที่สามารถสร้าง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ขึ้นมาให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายชนิดที่ ห้างไดเวอร์ซิตี้ ซึ่งภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงมากมาย และให้ท่านถ่ายรูปกับกันดั้มตัวใหม่ RX-0 Unicorn ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่ สนามบินฮาเนดะ
นำทุกท่านทำการ CHECK IN และโหลดสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
วันที่เจ็ด โตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรรภูมิ) (JL033 00.45-05.00)
00.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที JL033
(มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
05.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

ทัวร์ญี่ปุ่น