messageImage_1691756003110_0

ทัวร์ยุโรป SONGKRAN RomanticRoute Czech Germany Austria-8D5N (OS)

ราคาเริ่มต้น 95,999 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Austrian

ท่องเที่ยวไปในเส้นทางสุดโรแมนติคของ 3 ประเทศ เชค เยอรมนี ออสเตรีย
เชค เที่ยวกรุงปราก เมืองหลวงสุดคลาสสิค
เยอรมนี ชมสิ่งก่อสร้างสุดมหัศจรรย์สะพานหินบาสไต เมืองทีสวยที่สุดของเยอรมนี เดรสเดน
เที่ยว Top 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมนี เออเฟิร์ท แบมเบิร์ก โรเทนเบิร์ก วูร์ซบวร์ก
นูเรมเบิร์ก รีเก้นบวร์ก
ออสเตรีย แวะเที่ยวลินซ์ อลังการวิหารเมลค์ริมหน้าผา ปิดท้ายทริปที่กรุงเวียนนา
พิเศษ บินตรงโดยสายการบิน Austrian Airlines

วันที่เดินทาง

10 เม.ย. 67 – 17 เม.ย. 67

ทัวร์ยุโรป 

วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ
20.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (Austrian Airlines) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกและเอกสารแก่ท่าน
23.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงปราก ประเทศเชค โดยเที่ยวบินที่ OS026

วันที่สอง สนามบินเวียนนา – สนามบินปราก – กรุงปราก (-/L/D)
05.35 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงเวียนนา แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
09.45 น. ออกเดินทางอีกครั้ง โดยเที่ยวบินที่ OS705
10.35 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงปราก ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง (เวลาที่ยุโรปช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง ) (กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา)
12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เมนูเป็ดโบฮีเมียน)
บ่าย นำท่านเทียวชม กรุงปราก (Prague) นำท่านชม บริเวณปราสาทปราก (Prague Castle) ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเชค รับสั่งให้ให้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 885 โดยเจ้าชายบริโวจ (Borivoj) โดยในปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดี นำท่านชม วิหารเซนต์ ไวตุส (St. Vitus Cathedral) วิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ศิลปะแบบโกธิคซึ่งมีการก่อสร้างเป็นระยะเป็นเวลาหลายร้อยปีจนมาเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1929 ชมหน้าต่างกระจกสีสดสวยที่เป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา นำท่านเที่ยวชม สะพานชาร์ล (Charles Bridge) สิ่งก่อสร้างในสมัยพระเจ้าชาร์ล ที่ 4 กษัตริย์ ผู้ซึ่งเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวเชค เป็นสะพานเก่าแก่ที่มีความสวยงามที่สุดในโลกสร้างขึ้นจากปูนและไข่ไก่กว่าล้านฟอง เป็นสะพานปูนแห่งแรกของเมือง สองข้างสะพานประดับด้วยรูปปั้นนักบุญที่เคารพนับถือของชาวเชค 30 องค์ รวมถึงรูปปั้นพระคริสต์ของชาวยิว สัมผัสกับรูปหล่อบรอนซ์ นักบุญจอห์น เนโปมุก (John Nepomuk) ซึ่งเป็นที่นับถือกันมากในหมู่ประชาชนชาวกรุงปราก เชื่อกันว่าหากใครได้สัมผัสแล้วจะมีโชคทั้งการงานและความรัก หรือท่านจะได้กลับมาที่ปรากอีกครั้งในไม่ช้า จากนั้นนำท่านเที่ยวชม จัตตุรัสเวนเทสลาสสแควร์ ที่อยู่หน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติตกแต่งแบบบาร็อค และบริเวณด้านหน้ายังเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อของกษัตริย์เวนเทสลาส ผู้เป็นผู้นำและองค์อุปถัมภ์ศาสนาคริสต์นำสู่ภูมิภาคนี้ รูปปั้นนี้ถือว่าเป็นรูปปั้นบรอนซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักกว่า 17 ตัน
นำท่านเดินเที่ยวชมย่าน จัตุรัสสตาโรเมสเค่ (Staromeske Square) จัตุรัสที่ตั้งอยู่ย่านเมืองเก่า ท่านจะได้เห็น นาฬิกาดาราศาสตร์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อดั้งเดิมในสมัยนั้นที่เชื่อว่าโลกนั้นเป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่งศูนย์กลางของจักรวาล ฉะนั้นนาฬิกานี้จึงแสดงการโคจรของพระอาทิตย์อยู่รอบโลก ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อครบรอบของทุกชั่วโมงรูปปั้นโครงกระดูกจะกระตุกระฆังเป็นสัญญานบอกเวลา ประตูหอนาฬิกาจะเปิดออกพร้อมแสดงเหล่าสานุศิษย์ของพระคริสต์ 12 คนเดินออกมาเยี่ยมที่หน้าต่าง
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก Holiday Inn Prague Airport หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่สาม กรุงปราก – สะพานหินบาสไต – เดรสเดน (B/L/D)
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่เมืองราเท่น (Rathen) ระยะทาง 140 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขาหินทรายเอลเบ้ (Elbe Sandstone Mountains) เมืองราเท่น เป็นเมืองที่ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 13 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอลเบ้ (Elbe River) ปัจจุบันเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนีนำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติแซกซอนสวิตเซอร์แลนด์ (Saxon Switzerland National Park) อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยว

นำท่านชมสะพานบาสไต (Bastei Bridge) สะพานหินสูงกว่า 194 เมตร เหนือแม่น้ำเอลเบ้ (Elbe River) ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ ในปีค.ศ. 1824 แต่ในปีค.ศ. 1851 ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยหินทรายดังเช่นที่เห็นในปัจจุบัน ท่านจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบและภูเขาหินน้อยใหญ่ที่ดูแปลกตา ทำให้สะพานบาสไตเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมกว่า 200 ปี ของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ ท่านสามารถชม ยอดเขาบาสไต (Bastei Rock) ยอดเขาสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอลเบ้ ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล ประมาณ 305 เมตร ท่านจะตื่นตาไปกับทัศนียภาพอันงดงามของยอดเขาหินขรุขระ อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย ออกเดินทางสู่เมืองเดรสเดน (Dresden) ระยะทาง 40 กม. ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เมืองหลวงแห่งแคว้นแซกโซนี่ เป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองและร่ำรวยมากที่สุดแห่งหนึ่ง รวมทั้งศิลปะวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และ ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์จนได้รับฉายาว่านครฟลอเร้นซ์แห่งลุ่มแม่น้ำเอลเบ้ นำท่านชมความงามภายในสวนของพระราชวังสวิงเกอร์ อาคารรูปทรงศิลปะแบบบาร็อคที่ งดงามและรอดพ้นจาการทำลายของฝ่ายสัมพันธมิตร ผ่านชมโรงละครโอเปร่า (Samper’s Opera House) ที่เก่าแก่และสวยงาม นำท่านชมกำแพงกระเบื้องเคลือบไมเซ่น (Procession Of Dukes) ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบไมเซ่น ถึง 25,000 แผ่น ความยาว 102 เมตร ที่รอดพ้นจากการถูก โจมตีทางอากาศเมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่สองได้อย่างเหลือเชื่อ จากนั้นนำท่านชมโบสถ์แห่งเดรสเดน (Dresden Frauenkirche) ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่เกือบ 100% ตั้งแต่ปี 1994 และเพิ่งเสร็จสมบูรณ์ลงเมื่อปี 2006 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 800 ปีของเมืองเดรสเดน เป็นผลงานระดับ Masterpiece ในสไตล์บารอค ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเดรสเดน เดิมถูกสร้างในปี ค.ศ.1726 -1743 แต่ได้ถูกทำลายลงในสมัยสงครามโลก ในปีค.ศ.1945 โดยได้มีการสร้างขึ้นใหม่ มีการจัดคอนเสิร์ตรวบรวมเงินจากทั่วโลก ระหว่างปี 1996-2005
จากนั้นมีเวลาให้ท่านเดินเล่นบนลาน (Balcony of Europe) เพื่อถ่ายภาพตัวเมืองเดรสเดน จากมุมที่สวยที่สุดริมฝั่งแม่น้ำเอลเบ้
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก Holiday Inn Dresden หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่สี่ เดรสเดน – เออเฟิร์ท – แบมเบิร์ก วูร์ซบวร์ก (B/L/D)
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่เมืองเออเฟิร์ท (Erfurt) ระยะทาง 216 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองที่เซนต์โบนิเฟส ได้พยายามเปลี่ยนแปลงชาวเยอรมันให้หันมาเป็นชาวคริสเตียนและได้ก่อตั้งเขตปกครองโดยบาทหลวงที่เป็นอิสระขึ้นในปี ค.ศ. 742 ถึงแม้ไม่นานก็ถูกรวมเข้ากับแคว้นไมนซ์ในยุคกลาง เมืองเออเฟิร์ทนั้นร่ำรวยจากการส่งต้นโวดขายซึ่งเป็นวัตถุดิบสําหรับย้อมผ้าเป็นสีน้ำเงินเข้ม อีกทั้งตลาดสวนไม้ประดับได้พัฒนาขึ้นมาจนก่อให้เกิดการจัดนิทรรศการสวนดอกไม้เป็นการถาวร นําท่านชมมหาวิหารเออเฟิร์ท (Erfurt Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 742 ต่อมาได้มีการสร้างวิหารแบบโรมันเนสก์ในค.ศ. 1154 อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของกลอริโอซา (Gloriosa) หรือที่รู้จักกันในนามของระฆังแห่งเออเฟิร์ธ (Erfurt Bell) หนึ่งในระฆังโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และวอล์ฟราม (Wolfram) เชิงเทียนที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวชมเมืองตามอัธยาศัย
12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองแบมเบิร์ก (Bamberg) ระยะทาง 170 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) ต่อมาได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปีค.ศ. 1993 เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมนี ถือว่าเป็นศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ที่มีความโดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมและมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย นำท่านถ่ายรูปกับ อดีตศาลากลางเก่า (Altes Rathaus) ซึ่งตั้งอยู่ในกลางของสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามแม่น้ำเร็กนิทซ์ (Regnitz River) โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 ปัจจุบันศาลาว่าการเมืองเก่านั้น ได้แปรสภาพเปลี่ยนไปเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องกระเบื้อง ที่มีชื่อว่า Sammlung Ludwig Collection Bamberg นำท่านชมมหาวิหารแบมเบิร์ก หรือชื่อเป็นทางการว่า มหาวิหารแบมเบิร์กเซนต์ปีเตอร์และเซนต์จอร์จ (Bamberger Dom St. Peter und St. Georg) มีความสำคัญเป็นที่ตั้งของสังฆมณฑลของอัครบาทหลวงแห่งแบมเบิร์ก โดยมหาวิหารถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ.1004 โดยจักรพรรดิเฮนรีที่ 2 (Henry II) ซึ่งแล้วเสร็จในปี 1012 ทั้งยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง
โดยภายในประกอบไปด้วยหอทั้งสองด้านของตัวตึกจำนวน 4 หอ นอกจากนั้นข้างๆ ตัววิหารยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์พิพิธภัณฑ์จัดแสดงของมีค่าทางศาสนาด้วย จากนั้นเชิญท่านอิสระเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่เมืองวูซ์บวร์ก (Wurzburg) ระยะทาง 85 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นำท่านชมสถาปัตยกรรมในเมืองวูซ์บวร์ก ที่ล้วนเป็นสไตล์บาร็อค จนได้รับสมญาว่าเป็น Baroque City ภูมิประเทศของเมืองเป็นเนินเขาและไร่ไวน์ ตัวเมืองตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเมน (Main) นอกจากนั้นยังถือเป็นเมืองแห่งบิชอบ (Bishop) เพระในอดีตนั้นได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝ่ายศาสนามาโดยตลอด ตัวเมืองดั้งเดิมถูกค้นพบโดยคณะมิชันนารีชาวไอริชตั้งแต่ปี ค.ศ. 868 เคยตกเป็นเมืองขึ้นของสวีเดนในปี ค.ศ. 1631 และต่อมาในปี ค.ศ. 1814 ก็ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ประเทศเยอรมนี นำท่านชมจัตุรัสกลางเมือง (Marktplatz) โบสถ์มารีนกาเปลลาหรือเซนต์แมรีชาเปล (Marienkapelle หรือ St. Mary’s Chapel) นำท่านเดินข้ามสะพานอัลเตอะ เมนบรึก (Alte Mainbrücke) สไตล์บาร็อค ซึ่งจุดเด่นของสะพานนี้คือมีรูปปั้นนักบุญเรียงรายสองข้างทางแบบเดียวกับสะพานชาร์ลที่กรุงปราก จนได้รับสมญานามว่า กรุงปรากแห่งเยอรมนี

