BT-EUR17_EK

ทัวร์ยุโรป มหัศจรรย์…สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี แวะช้อปปิ้งมิลาน 9 วัน 7 คืน (EK)

ราคาเริ่มต้น 119,999 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จากนั้น ให้ท่านได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้

วันที่เดินทาง

8 เม.ย. 67 – 16 เม.ย. 67, 7 เม.ย. 67 – 15 เม.ย. 67, 17 มี.ค. 67 – 25 มี.ค. 67

ทัวร์ยุโรป
06.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 ROW S เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตต์ Emirate Airline (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน

09.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 375 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
13.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)
15.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเที่ยวบินที่ EK085
19.50 น. เดินทางถึงเดินทางถึง สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมงในช่วงหน้าร้อน) ผ่านพิธีตรวจนเข้าเมืองและศุลกากร ก่อนพาท่านเข้าที่พัก

ที่พัก NOVOTEL ZURICH AIRPORT MESSE HOTEL หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืน ติดกัน)
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 1)
จากนั้น เดินทางสู่ เมืองชไตน์ อัม ไรน์ (Stein am Rhein) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองทางเหนือติดกับประเทศเยอรมันนี เมืองนี้มักไม่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว แต่นับได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามที่ไม่ควรพลาด ชมความงามของสถาปัตยกรรมของเมืองริมแม่น้ำไรน์ และการตกแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์ รวมไปถึงศิลปะชั้นสูงอย่างเฟสโก้ที่ยังคงความสมบูรณ์ไว้ได้อย่างสวยงาม
พาท่านเดินทางสู่ ชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) พาท่านชม น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) เป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดของยุโรป มีอายุเก่าแก่ประมาณ 14,000-17,000 ปี โดยมีความกว้างถึง 150 เมตร สูง 23 เมตร น้ำตกเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราดตลอดทั้งปี โดยปริมาณกระแสน้ำไหลที่เคยวัดได้สูงสุดนั้นถึง 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (มื้อที่ 2)

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค(Zurich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ศูนย์กลางด้านการเงิน เศรษฐกิจ การคมนาคมและการธนาคารของยุโรป

ให้ท่านได้เพลิดเพลินเดินเล่นในเมืองซูริค พาท่านชม จุดชมวิวลินเดอฮอฟ (Lindenhof) 1 ในจุดที่มีความสวยงามที่สุดของเมืองซูริค ก่อนพาท่านเดินชม โบสถ์เซ็นท์ปีเตอร์ (St. Peter) โบสถ์เก่าแก่ของเมือง และ มหาวิหารกลอสมุสเตอร์ (Grossmünster) ที่เด่นตะหง่านด้วยหอคอยคู่ นับเป็นหนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดของเมืองซูริค
และให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งที่บริเวณ ถนนบาร์นฮอฟ (Bahnhofstrasse) ถนนสายช้อปปิ้งของเมือง อัดแน่นไปด้วยด้วยร้านรวงต่างๆ ให้ท่านได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น CHANEL, PRADA, LOUIS VUITTON, HERMÈS, GUCCI, BURBERRY, LONGCHAMP, MAC, MANGO, DIESEL, SWAROVSKI และอีกมากมาย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน (มื้อที่ 3)
ที่พัก NOVOTEL ZURICH AIRPORT MESSE HOTEL หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืน ติดกัน)
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4)
จากนั้น นำคณะเดินทางกลับเข้าสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของประเทศ
นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาที่นี่

นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จากนั้น ให้ท่านได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย (มื้อที่ 5)
จากนั้นนำท่าน ตามรอย สหายผู้กองและยุนเซรี ซีรี่ย์เกาหลีชื่อดัง Crash Landing On You ที่ หมู่บ้านอิเซลท์วอลด์ (Iseltwald) (ใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง) หมู่บ้านสไตล์สวิสชาเล่ต์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) สวยงามจนได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งทะเลสาบเบรียนซ์”

จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เมืองอินเทอลาเก้น (Interlaken) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) จุดศูนย์กลางของประเทศ ที่รายล้อมไปด้วย 4 ขุนเขา และ 2 ทะเลสาบ พาท่านเดินชม ความงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง พาท่านเดินชม ถนน Hoheweg จุดที่ครึกครื่นที่สุดในเมืองอินเทอลาเก้น ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพสวิสได้อยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Omega, Swatch ช็อคโกแลตสวิสที่ขึ้นชื่อ หรือแม้แต่เสื้อผ้า เครื่องประดับก็ยังมีให้ท่านเลือกสรรได้ตลอดถนนเลยทีเดียว
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พิเศษ! เมนูสวิสฟองดู 3 ชนิด ชีส ออย และช็อกโกแล็ต แบบจัดเต็ม (มื้อที่ 6)
ที่พัก Hotel Metropole หรือเทียบเท่า (พักติดกัน 2 คืน)
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 7)
นำท่านสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองอันเป็นจุดเริ่มต้นในการพิชิตยอดเขาจุงฟราว Top Of Europe ด้วยทัศนียภาพที่เป็นหุบเขาที่มีบ้านสไตล์สวิสชาเลย์ตั้งอยู่โดยรอบ ทำให้มีความสวยงามจนเป็นเหมือนหน้าตาของสวิสเซอร์แลนด์ที่คุ้นเคย
ใหม่ล่าสุด!!! พาท่านสู่สถานีกรินเดอวาลด์ เพื่อพาท่านขึ้น กระเช้า Eiger Express ที่เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา โดยจะทำให้ท่านประหยัดเวลาในการพิชิตเขาจุงฟราวเร็วขึ้นถึง 47 นาที เพื่อให้ท่านได้มีเวลาเพลิดเพลินบน Top Of Europe
เมื่อถึงแล้ว พาท่านชม อุโมงค์น้ำแข็ง (Ice Palace) ที่มีอายุเก่าแก่ 1,000 ปี ธารน้ำแข็งลึกเขาไปกว่า 30 เมตร มีประติมากรรมน้ำแข็งอยู่อย่างมากมาย และคงอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศา ตลอดทั้งปี เก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ชม อุโมงโลกอัลไพน์ (ALPINE SENSATON) ที่จัดแสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรมและธรรมชาติของชาวเมือง

นอกจากนั้นหากมีเวลาแนะนำให้ท่านชม พิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลต LINDT และเลือกซื้อกลับเป็นไปเป็นของฝากจากร้านช็อคโกแลตที่สูงที่สุดในโลก และนำท่านขึ้นสู่ JUNGFRAU PANORAMA VIEW จุดสูงสุดของสถานี ที่ 3,571 เมตร ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงฟราว ให้ท่านเต็มอิ่มกับบรรยากาศของทิวทัศน์สุดอลังการ (มื้อที่ 8)

พาท่านลงสู่อีก 1 เมืองชานเขาจุงฟราวผ่าน เมืองเลาเทอร์บรุนเนน (Lauterbrunnen) รถไฟไต่เขาแสนคลาสสิก ที่นี่เป็นที่ตั้งของ น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach)ที่สูงกว่า 300 เมตร มุมสุดอลังการกับริ้วน้ำตกที่แทรกผ่านหน้าผาสูง โดยมีเบื้องล่างเป็นบ้านเรือนสลับทุ่งหญ้า ที่มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน (มื้อที่ 9)
ที่พัก Hotel Metropole หรือเทียบเท่า (พักติดกัน 2 คืน)
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 10)

มุ่งหน้าสู่ เมืองเวอเวย์ (Vevey) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) โดยระหว่างนั้นจะเลียบทะเลสาบเจนีวา ทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป้นอันดับที่สองของยุโรป แวะถ่ายรูปกับ ส้อมยักษ์ (The Fork – Alimentarium) ประติมากรรมชื่อดัง ด้วยความสูงกว่า 8 เมตร นอกจากนั้นท่านจะยังได้สัมผัสกับวิวของทะเลสาบเจนีวาและเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลังอีกด้วย
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน (มื้อที่ 11)
จากนั้น เดินทางต่อไปยัง เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) แวะถ่ายรูปด้านหน้า ปราสาทชิลยอง (Château de Chillon) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ปราสาทอายุกว่า 1,000 ปี ที่ยังคงความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งขอยุโรปก็ว่าได้ และเป็นอีก 1 จุดที่ท่านต้องไม่พลาดชม ตัวปราสาทถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดควบคุมและเก็บค่าผ่านทางของผู้เดินทาง รวมไปถึงขบวนสินค้าต่างๆที่สัญจรไปมา

มุ่งหน้าสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองตากอากาศสุดหรูที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนยานพาหนะ จึงทำให้มีความบริสุทธิ์ของอากาศเป็นอย่างมาก และเป็นที่ที่ผู้คนทั่วโลกใฝ่ฝันว่าจะได้มาพักที่เมืองแห่งนี้ โดยพาท่านเปลี่ยนเป็นขึ้นรถไฟที่เมือง ทาซ (Tasch)
จากนั้น พาท่านเดินชม ความงามของ เมือง Zermatt เมืองเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยความวิเศษเหนือคณานับ ไม่ว่าจะเป็นถนนย่านใจกลางเมืองอย่าง Bahnhofstrasse ที่รวมร้านค้าต่างๆมากมาย ในอาคารสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร Matterhorn Museum อาคารจัดแสดงใต้ดินที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในเมือง และโบสถ์ Pfarrkirche St. Mauritius จุดศูนย์รวมใจของชาวเมือง
*คืนนี้โปรดเตรียมกระเป๋าสำหรับพัก 1 คืน เนื่องจากรถโค้ชจะไม่สามารถเข้ามาในเมืองได้*
**กรณีโรงแรมในเซอแมทเต็มขอสงวนสิทธิ์ในการพาท่านพักเมืองใกล้เคียงแทน**
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (มื้อที่ 12)
ที่พัก Hotel – Restaurant Derby หรือเทียบเท่า
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 13)
พิเศษสุด !!! พาท่านนั่งรถไฟกอร์เนอร์การ์ท (Gornergrat) รถไฟสุดคลาสสิคที่จะพาท่านขึ้นไปยังยอดเขาอันเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของ ภูเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ภูเขายอดแหลมรูปร่างแปลกตาที่สูงถึง 4,478 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศ และแมทเทอร์ฮอร์นยังได้ปรากฏในสินค้าและบริการต่างๆ มากมาย
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (มื้อที่ 14)

จากนั้น มุ่งหน้าสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยผ่าน ถนนหมายเลข E62 ที่มีความสวยงามของทิวเขาตลอดเส้นทางก่อนข้ามพรมแดนสู่แคว้นลอมบาดีร์
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 15)
ที่พัก BELSTAY ASSAGO หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืนติด)
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 16)
จากนั้น ออกเดินทางสู่ เมืองวาเลนน่า (Varenna) เมืองอันเป็นจุดเริ่มต้นในการชมความงามของ ทะเลสาบโคโม่ (Como Lake) ในแคว้นลอมบาร์เดีย ทางเหนือของประเทศอิตาลี ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดของประเทศอิตาลี บ้างก้ว่าสวยที่สุดในยุโรปเลยทีเดียว
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (มื้อที่ 17)
พาท่านล่องเรือทะเลสาบไปยัง เมืองเบลลาจีโอ้ (Bellagio) ที่อยู่บริเวณสันดอนทอันเป็นจุดแยกของทะเลสาบ บ้านเรือนและร้านรวงที่ดูแต่งแต้มด้วยโทนสีเหลืองโทนเดียวกัน จากที่นี่ท่านจะได้เห็นวิลล่า หรือบ้านพักสุดหรูริมทะเลสาบเรียงรายกัน โดยแต่ก่อนนั้นถือเป็นที่บ้านพักตากอากาศของเหล่าชนชั้นสูง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นโรงแรม หรือบ้านของเหล่าเซเลปดังๆ ของโลก
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตราคารท้องถิ่น (มื้อที่ 18)
ที่พัก BELSTAY ASSAGO หรือเทียบเท่า (พัก 2 คืนติด)
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 19)
พาท่านเข้าชม ปราสาทซฟอร์ซ่า (sforza castle) ปราสาทของผู้ครองนครรัฐมิลานในอดีตที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ตระกูลเมดิชี่แห่งฟลอเร้นซ์ สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 มีความหรูหราและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน โดยปราสาทแห่งนี้ บางส่วนถูกออกแบบโดยศิลปินระดับโลกอย่าง ลีโอนาโด ดาวินชี่ ที่เคยอยู่ในการอุปถัมภ์ ของตระกูลสฟอร์ซ่าถึง 15 ปี ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษางานศิลปะทรงคุณค่าระดับโลกมากมาย และยังมีรูปแกะสลักชิ้นสุดท้ายของ มิเกลลันเจลโล ที่แกะในวัย 89 ปีด้วย
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาจีน (มื้อที่ 20)
จากนั้น เดินทางเข้าสู่ ตัวเมืองแห่งแฟชั่น เมืองมิลาน (MILAN) พาท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มหาวิหารมิลาน (DUOMO DI MILANA ) หนึ่งในโบสถ์ศริสต์สถาปัตยกรรมกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใน วิหารเชื่อกันว่ามีการบรรจุหมุดตรึงไม้กางเขนของจริงที่ใช้ในการประหารชีวิตพระเยซู บริเวณด้านหน้าตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนที่วิจิตรเป็นอย่างยิ่ง

ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับช้อปปิ้งมอลล์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหน่ึงของยุโรปที่ กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่อัดแน่นไปด้วย แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่บางแบรนด์นั้นก็ยังถือ กำเนิด ณ เมืองแห่งนี้ อาทิ Prada, Versace, Armani, Dolce & Gabbana, Valentino รวมไปถึงแบรนด์เนมที่คุ้นหู อีกมากมายอย่าง Gucci, LOUIS VUITTON, Swarovski

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา มิลาน ประเทศอิตาลี เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Tax Refund)
21.35 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 092

06.35 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)
09.40 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตต์ เที่ยวบินที่ EK 372
18.55 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

ทัวร์ยุโรป