Go sweet Kashmir 7D 6N Summer 2024

ทัวร์อินเดีย แคชเมียร์ SWEETHEART 8 วัน (6E)

ราคาเริ่มต้น 39,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: IndiGo_Logo

“แคชเมียร์” โรแมนติกพัก บ้านเรือ วิมานบนดินแห่งแคชเมียร์ หนึ่งในเมืองที่น่าเที่ยวดินแดนทางตอนเหนือของอินเดียในวงล้อมของสองวัฒนธรรม อินเดียและปากีสถาน มงกุฎเพชรแห่งอินเดียที่สวยที่สุด จนได้รับการกล่าวขานให้เป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย”

วันที่เดินทาง

1 พ.ค. 67 – 7 พ.ค. 67, 10 ส.ค. 67 – 16 ส.ค. 67, 6 มิ.ย. 67 – 12 มิ.ย. 67, 20 ก.ค. 67 – 26 ก.ค. 67, 6 ส.ค. 67 -12 ส.ค. 67, 21 ก.ย. 67 – 27 ก.ย. 67

ทัวร์อินเดีย

วันที่ (1)
สนามบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) – เดลี (อินเดีย) – – D

14.00 น. คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 7 สายการบินอินดิโก้ (Indigo) 6E1054 โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้ความสะดวกแก่ท่าน
17.00 น. เหินฟ้า สู่เมืองเดลลี (New Delhi) ประเทศอินเดีย (India) โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E-1054 **หมายเหตุ** ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง
19.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคารเพื่อรับประทานอาหารค่ำ
เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง
20.00 น. บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (เดลลี) จากนั้นนำท่านเข้าที่พัก

ที่พัก Avalon Court Yard Delhi หรือเทียบเท่า

• เที่ยวพาฮาแกม สวยตลอดปี
• ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม วิวทิวทัศน์สวย บนยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ
• ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม วิวทิวทัศน์สวย ระหว่างทางมีทุ่งดอกมัสตาร์ดสีเหลือง
• ช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ทุ่งหญ้าสีเขียวป่าสนและวิวภูเขาที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย
• ช่วงใบไม้ร่วง เดือนกันยายน-ตุลาคม มีทุ่งดอกเชฟฟ่อนสีม่วง อากาศเย็นสบาย

วันที่สอง (2)
เดลี – ศรีนาคา – พาฮาลแกม B L D

05.30 น. บริการอาหารเช้าแบบกล่อง ของโรงแรม
06.30 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระออกเดินทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพื่อต่อเครื่องเข้าสู่เมืองศรีนาคา (แคชเมียร์) (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่อง เพราะเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจค่อนข้างละเอียด เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา แนะนำให้ถือเฉพาะกระเป๋าถือขนาดเล็กและของมีค่าขึ้นเครื่องเท่านั้น)
08.35 น. เหินฟ้าสู่ ศรีนาคา (Srinagar) โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E-6554
10.05 น. เดินทางถึง ศรีนาคา รับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อย ออกเดินทางโดยรถเทมโบ คันละ 10-12 ท่าน/คัน “ศรีนาคา”เมืองหลวงรัฐจัมมูและแคชเมียร์ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีเนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย แม้กระทั่งในช่วงฤดูร้อนก็จะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปีบวกกับธรรมชาติที่สวยงามในทุกฤดูทำให้ใครหลายคนทั้งชาวอินเดียและนักท่องเที่ยวต่างก็อยากหลบร้อนมารับลมเย็นๆที่นี่ จนศรีนาคาได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองสำหรับการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนของประเทศอินเดีย
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร/โรงแรม (เมืองศรีนาคา)
13.00 น. นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านพาฮาแกม (Pahalgam) ระยะทาง 141 กม.ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชม (นั่งรถเรียบเขาไป นานหน่อยแต่วิวสวยตลอดสองข้างทาง แวะจอดถ่ายรูปเป็นระยะนะค้า ) หรือหุบเขาแกะแห่ง แคชเมียร์เดิมเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเหมือน “สวิตเซอร์แลนด์” พาฮาลแกม มีแม่น้ำสายย่อยๆจะบรรจบรวมกันเป็น “แม่น้ำลิดดาร์” (Liddar) เป็นแม่น้ำสายสำคัญในพาฮาลแกม นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขาย เสื้อผ้าและสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะหญ้าฝรั่น (Saffron) มีสรรพคุณลดโคเลสเตอรอลในร่างกาย มีขายอยู่ทั่วไปทั่วทั้งแคชเมียร์ แต่ที่พาฮาลแกมคือแหล่งปลูกหญ้าฝรั่นที่ใหญ่ที่สุด มีคุณภาพดีกว่าที่อื่นนอกจากนี้ยังสามารถทำกิจกรรม ปิกนิก ตกปลา ขี่ม้าชมวิวรอบภูเขาหมู่บ้านที่อยู่บนที่มีความสูง 2,130 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

จากนั้น ออกเดินทางจากศรีนาคาสู่ หมู่บ้านพาฮาแกม (Pahalgam) แคชเมียร์สถานที่ถ่ายทำหนังสุดฮิตของอินเดีย หรือหุบเขาแกะ แห่งแคชเมียร์เดิมเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ อยู่ห่างจากศรีนาการ์ออกไปอีก 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง เป็นสถานที่ที่ภาพยนตร์นิยมมาถ่ายทำกันที่นี่ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเหมือน “สวิตเซอร์แลนด์” พาฮาลแกม คือในช่วงฤดูหนาวจะมีแต่หิมะปกคลุม อากาศหนาวเย็น น้ำในลำธารเย็นเฉียบ แม่น้ำสายย่อยๆจะบรรจบรวมกันเป็น “แม่น้ำลิดดาร์” (Liddar) เป็นแม่น้ำสายสำคัญในพาฮาลแกม นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขาย
เสื้อผ้าและสินค้าต่างๆโดยเฉพาะ หญ้าฝรั่น (Saffron) มีสรรพคุณลดโคเลสเตอรอลในร่างกาย มีขายอยู่ทั่วไปทั่วทั้งแคชเมียร์แต่ที่พาฮาลแกมคือแหล่งปลูกหญ้าฝรั่นที่ใหญ่ที่สุด มีคุณภาพดีกว่าที่อื่นนอกจากนี้ยังสามารถทำกิจกรรม ปิกนิก ตกปลา ขี่ม้าชมวิวรอบภูเขาหมู่บ้านที่อยู่บนที่มีความสูง 2,130 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
ระหว่างทาง ชมแวะจอดรถถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามสุดที่หยุดกดชัตเตอร์เลยทีเดียว.. …และสองข้างทางท่านจะผ่านพบวิถีชีวิตของชาวแคชเมียร์ที่หลากหลาย เช่นหมู่บ้านที่ทำ ครกหิน หมู่บ้านที่ทำไม้แบดสำหรับกีฬาคลิกเก็ต ที่เราจะพบเห็นชาวแคชเมียร์เล่นกีฬาประเภทนี้ได้ตามสนามทั่วไปไม้แบดนี้ทำมาจากต้นหลิว (Willow Tree) ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปทั้งในและนอกเมือง แต่จะพบเห็นได้มาก นอกจากนี้ จะได้เห็นทุ่งโล่งๆ ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนตุลาคม ท้องทุ่งแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกหญ้าฝรั้น หรือ Saffron ที่ใหญ่ที่สุด ลักษณะดอกจะเป็นสีม่วง ว่ากันว่าเกสรของหญ้า ฝรั้นมีสรรพคุณในการช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้ดีตลอดสองข้างทางชมทิวทัศน์ที่สวยงาม
บ่าย นำท่านอิสระชมเมืองพาฮาลแกม (Pahalgam) ที่นี่ คือ ดินแดนสรวงสวรรค์ของแคชเมียร์ นักท่องเที่ยวจาก
ทั่วสารทิศต่างยกย่องให้ ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งหากคุณยังไม่เชื่อก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น……คำว่า พาฮาลแกม หมายถึง หมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ (Village of Shepherds) หรือ หุบเขาแกะ และด้วยทัศนียภาพอันงดงามจนน่าทึ่งของพาฮาลแกม….ดินแดนแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักสร้างภาพยนตร์ จนกลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียง ที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย หรือเลือกเดินเล่นซื้อสินค้าพื้นเมืองไม่มว่าจะเป็นผ้าพัชมีน่า เปเปอร์มาเช่ ชุดพื้นเมือง เครื่องประดับฯลฯ อิสระตามอัธยาศัย นัดเวลาทานอาหารเย็น
….ที่นี่ คือ ดินแดนสรวงสวรรค์ของแคชเมียร์นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต่างยกย่องให้ ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่
ที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งหากคุณยังไม่เชื่อก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น….
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

ที่พัก Green Height Pahalgam หรือเทียบเท่า
วันที่สาม (3) วันที่สาม (3)
พาฮาลแกม–หุบกุลมาร์ค-เคเบิลคาร์ -ศรีนาคา B L D
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
08.00 น. ออกเดินทางโดย ขบวนรถเทมโบ กุลมาร์ค (Gulmarg) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง กุลมาร์ค (Gulmarg) สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในแคชเมียร์ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
เป็นภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งใน แคชเมียร์ “กุลมาร์ค”เดิมเรียกเการิมาร์ค ตั้งโดยสุลต่าน ยูซุปชาร์ ในศตวรรษที่ 16 เนื่องจากที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าตามฤดูกาล และในปัจจุบันยังเป็นสถานที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก (3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล) และมีสถานที่เล่นสกีในฤดูหนาวด้วย ตลอดเส้นทางสู่กุลมาร์คจะผ่านทุ่งนาข้าว หมู่บ้านชาวพื้นเมือง ฝูงแกะตามภูเขา และเทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนสวยงาม ชาวแคชเมียร์กล่าวขานว่าทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้ เป็นเส้นทางทีมุ่งสู่ชายแดนปากีสถาน กุลมาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฤดูหนาว มีระดับความสูง 2,730 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก โดยรอบท่านจะได้พบเห็นกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยาย และมีป่าสนเป็นฉากหลัง ที่นี่ยังสถานเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย……
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม

13.00 น ไฮไลท์ของกิจกรรมและการท่องเที่ยวที่กุลมาร์ค นำท่านขึ้นเคเบิลคาร์เฟส 1 (กระเช้าลอยฟ้าหรือกอนโดลา) ขึ้นกระเช้ากอนโดล่าเป็นเคเบิลคาร์ไปเฟส1 ระหว่างทางท่านจะได้เห็นวิวของหิมะที่สวยงามพบเห็นหมู่บ้านยิปซีและหมู่บ้านของคนท้องถิ่น มองลงไปข้างล่างต้นสนระหว่างทางและหิมะที่สวยงามมาก เห็นวิวทิวเขาของเทีอกเขาหิมาลัยเมื่อถึงสถานีลงจากกระเช้าแล้ว ท่านจะพบลานหิมะขนาดใหญ่…อิสระให้ท่าน ถ่ายภาพคู่กับภูเขาหิมะ สวยงามรอบทิศทาง หากฟ้าเปิดสามารถมองเห็นยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาเอเวอร์เรส….ถ่ายรูป และเล่นกิจกรรมต่างๆในบริเวณนี้…สนุกสนานกับกิจกรรมนั่งเลื่อนหิมะหรือสกีได้ระหว่างฤดูใบไม้ผลิ มี.ค.-เม.ย. “กุลมาร์ค.” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด…
ฤดูการท่องเที่ยวที่สวยงาม : ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนในแคชเมียร์ (เดือนเมษายน-กันยายน) จะมีชื่อเสียงในเรื่องของดอกไม้และสวนสวย เดือนพฤษภาคม – กรกฏาคม ชมบรรยากาศของทุ่งหญ้าที่เขียวขจี ทุ่งดอกไม้ป่าที่ตัดกับภูเขาหิมะ
รายการเสริม…สำหรับบางท่านต้องการไปอีกจุดชมวิวท่านสามารถขึ้นกระเช้าไปยัง เฟสที่K2 ได้ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ
สภาพอากาศ และความปลอดภัยเป็นสำคัญเฟสที่ K2 ไม่เหมาะสำหรับท่านที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง หรือมีโรคประจำตัว
เนื่องจาก K2 จะมีสภาพอากาศที่เบาบางกว่าปกติ
• เที่ยวกุลมาร์ก สวยตลอดปี
• ปลายเดือนธันวาคม-พฤษภาคม กุลมาร์ค จะเต็มไปด้วยลานน้ำแข็ง
• เดือนมิถุนายน-กันยายน กุลมาร์ก จะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว อากาศเย็นสบาย
• เดือนตุลาคม-ปลายเดือนธันวาคม ทุ่งหญ้าที่กุลมาร์คเริ่มแห้ง อากาศหนาว
• ช่วงปลายเดือนธันวาคม-พฤษภาคม กุลมาร์ค จะเต็มไปด้วยลานน้ำแข็ง เที่ยวได้
จากนั้น จนถึงเวลานัดหมายนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองศรีนาคา
16.30 น. ถึงเมืองศรีนาคา นำท่านล่องเรือสิคารา (เรือพายแบบแคชเมียร์) ในทะเลสาบดาล ชมทัศนียภาพของเทือกเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบดาล ชมสวนผักลอยน้ำ วิถีชีวิตชาวบ้านที่อาศัยตามริมน้ำ (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชม.) รอบทะเลสาบ นกนานาชนิด พืชดอกไม้น้ำ ทะเลสาบใสสวยงาม สนุกสนานกลางทะเลสาบเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของชาวแคชเมียร์ที่นำของมาขายให้ท่านได้เลือกซื้อในราคาเบาๆ

ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ…อิสระหลังอาหาร สนุกสนานกับการช้อปปิ้งสิ้นค้าเพื้อนเมือง ที่จะมีพ่อค้าชาวแคชเมียร์พายเรือมาขายให้ถึงที่เลย อาทิ ผ้าพาสมิน่า,เปเปอร์มาเช่,สร้อยคอ,กำไร,และเครื่องเงินต่างๆ มากมาย …ให้ทุกท่านใช้ความสามารถพิเศษให้เต็มที่กันเลยค่ะตามความสามารถได้เวลาสมควรพายเรือกลับที่พัก …..
ที่พัก Deluxe House Boats (Srinagar) หรือเทียบเท่า

วันที่สาม (4)
(แคชเมียร์) ศรีนาคา-โซนามาร์ค-ศรีนาคา B L D
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมบ้านเรือ
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) (ประมาณ 3 ชั่วโมง) อ้อมกอดหิมาลัยที่โซนามาร์คท้องทุ่งแห่งทองคำ Meadow of gold แห่งแคชเมียร์ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,740 เมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันมีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม อยู่บนเส้นทางระหว่างเมืองศรีนาคากับเมืองเลห์ ในบริเวณหุบเขาโซนามาร์กนี้มีธารน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกคลุมอยู่ตามลาดไหล่เขา อีกทั้งเทือกเขาหิมะที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทอง จึงเป็นที่มาของชื่อ โซนามาร์ค และยังมีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า ทาจิวาส ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธ์ ลดเลี้ยวผ่านหุบเขาในอีกฟากของถนน “โซนามาร์ค” เป็นสถานีเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดัคห์ หรือเป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า “ประตูสู่ลาดักห์” เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงาม ตลอดสองข้างทาง ยังมี “ธารน้ำแข็งกราเซีย” (Thajiwas Glacier) ที่เกิดจากการทับถมของหิมะมายาวนาน ละลายเป็นธารน้ำแข็งตามแนวเขา….ตลอดเส้นทางจึงเป็นเส้นทางที่ให้ขับรถไปถ่ายรูปไป…เลยทีเดียว