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก Maritim Hotel Wurzburg หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ห้า วูร์ซบวร์ก – โรเธนเบิร์ก – นูเรมเบิร์ก – รีเก้นเบิร์ก (B/L/D)
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่เมืองโรเธนเบิร์ก (Rothenburg ob der Tauber) ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมือง เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมนี แนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้าขายไวน์โคกระบือ และขนสัตว์ ที่มีมาตั้งแต่ค.ศ.1274 นำท่านชมศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในศิลปะแบบกอธิค จากนั้นไปนำท่านเดินชมเมืองที่ประกอบไปด้วยถนนสายแคบๆ ที่สร้างขึ้นแบบสลับซับซ้อน สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนแบบกอธิคและเรอเนสซองส์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ยุคกลางของเมืองได้เป็นอย่างดี นำท่านแวะถ่ายรูปกับคริสตจักรเซนต์ยาโคบ (Church of St. Jacob) คริสตจักรที่ใหญ่ที่สุดของเมือง นำท่านชมความงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสันที่ จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็กๆ แต่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก บริเวณรอบๆ จัตุรัสประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายของจัตุรัส ส่วนด้านขวาเป็นประตู Kobolzeller อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินชมกำแพงเมืองเก่าที่สร้างขึ้นเพื่อล้อมรอบเมืองเอาไว้
12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยปราสาท วัง โบสถ์ ตั้งอยู่ในรัฐบาวาเรีย อันมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี โดยเป็นเมืองของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งอดีตเป็นศูนย์ประชุมหลักของพรรคนาซี นำท่านเดินเล่นชมเมืองโบราณที่มีอายุกว่า 900 ปี ซึ่งถูกทิ้งระเบิดอย่างหนักในปีค.ศ. 1945 จากสัมพันธมิตร แต่ปัจจุบันได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่ให้งดงามดังเดิม ผ่านชมเม้าท์ฮาล์ โรงเก็บส่วยภาษีอากรในอดีต ที่ถือเป็นอาคารประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของเมือง ชมบ้านนัสเซา หนึ่งในตัวอย่างบ้านขุนนางชั้นสูงสมัยยุคกลาง ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีที่สุดหลังหนึ่ง จากนั้น นำท่านชมบริเวณจัตุรัสกลางใจเมืองซึ่งมีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง (Hauptmarkt)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองรีเก้นเบิร์ก (Regensburg) ระยะทาง 114 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง เป็นหนึ่งในเมืองเก่าในยุคกลางที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นโดยชาวโรมัน ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 2006 ยังเป็นเมืองที่รอดพ้นมาจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านและเมืองที่สวยที่สุดในเยอรมนีนำท่านชมโบสถ์รีเก้นเบิร์ก (Regensburg Cathedral) หรือ (Dom St. Peter) เป็นโบสถ์ประจำเมือง หนึ่งในสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่มีความประณีตงดงามที่สุดของเยอรมนีตอนใต้ และ สะพานหินสัญลักษณ์อีกอย่างนึงของเมืองรีเก้นเบิร์ก

