17008894021

ทัวร์ญี่ปุ่น GO JAPAN GRAND HONSHU SAKURA 7D 5N (TG)

ราคาเริ่มต้น 67,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg
 น้ำตกเคง่อน (Kegon Falls) น้ำตกที่ใหญ่และยาวที่สุดของประเทศญี่ปุ่น แถมยังติดอันดับ 1 ใน 3 ของน้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โดยน้ำจากทะเลสาบซูเซนจิ จะไหลมาบรรจบหน้าผาสูง 97 เมตรเกิดเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ซึ่งมีสีสันแตกต่างกันตามแต่ละฤดูกาล แม้แต่ฤดูหนาวก็มีความงามน่าชม “จุดชมวิว” โดยการ “ลงลิฟท์” ไปชั้นล่างที่ท่านสามารถดื่มด่ำกับภาพของน้ำตกแห่งนี้ได้งดงามมาก พร้อมสัมผัสกับสายน้ำที่เย็นชื่นฉ่ำใจ
วันที่เดินทาง

13 มี.ค. 67 – 19 มี.ค. 67, 18 มี.ค. 67 – 24 มี.ค. 67

ทัวร์ญี่ปุ่น

วันแรก
กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – โตเกียว (สนามบินนาริตะ) (TG642 23.55 – 07.40)
21.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
23.55 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 642
(สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
วันที่สอง โตเกียว (สนามบินนาริตะ) – เมืองนิกโก้ – ศาลเจ้านิกโก้ โทโชกุ – น้ำตกเคง่อน – ทะเลสาบชูเซนจิ – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ
07.40 น. เดินทางถึง สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
[สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้] นำท่านเดินทางสู่ นิกโก้ (Nikko) เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี เป็นที่ตั้งของสุสานของโชกุนโทะกุงะวะ อิเอะยะซุ กับโทะกุงะวะ อิเอะมิสึ โดดเด่นทั้งด้านทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม
ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ศาลเจ้าที่สร้างเพื่อเป็นสถานที่ฝังศพโชกุนโทกุงาว่า ที่เก่าแก่นับ 4 ศตวรรษ ตั้งแต่สมัยโชกุนโตกุกาว่า อิเยยะสึ อาคารแต่ละหลังจะสร้างจากไม้ลงลายสีทอง มีสถาปัตยกรรมไม้แกะสลักที่วิจิตรตระการตาทั้งสวยงามในแง่ของศิลปะและที่แฝงแง่มุมทางปรัชญา ทางเข้าจะเป็นซุ้มประตูโยเมมง (Yomeimon) เป็นซุ้มประตูที่สวยงาม มีขนาดใหญ่ ด้านในเป็นอาคารไม้ มีรูปลิงแกะสลัก 3 ตัว อยู่ในท่า ปิดหู ปิดปาก ปิดตา หมายถึง การไม่ดู ไม่ฟัง ไม่พูดในสิ่งไม่ดี และบริเวณซุ้มประตูก่อนขึ้นบันไดไปสุสานฯ มีรูปแกะสลักไม้ที่มีชื่อเสียง เป็นรูปแมวหลับ เป็นผลงานของ Hidari Jingoro ที่สำคัญศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)
น้ำตกเคง่อน (Kegon Falls) น้ำตกที่ใหญ่และยาวที่สุดของประเทศญี่ปุ่น แถมยังติดอันดับ 1 ใน 3 ของน้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โดยน้ำจากทะเลสาบซูเซนจิ จะไหลมาบรรจบหน้าผาสูง 97 เมตรเกิดเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ซึ่งมีสีสันแตกต่างกันตามแต่ละฤดูกาล แม้แต่ฤดูหนาวก็มีความงามน่าชม “จุดชมวิว” โดยการ “ลงลิฟท์” ไปชั้นล่างที่ท่านสามารถดื่มด่ำกับภาพของน้ำตกแห่งนี้ได้งดงามมาก พร้อมสัมผัสกับสายน้ำที่เย็นชื่นฉ่ำใจ

ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) เป็นทะเลสาบตั้งอยู่บริเวณปลายเขาของภูเขาไฟนันไต ตัวทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้ว โอบล้อมด้วยทัศนียภาพทิวเขา อันเป็นที่ซึ่งงดงามมีเอกลักษณ์ทุกฤดูกาล ทะเลสาบชูเซนจิมีชื่อเสียงทางด้านบ่อน้ำพุร้อน และความหลากหลายทางธรรมชาติ โดยมีน้ำตกหลายแห่งในบริเวณรอบๆ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)
ที่พัก KAMENOI HOTEL OKUNIKKO หรือเทียบเท่า
หลังจากทานอาหารค่ำ ให้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่สาม กิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รี – หุบเขาโอนิโอชิดาชิ – น้ำตกชิราอิโตะ – เมืองมัตซึโมโต้
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
เดินทางสู่ สวนสตรอว์เบอร์รี ชมบรรยากาศโรงเรือน การปลูกสตรอว์เบอรีแบบ Organic 100% และยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อยู่ในระบบปิดที่มีการควบคุมสภาพอากาศตลอดเวลา สะอาดมากจนสามารถเก็บทานได้เลยโดยที่ไม่ต้องล้าง ให้ท่านได้สนุกกับกิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รี สด ๆ จากต้นมาทานได้แบบไม่อั้น ยิ่งลูกไหนแดงรสชาติก็จะหวานอร่อยถูกใจแน่นอน (ระยะเวลาการเก็บสตรอว์เบอร์รี จะอยู่ในช่วงต้นเดือนมกราคม จนถึง เดือนเมษายน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

หุบเขาโอนิโอชิดาชิ ตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟอาซามะ ( ยังเป็นภูเขาไฟที่ครุกรุ่นอยู่และมีโอกาสเกิดการปะทุได้ มีความสูงถึง 2,565 เมตร และเป็นภูเขาไฟที่ถูกรัฐบาลั่งห้ามปีนนับตั้งแต่เกิดการระเบิดเมื่อหลายปีก่อน การระเบิดครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 ) เป็นลักษณะสวนหินที่เกิดจากการแข็งตัวของลาวาที่ไหลออกมาจากภูเขาไฟอาซามะเมื่อครั้งอดีต อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,350 เมตร

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)
ชมความงามแห่ง น้ำตกชิราอิโตะ (Shiraito Falls) ตั้งอยู่มางตอนเหนือของทางเมืองคารุอิซาว่า น้ำตกนี้มีความสูงเพียง 3 เมตร แต่มีความกว้างโค้งถึง 70 เมตร น้ำตกขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีอากาศเย็นสดชื่นตลอดทั้งปี ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและชมธรรมชาติตามอัธยาศัย

หลังจากนั้น ออกเดินทางสู่ เมืองมัตสึโมโต้ เป็นเมืองที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัดนากาโน่ เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 มัตสึโมโต้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น จึงทำให้เมืองทั้งเมืองถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 5)
ที่พัก MUTSUMOTO HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ ทาคายาม่า จินยะ (ชมด้านนอก) – LITTLE KYOTO ซันมาซิ ซูจิ – หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ – เมืองนาโกย่า – ชมงานประดับไฟ Nabana no sato Winter Illumination
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)
ทาคายาม่า (TAKAYAMA) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่จังหวัดกิฟุ ตัวเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ มีศิลปวัฒนธรรมและสถานปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและมีธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้ทาคายาม่าเป็นเมืองสวยอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น
นำท่านชมด้านนอกของ ทาคายาม่า จินยะ หรือ ที่ว่าการอำเภอเก่าเมืองทาคายาม่า (ไม่รวมค่าเข้า) ซึ่งเป็นจวนผู้ว่าแห่งเมืองทาคายาม่า เป็นที่ทำงานและที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะ เป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนตระกูลกุกาวา ในสมัยเอโดะ ตัวอาคารเป็นทั้งสถานที่ราชการ ห้องรับแขก ห้องประชุม รวมถึงห้องสอบสวนอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันอาคารยังสมบูรณ์ แต่ละห้องปูเสื่อทาทามิอย่างสวยงาม

เมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old town) หรือ ถนนซันมาจิซูจิ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่สมัยเอโดะกว่า 300 ปีก่อน ที่ยังอนุรักษ์และคงสภาพเดิมได้เป็นอย่างดี อิสระให้ทุกท่านได้เดินเที่ยวและชื่นชมกับทัศนียภาพเมืองเก่าซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนโบราณ และร้านค้าหลากหลาย เช่น ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านงานศิลปะ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7)
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์บ้านสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ดั้งเดิมและได้รับเลือกจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในเดือนธันวาคม ปี 1995 โครงสร้างของบ้านสามารถรองรับหิมะที่ตกหนักในช่วงฤดูหนาวได้ดี และรูปร่างของหลังคาเหมือนกับสองมือพนมของพระเจ้า จึงเรียกหมู่บ้านสไตล์นี้ว่า“กัสโซ”จะมีความยาวประมาณ 18 เมตร ความกว้าง 10 เมตรโดยจะมีจุดไฮไลค์ที่ไม่ควรพลาด เช่น บ้านทรงโบราณคันดะ เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของอดีตเจ้าของบ้านไว้อย่างครบถ้วน, บ้านกัสโชสึคุริ เป็นบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิมคลาสสิก, วัดเมียวเซนจิ มีสถาปัตยกรรมแบบกัสโซซึคุริ ที่มีเอกลักษณ์ที่หาชมได้ยากมากๆในญี่ปุ่น, ศาลเจ้าชิรากาวะ ฮาจิมัง มีความเก่าแก่อยู่คู่กับหมู่บ้านแห่งนี้มาอย่างยาวนาน ในฤดูใบไม้ผลิ จะเป็นช่วงที่ดอกซากุระพร้อมใจออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วหมู่บ้าน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นดอกซากุระเต็มไปหมด ถือเป็นช่วงที่อากาศกำลังดีเพราะไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

ชม เทศกาลแสดงไฟ NABANA NO SATO เป็นงานประดับไฟที่สุดอลังการของญี่ปุ่น โดยมีไฮไลท์ คือ “อุโมงค์ไฟดาวล้านดวง” วิวดอกไม้นานาพันธุ์ ซึ่งดอกไม้เป็นสิ่งดึงดูดใจหลักของงานประดับไฟ โดยแปลงสวนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน มีดอกไม้และต้นไม้หลาย ๆ พันธุ์ ส่วนของสวน Begonia ขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้เพียงอย่างเดียวมากกว่า 12,000 ชนิด บานสะพรั่งตลอดปี ส่วนในอาคารเรือนกระจกยักษ์มีพันธุ์ไม้ที่ปลูกในกระถางทั้งสวนดอกไม้ Andes และสวนดอกไม้ Begonia

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย ณ ภายใน เทศกาลแสดงไฟ NABANA NO SATO
ที่พัก MY STAY NAGOYA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า นาโกย่า – ทดลองนั่งรถไฟชินคันเซ็น – จังหวัดชิสุโอกะ – ทะเลสาบฮามานะโกะ – อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ – ศาลเจ้าฮาโกเน่ – เมนูขาปูยักษ์ – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)
นำท่านทดลองนั่ง รถไฟความเร็วสูงชินคันเซน (Shinkansen) หรืออีกชื่อหนึ่งที่บ่งบอกความเร็วได้ดีอย่างรถไฟหัวกระสุนเคยทำสถิติความเร็วสูงสุดมากถึง 603 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อปี 2015 แต่ส่วนใหญ่จะวิ่งจริง ๆ แค่ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเลือกความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสาร จุดเด่นของชินคันเซนไม่ได้มีแค่ความเร็วเท่านั้นแต่ความสะดวกสบายนี่ก็เยี่ยมยอด ความหรูหราจะแบ่งตามคลาสที่นั่งกันไป ความสะอาดก็เลื่องชื่อมีการส่งเจ้าหน้าที่มาทำความสะอาดอยู่ตลอด ๆ ความปลอดภัยยิ่งหายห่วงไม่เคยมีกระทั่งรถไฟตกรางหรือรถไฟชนกันเลย (ขึ้นสถานี Nagoya ลงสถานี Mikawa-Anjo)

เดินทางสู่ ทะเลสาบฮามานะ หรือทะเลสาบปลาไหล เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ริมชายฝั่งแปซิฟิค ทิศตะวันตกของจังหวัดชิซุโอกะ แต่เดิมเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่แยกออกมาจากมหาสมุทร ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1498 ทำให้น้ำจืดเปลี่ยนเป็นน้ำเค็มในที่สุดสาเหตุที่ชื่อว่าทะเลสาปปลาไหล เนื่องจากบริเวณนี้จะเป็นบริเวณที่มีการจับปลาไหลได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น โดยสถานที่แห่งนี้จะเป็นจุดชมวิวและเป็นที่พักจอดรถ มีร้านค้าและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับปลาไหลให้เลือกซื้อเป็นของที่ระลึก ที่มีชื่อเสียงและยังเป็นแหล่งเพราะพันธุ์ปลาไหลที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น และ มีอาหารการกินและขนมรูปแบบเฉพาะที่ทำมาจากปลาไหลทั้งสิ้น ผลิตอุนางิพาย หรือ พายปลาไหล ที่โด่งดังที่สุดของทะเลสาบฮามานะ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 9)
ออกเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ (HAKONE NATIONAL PARK) จุดชมวิวและเมืองพักผ่อนตากอากาศที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคะนะงะวะ มีชื่อเสียงในด้านน้ำพุร้อนซึ่งเกิดจากความร้อนของภูเขาไฟรวมทั้งยังมีทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม
จากนั้นมุ่งสู่ ศาลเจ้าฮาโกเน่ (Hakone Shrine) ตั้งอยู่ด้านล่างของภูเขาฮาโกเน่บริเวณชายฝั่งของทะเลสาบอาชิ (Lake Ashi) ถูกซ่อนอยู่ในป่าลึก ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ คือ เสาโทริอิสีแดง (Torii) ที่ตั้งเด่นอยู่ในทะเลสาบ และทางเดินไปยังศาลเจ้าโดยสองข้างทางจะมีตะเกียงแขวนเรียงรายอยู่ตลอดทาง ภายในศาลเจ้านั้นมีบรรยากาศที่เงียบสงบอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ มีความสวยงามตลอดทั้งปี เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เชื่อว่าภูเขาเป็นที่สถิตของเทพเจ้า คนจะนิยมมาขอพรให้โชคดี เก็บเงินทองอยู่ ค้าขายร่ำรวย หาคู่ ครอบครัวปลอดภัย และธุรกิจเจริญรุ่งเรือง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 10)
**พิเศษ เมนูขาปูยักษ์สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด**
ที่พัก SUNFUJI YAMANAKAKO HOTEL หรือเทียบเท่า
หลังจากทานอาหารค่ำ ให้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่หก หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไก – ชมซากุระริม ทะเลสาบคาวากุจิโกะ – กิจกรรม ชงชา – โตเกียว – ช้อปปิ้งชินจูกุ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 11)
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai Village) เป็นจุดท่องเที่ยวที่สร้างเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีฉากหลังเป็น ภูเขาไฟฟูจิ ประกอบด้วยบ่อน้ำ 8 บ่อในโอชิโนะ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูจิโกะกับทะเลสาบยามานาคาโกะซึ่งเป็นพื้นที่เก่าของทะเลสาบแห่งที่ 6 ที่แห้งขอดไปเมื่อ 200-300 ปีที่ผ่านมา บ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อน ที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ ๆ ภูเขาไฟฟูจิผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี ทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ ถัดไปอีกบ่อหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถดื่มน้ำเย็นจากแหล่งน้ำได้โดยตรง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก บางร้านยังขายมันเทศหวานย่าง และขนมแซมเบ้บนเตาเล็ก ๆ กลางแจ้งส่งกลิ่นหอมชวนให้ลิ้มรสอีกด้วย

เดินทางสู่ ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchi ko) ที่เป็นหนึ่งในห้าทะเลสาบล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นหรือต่างชาติก็ตาม มักจะมาหาที่พักผ่อนในบริเวณนี้มากกว่าทะเลสาบที่เหลืออีกสี่แห่ง ดังนั้นรอบ ๆ บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยโรงแรม, ร้านอาหาร, และร้านขายของที่ระลึกมากมาย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 12)

สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ กิจกรรมการชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การจับถ้วยชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก และท่านยังมีโอกาสได้ลองชงชาด้วยตัวท่านเองอีกด้วย ซึ่งก่อนกลับให้ท่านอิสระเลือกซื้อของที่ฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย

พาท่านสู่ โตเกียว ช้อปปิ้งใจกลางมหานครโตเกียวอันเลื่องชื่ออย่าง ย่านชินจูกุ (Shinjuku) แหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ ๆ เท่ห์ ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น ในแต่ละวันมีผู้คนจำนวนมากถึง 2.5 ล้านคนที่ใช้บริการสถานีแห่งนี้ ทางด้านตะวันตกย่านนี้ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าหลายอาคาร มีทั้งโรงแรมชั้นนำ และในส่วนทางด้านตะวันออกนั้นคือ คาบูกิโจ (Kabuki-jo) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Bic Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่มีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย เช่นร้านอิซากายะ (Izakaya)

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย ณ แหล่งช้อปปิ้ง
ที่พัก THE B IKEBUKURO HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด วัดอาซากุซะ – ชมซากุระ ณ สวนสุมิดะ – ถ่ายรูปวิวโตเกียวสกายทรี ริมแม่น้ำสุมิดะ – ห้างอิออน มอลล์ – โตเกียว (สนามบินนาริตะ) – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) (TG677 17.30-22.30)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 13)
นำท่านเดินทางเข้าสู่ วัดอาซากุสะ หรือ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) วัดที่ว่ากันว่า เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว ซึ่งเคยเป็นวัดที่เหล่าโชกุนและซามูไรให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมากในอดีต นำท่านนมัสการ องค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่ประดิษฐานในวิหารหลังใหญ่ (อยู่หลังฉากม่านกั้น) และ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ “คามินาริมง (ประตูฟ้าคำรณ)” ซึ่งมีโคมไฟสีแดงที่ได้ชื่อว่าเป็น “โคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก” มีความสูงใหญ่ถึง 4.5 เมตร

พาท่านเดินสู่ริมแม่น้ำสุมิดะเพื่อ ชมซากุระ ที่ตั้งอยู่เรียงราย 2 ฝั่งริม แม่น้ำสุมิดะ ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จัดเป็นสถานที่อีกแห่งที่จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ ที่คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศและเดินชมดอกซากุระ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจไปกับซากุระ และ หอคอยโตเกียวสกาย ทรี (Tokyo Sky tree) ที่เปิดเมื่อ 22 พฤษภาคม 2555 มีความสูง 634 เมตร (โดยปกติซากุระจะบานประมาณกลางมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

นำท่านเดินทางสู่ ห้างอิออน มอลล์ นาริตะ (Narita AEON Shopping Mall) ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ในเมืองนาริตะ เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ากว่า 150 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น Muji , Sanrio Store , ร้าน100เยน (100 Yen Shop) ,ร้านขายยาและเครื่องสำอางค์ Matsumoto Kiyoshi , เกมส์เซ็นเตอร์ , ร้านหนังสือ , ร้านรองเท้า ฯลฯ และยังมี ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในส่วนของ Jusco ที่รวมของสด ของแห้ง อีกมากมาย

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ภายใน อิออน มอลล์
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนาริตะ
ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
17.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 677
(สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
22.30 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

ทัวร์ญี่ปุ่น