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ห้องอาหารโรงแรม (โซนามาร์ค) ชมวิวที่กว้างไกลชนิดกล้องเก็บไม่หมด
บ่าย อิสระ ชม กราเซียน้ำแข็งโซนามาร์ค ธรรมชาติสัมผัสอากาศสบายๆ ชมวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและสองฟากฝั่งถนนที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง ถนนบางช่วงต้องตัดผ่านช่องน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่นี่จะมีกิจกรรมแบบ แคชเมียร์ให้ท่านได้ลองหาประสบการณ์ (ในช่วงฤดูหนาว ธ.ค. – เม.ย.)
โปรแกรมแนะนำ …ท่านที่หลงใหลในธรรมชาติ สามารถขี่ม้าชมความงามของเทือกเขาหิมาลัยและวิวกราเซียที่รายล้อมไปด้วยต้นสนความเขียวขจีในฤดูซัมเมอร์ อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ค่าใช้จ่ายการขี่ม้า
ราคาเริ่มต้น 1500-2000 รูปี (ไม่รวมในค่าทัวร์ โปรดสอบถามรายละเอียดจากหัวหน้าทัวร์)
ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับสู่ศรีนาคา ในเส้นทางเดิม ระหว่างทางแวะชมหรือซื้อผลไม้แห้งต่างๆอุดหนุนสิ้นค้าโอท๊อป ที่ชาวแคชเมียร์ ทำเองจากธรรมชาติไร้สารปรุงแต่ง อร่อยมาก
17.00 น. ชมสวนนิชาท (Nishat) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด มีต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ต้นทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ตั้งอยู่ริมทะเลสาบดาล มีภูเขา Zabarwan ซึ่งตั้งเป็นฉากหลัง เป็นสวนโมกุล (Mughal Gardens) สวนสวรรค์แห่งดอกไม้ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ดอกไม้เมืองหนาวออกดอกชูช่ออย่างสวยงาม สวนโมกุล ได้แบ่งออกเป็นส่วนๆ 3 ส่วน ซึ่งภายในสวนมีการประดับตกแต่งในแบบสไตล์สวนเปอร์เซีย ซึ่งประกอบไปด้วย สระน้ำ ลำธารและแปลงไม้ดอก ชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) เป็นสวนดอกไม้ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุล ก่อสร้างโดยจักรพรรดิ JEHANGIR เพื่อภรรยา Nur Jehan และเมืองศรีนาคา แคชเมียร์ เป็นที่มีชื่อเสียงในการจัดสวนตามแบบสมัยของราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้เมืองหนาว จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต

ชมต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ดอกทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ฤดูการท่องเที่ยวที่สวยงาม : ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนในแคชเมียร์ (เดือนเมษายน-กันยายน) จะมีชื่อเสียงในเรื่องของดอกไม้และสวนสวย โดยสวนที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ สวนโมกุล ที่สร้างในสมัยของราชวงศ์โมกุลแทบทั้งสิ้น สำหรับต้นไม้ที่มีความสวยงามและโดดเด่น คือ ต้นชีน่า หรือต้นเมเปิ้ล ซึ่งใบของต้นไม้นี้มีสีแดงเพลิงสวยงาม และใบจะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล
นำท่านชมโรงงานพรมเปอร์เซีย สมควรแก่เวลานำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรมลอยน้ำ ชื่นชมทัศนียภาพ ของเทือกเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบเมืองศรีนาคา ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่บ้านเรือในทะเลสาบ ในเมืองศรีนาคา บ้านเรือนี้ถือกำเนิดจากสมัยที่เจ้าผู้ครองแคว้นแคชเมียร์ยังครองอำนาจกับ อังกฤษที่เข้ามาปกครองอินเดีย และไม่อนุญาตให้อังกฤษมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน คนอังกฤษจึงหาทางออกด้วยการสร้างบ้านเรือลอยลำอยู่ในทะเลสาบแทน
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ โรงแรมบ้านเรือ…
ที่พัก Deluxe House Boats (Srinagar)หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า (5)
(แคชเมียร์) ศรีนาคา- เดลลี- อัครา B L D
เช้า บริการอาหารเช้า ณ บ้านเรือ..นำท่านเดินทางสู่สนามบินศรีนาคา
09.45 น. เหินฟ้าสู่ เมืองนิวเดลลี โดยสายการบิน INDIGO เที่ยวบินที่ 6E-216
11.15 น. เดินทางถึง เมืองนิวเดลลี (New Delhi) หลังตรวจรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน Box Set
เดินทางสู่ เมืองอัครา ระยะทาง 203 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพการจราจร “อัครา” AGRA อดีตเมืองหลวงอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า “ฮินดูสถาน” เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา (Yomuna) มีโบราณสถานระดับมรดกโลกถึง 3 แห่ง ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ป้อมอัครา (Akra Fort) ซึ่งโบราณสถานโมกุลทั้งสามแห่งนี้ได้ถูกยกขึ้นเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ UNESCO

ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ โรงแรม
ที่พัก Crystal Sarovar Premier (Agra) หรือเทียบเท่า

วันที่หก (6)
 อัคระ – เดลลี B L –
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
08.00 น. นำท่านชม ทัชมาฮาล (TajMahal) ทัชมาฮาลคืออนุสรณ์สถานแห่งความรัก เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ มีขนาดใหญ่ถึง ประมาณ 107 ไร่ ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 22 ปี ทัชมาฮาลถูกสร้างขึ้นโดยความรักของสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ มาฮาล พระมเหสีของพระองค์ เพื่อใช้เป็นอนุสาวรีย์ฝังศพของพระมเหสีนั่นเอง พระมเหสีมุมตัซสิ้นพระชนม์หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันโศกเศร้านานกว่าสองทศวรรษ ในทุกๆ วันพระองค์จะไปนั่งอยู่ข้างหลุมศพของพระมเหสี และด้วยความโศกเศร้านี้พระองค์จึงสละราชสมบัติเพื่อสร้างทัชมาฮาลนานกว่า 22 ปีเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์

จากนั้น ชมพระราชวังอัคราฟอร์ด (Agra Fort) หรือ Red Fort ป้อมนี้สร้างจากหินทรายแดงเป็นมรดกอีกแห่งหนึ่งของอัคราตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ห่างจากทัชมาฮาลราว 2 กิโลเมตร เริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ในรัชสมัยของกษัตริย์อัคบาร์ และมีการก่อสร้างมาเรื่อยๆ จนถึงสมัยของพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ผู้เป็นหลานชาย ภายในแบ่งเป็นพระราชวัง อาคาร ห้องหอ และมัสยิดจำนวนมาก บางหลังสร้างจากหินอ่อนล้วนๆ อีกด้วย ภายในป้องอัครามีโซนต่างๆ ให้เราได้ แวะ ชมมากมาย อาทิ ท้องพระโรงส่วนพระองค์ (Diwan-i-Khas) มัสยิดไข่มุก (Moti Masjid) พระราชวังกระจก (Sheesh Mahal) พระราชวังกัสมาฮาล (Khas Mahal) หอคอยหินอ่อนแปดเหลี่ยมสีขาว (Musamman Burj) ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันหลังจากที่ถูกพระโอรสยึดพระราชบัลลังก์ โดยระเบียงจากห้องนี้เองที่สมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันได้ใช้เวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิตในการทอดพระเนตรไปยังทัชมาฮาลถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1666
14.00 น. เดินทาง สู่ เมืองเดลลี ระยะทาง 214 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพการจราจร นำท่านผ่านชม ประตูอินเดีย โครงสร้างเป็นซุ้มหินทรายที่สร้างขึ้นโดยชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 20 อนุสาวรีย์ที่มี
ชื่อเสียงเป็นเครื่องหมายของทหารอังกฤษอินเดียที่สูญหาย 70,000 นายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ผ่านชม ราษฏรปติภวัน Rashtrapati Bhavan หรือ หรือทำเนียบประธานาธิบดีของอินเดีย ที่พำนักทางการของประธานาธิบดีอินเดีย
จากนั้น นำท่าน ช้อปปิ้งที่ ตลาดพื้นเมือง ตลาดจันปาร์ต Janpath Market สินค้าพื้นเมืองของที่มาทั่วสารทิศของประทศอินเดีย…ที่นี่คุณจะได้รับที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดของถนนช้อปปิ้ง อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของตามอัธยาศัย..จนถึงเวลานัดหมาย
19.00 น. บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก Radisson Blu Dwarka Delhi หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด (7)
 เดลลี-กรุงเทพ B L –
06.00 น. บริการอาหารเช้า Box Set…
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีร์ เมืองเดลลี (New Delhi) ท้องถิ่นผ่านพิธีการต่างๆ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
10.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดยสายการบิน INDIGO เที่ยวบินที่ 6E-1053
16.10 น. เดินทางถึง…ท่าอากาศสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

ทัวร์อินเดีย