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก Best Western Premier Novina Regensburg หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่หก รีเก้นเบิร์ก – ลินซ์ – วิหารเมลค์ – กรุงเวียนนา (B/L/D)
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่เมืองลินซ์ (Linz) ระยะทาง 198 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง เมืองหลวงของแคว้น Upper Austria และเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของประเทศ เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของออสเตรียริมแม่น้ำดานูบ และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองแห่งฮิตเลอร์หรือในอดีตเคยเป็นค่ายนาซีในสมัยการปกครองของเยอรมัน นำท่านชมจัตุรัสกลางเมืองลินซ์ฮอบท์พลาซ (Hauptplatz) เป็นจัตุรัสที่คึกคักที่สุดในเมืองลินซ์ มีห้างร้านขายสินค้าต่างๆ ทั้งสินค้าทั่วไป สินค้ำพื้นเมืองจนกระทั่ง สินค้าแบรนดเนมมากมาย บริเวณกลางจัตุรัสมีเสาหินสีขาว สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการรำลึกการต่อสู้กัยโรคระบาดในปี ค.ศ. 1679 ชมมหาวิหารเก่าแห่งเมืองลินซ์ (Old Cathedral, Linz) เป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองลินซ์ ประเทศออสเตรีย สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1669 ถึง 1683 โดยใช้สถาปัตยกรรมสไตล์บาโร๊ก อิสระใหท่านเดินชมบรรยากาศบริเวณจัตุรัสที่รายร้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือนสไตล์บาโร๊กที่สวยงาม

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเมลค์ (Melk) ระยะทาง 100 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นำท่านเดินทางลัดเลาะไปตามแม่น้ำดานูบ เส้นที่เมื่อสมัยโบราณ ทหารโรมันได้มาตั้งฐานทัพ ซึ่งยังคงมองเห็นป้อมปราการเก่าแก่ตามเนินเขาต่างๆ เพื่อป้องกันผู้รุกรานด้านทิศตะวันออก จนเป็นที่มาของประเทศออสเตรียในปัจจุบัน ชมวิหารสตี้ฟเมลค์ (Stift Melk) อันสง่างาม ซึ่งตั้งอยู่บนชะง่อนผาริมแม่น้ำดานูบและเป็นที่พำนักของพระคริสต์นิกายเบนิติคมากกว่า 900 ปี เมืองเมลค์มีความสำคัญมากสำหรับการสร้างชาติออสเตรียในสมัยตระกูลบาเบนเบิร์กด้วยทำเลที่เป็นเสมือนชะง่อนผา ปัจจุบันเป็นสำนักสงฆ์ที่มีความสำคัญยิ่งในการอบรมบาทหลวง นำท่านเข้าชมความงดงามภายในวิหาร จากนั้นนำท่านลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ทางการยกย่องว่าเป็นเส้นทางสายโรแมนติก
สู่กรุงเวียนนา (Vienna) ระยะทาง 85 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีบ้านเรือนชาวบ้านปลูกตามไหล่เขาท่ามกลางสวน ทัศนีย์ภาพของเมืองที่อยู่ริมแม่น้ำดานูบ สลับกับเนินเขาต่างๆนับเป็นสถานที่ตรึงตาแก่ผู้พบเห็น ผ่านชมเขตเมืองเก่าภายใน ถนนวงแหวน (The Ring) ที่ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าฟรานซ์ โจเซฟ ในปี ค.ศ. 1860 ผ่านชมโรงละครแห่งชาติ (Opera House) มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น โบสถ์คาปูซินส์ ย่านธุรกิจการค้า สภาผู้แทน ศูนย์ราชการและมหาวิทยาลัย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก Simm’s Hotel Vienna หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่เจ็ด พระราชวังเชินบรุน – ช้อปปิ้งคาร์ทเนอร์ – สนามบินกรุงเวียนนา (B/L/-)
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าชมพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) พระราชวังฤดูร้อนที่ใหญ่โตโอฬาร เข้าชมภายในพระราชวังที่เปิดห้องต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้ชม ชมห้องต่างๆของพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะห้องส่วนตัวของพระราชินีอลิซาเบธ ผู้ซึ่งมีสิริโฉมอันสวยงามเป็นที่เล่าลือ มีเส้นพระเกศาสีบรอนซ์ทองยาวเกือบถึงข้อพระบาท ชมห้องกระจกที่ตกแต่งเลียนแบบแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส มีการประดับประดาด้วยศิลปะแบบร็อคโคโค่ ห้องที่ตกแต่งด้วยภาพวาดบนกระดาษจากเมืองจีน ห้องที่ตกแต่งด้วยเครื่องเขินที่มีขั้นตอนการผลิตที่ต้องทำบนเรือเพื่อป้องกันฝุ่น ห้องที่ตกแต่งด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบเขียนภาพตกแต่งโดยบรรดาพระโอรส พระธิดาของพระราชินีมาเรียเทเรซ่า ห้องที่ตกแต่งด้วยภาพวาดจากอาหรับ ห้องพรมถักมือ และห้องอื่นๆอีกมากมายที่ตกแต่งด้วยภาพวาด โดยมีภาพหนึ่งที่จิตรกรได้วาดให้ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดในห้องสายตาของรูปและเท้าด้านซ้ายจะจับจ้องและชี้มาที่ตัวท่าน มีเวลาเดินเล่นสวนสวยสไตล์ฝรั่งเศสบริเวณพระราชวัง
12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เมนูซี่โครงหมูเวียนนา)
บ่าย จากนั้นนำท่านไปเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และสินค้าที่ระลึกที่ ถนนคาร์ทเนอร์ (Kartner Street) ซึ่งเป็น Walking Street กลางกรุงเวียนนา มีร้านค้านำสมัยตั้งเรียงรายตลอดทาง หรือจะลองชิม Sacher Cake เค้กช็อคโกแลต สูตรเฉพาะของกรุงเวียนนาที่สืบทอดกันมานับร้อยปีกับกาแฟสุดแสนอร่อย
ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินกรุงเวียนนา
23.25 น. บินตรงสู่ ประเทศไทย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS025

วันที่แปด สนามบินสุวรรณภูมิ
14.40 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป