17028908771

ทัวร์ยุโรป LOVE “GLACIER 3000” THREE THOUSAND อิตาลี – สวิตเซอร์แลนด์ – เยอรมนี – ออสเตรีย 10วัน 7คืน (EK)

ราคาเริ่มต้น 89,888 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์โอลิมปิก (The Olympic Museum) อีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่พลาดไม่ได้ของเมืองโลซานน์ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งโอลิมปิก ภายในพิพิธภัณฑ์มีการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และมีจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิกกว่า 510,000 ภาพ และคลิปวิดีโอที่ถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญของกิจกรรม และนักกีฬาที่มีชื่อเสียง อีกทั้งยังจัดแสดงอุปกรณ์กีฬาที่เคยใช้แข่งขันกว่า 10,000 ชิ้น เช่น คบเพลิง ถ้วยรางวัล ชุดกีฬา และมาสคอตทีเคยใช้ประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ ภายนอกของพิพิธภัณฑ์ยังมีสวนสาธารณะที่มีผลงานศิลปะเกี่ยวกับกีฬามากมาย ให้ท่านได้เดินชม และถ่ายรูปอีกด้วย

วันที่เดินทาง

7 เม.ย. 67 – 16 เม.ย. 67, 10 มี.ค. 67 – 19 มี.ค. 67, 25 เม.ย. 67 – 4 พ.ค. 67

ทัวร์ยุโรป

วันที่หนึ่ง กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบิน Emirates (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่สอง ดูไบ – มิลาน
02.00 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK377
06.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.05 น. ออกเดินทางจากต่อ สู่ประเทศอิตาลี โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK205
13.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร

จากนั้นเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Cardano Hotel Malpensa หรือเทียบเท่า

วันที่สาม มิลาน – กลาเซียร์ 3000 – โลซานน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโกล เดอ ปิยง (Col De Pillon) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองที่ตั้งของสถานีกระเช้าไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จุผู้โดยสารได้ถึง 125 คน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านขึ้นกระเช้ายักษ์ สู่ยอดเขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) ยอดเขาที่มีความสูง 3,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ให้ท่านได้รับชมทัศนียภาพอันสวยงาม กว้างไกลสุดสายตาของเทือกเขาแอลป์
ให้ท่านได้ท้าทายความสูงโดยการเดินบน “The Peak Walk by Tissot” สะพานแขวนที่มีความยาว 107 เมตร ข้ามหน้าผาที่ระดับความสูง 3,000 ซึ่งสามารถมองเห็นวิวยอดเขาต่างๆ ของสวิตเซอร์แลนด์อย่าง จุงเฟรา แมทเทอร์ฮอร์น และมองบลองก์ ได้อย่างชัดเจน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิส และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงเคยประทับและทรงศึกษาที่เมืองแห่งนี้อีกด้วย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Movenpick Hotel Lausanne หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ โลซานน์ – เข้าชมพิพิธภัณฑ์โอลิมปิก – เวเว่ย์ – มองเทรอซ์ – เข้าชมปราสาทชิลยอง – โลซานน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์โอลิมปิก (The Olympic Museum) อีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่พลาดไม่ได้ของเมืองโลซานน์ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งโอลิมปิก ภายในพิพิธภัณฑ์มีการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และมีจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายเกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิกกว่า 510,000 ภาพ และคลิปวิดีโอที่ถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญของกิจกรรม และนักกีฬาที่มีชื่อเสียง อีกทั้งยังจัดแสดงอุปกรณ์กีฬาที่เคยใช้แข่งขันกว่า 10,000 ชิ้น เช่น คบเพลิง ถ้วยรางวัล ชุดกีฬา และมาสคอตทีเคยใช้ประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ ภายนอกของพิพิธภัณฑ์ยังมีสวนสาธารณะที่มีผลงานศิลปะเกี่ยวกับกีฬามากมาย ให้ท่านได้เดินชม และถ่ายรูปอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่เมืองเวเว่ย์ (Vevey) คือเมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐโว ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ต่างก็ขนานนามให้เมืองเวเว่ย์ เป็น “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส”(Pearls of the Swiss Riviera) ที่แม้แต่ศิลปินตลกชื่อดังแห่งฮอลลีวู้ด “ชาลี แชปลิน” ยังหลงไหลและได้อาศัยอยู่ที่เมืองนี้ในบั้นปลายชีวิต ให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับส้อมยักษ์เมืองเวเว่ย์ (Fork of Vevey) สัญลักษณ์สำคัญของเมืองเวเว่ย์ เป็นส้อมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่ทะเลสาบเลอมอง มีความสูงประมาณ 8 เมตร ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปินสวิสชื่อ Jean-Pierre Zaugg เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปี ของพิพิธภัณฑ์ Alimentarium ที่จัดงานแสดงด้านอาหารและโภชนาการเมื่อปี 1995
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบเจนีวา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ด้วยบรรยากาศของเมืองที่ไม่พลุกพล่านและตัวเมืองที่สามารถเมืองเห็นเทือกเขาแอลป์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า แถมยังล้อมรอบด้วยไร่ไวน์ ทำให้มองเทรอซ์ ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส และนับเป็นเมืองพักตากอากาศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย จากนั้นนำท่านเข้าชมปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี อิสระให้ทุกท่านได้เดินชมความสวยงามของทิวทัศน์ของบ้านเรือนริมทะเลสาบของเมืองมองเทรอซ์
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองโลซานน์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Movenpick Hotel Lausanne หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า โลซานน์ – เข้าชม Maison Cailler – กรุยแยร์ – เบิร์น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม Maison Cailler โรงงานผลิตและจำหน่ายช็อกโกแลตยี่ห้อ “Cailler” ที่ผลิตช็อกโกแลตสวิสแสนอร่อยรสชาติเข้มข้น ที่ผลิตจากเมล็ดโกโก้ชั้นยอด นมสดจากฟาร์มโคนมในท้องถิ่น และส่วนผสมคุณภาพสูง โดยไม่ปรุงแต่งรส สี สารให้ความหวาน หรือสารกันบูดสังเคราะห์ เพื่อให้ได้ช็อคโกแลตชั้นเลิศที่ดีที่สุด ทำให้ Cailler เป็นหนึ่งในแบรนด์ช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ และเก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้แบรนด์ Cailler เป็นผู้ริเริ่มทำ Milk Chocolate หรือช็อกโกแลตผสมนมขึ้นเป็นรายแรกอีกด้วย ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับเรื่องราวของช็อกโกแลต ภายในพิพิธภัณฑ์ของ Maison Cailler ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา การคัดสรรวัตถุดิบ กระบวนการผลิตตั้งแต่อดีตจนเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัยในปัจจุบัน และเบื้องหลังบางส่วนของโรงงานจริง ให้ท่านได้เห็นวิธีการผลิตช็อกโกแลตแบบสดๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงศิลปะจากช็อกโกแลต ให้ท่านได้ถ่ายรูป รวมถึงท่านจะได้ลิ้มรส และดื่มด่ำไปกับรสชาติอันหลากหลายที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่เมืองกรุยแยร์ (Gruyères) เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่กลางหุบเขาทางฝั่งตะวันตกของสวิส มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ตั้งแต่สมัยยุคกลาง เมืองนี้มีชื่อเสียงด้านการทำชีสกรุยแยร์ โดยมีโรงงานชีสชื่อดัง La Maison du Gruyeres ตั้งอยู่ตรงสถานีรถไฟ อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติอันงดงามในเมืองเล็กๆ แห่งนี้

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ชีสฟองดูว์)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านนั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์กาสเซ(Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี

ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Holiday Inn Bern Westside หรือเทียบเท่า

วันที่หก เบิร์น – อินเตอร์ลาเคน – ลูเซิร์น – ซุก – ทิทิเซ่
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ มีความสำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอลันด์ มีภาพของยอดเขาจูงเฟราเป็นฉากหลัง อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง สัมผัสบรรยากาศ และธรรมชาติแบบสวิสในเมืองเล็กๆ ที่น่ารักแห่งนี้

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน แบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาของสวิตเซอร์แลนด์ ที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกาที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่(Titisee) เมืองริมทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ (Black Forest) ให้ท่านได้อิสระชมความงามของบ้านเรือน ชมทัศนียภาพของทะเลสาบที่มีฉากหลังเป็นป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู ให้ท่านได้มีโอกาสชิมเค้กแบล็กฟอเรสอันขึ้นชื่อ ณ เมืองต้นตำรับตามอัธยาศัย และเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองไฟบูร์ก (Freibourg)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก FOURSIDE HOTEL FREIBURG หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด ไฟบูร์ก – ทิทิเซ่ – เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ – มิวนิค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน ***

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก NH Munchen Ost Conference Center หรือเทียบเท่า

วันที่แปด มิวนิค – ฮัลสตัท – ล่องเรือชมทะเลสาบฮัลสตัท – เวียนนา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปลาจากทะเลสาบ)
บ่าย จากนั้นนำท่านล่องเรือทะเลสาปฮัลสตัท และชมความสวยงามของเมืองฮัลสตัทที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น UNESCO WORLD HERITAGE VIEW ***การล่องเรือ หากไม่สามารถล่องเรือได้ในวันนั้นๆ ทางบริษัทขอคืนเงินให้ ท่านละ 5 ยูโร*** อิสระให้ท่านเดินเล่นชมความสวยงามของเมืองและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Quality Hotel Vienna หรือเทียบเท่า

วันที่เก้า เวียนนา – Parndof Outlet – สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20
นำท่านสู่ย่านถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ (Swarovski Kristallwelten) สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ ,นาฬิกา หรือ ของใช้ ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
17.30 น. ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
21.55 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK126

วันที่สิบ ดูไบ – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
06.35 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น. ออกเดินทางต่อจากสนามบินดูไบ กลับประเทศไทย
โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK372
18.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป