1.แบนเนอร์ BIG WONDERFUL TURKIYE 8D5N by TG

ทัวร์ตุรกี WONDERFUL TURKIYE 8วัน/5คืน (TG)

ราคาเริ่มต้น 75,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg

ประเทศตุรเคีย…นำท่านเที่ยวชม 3 มหาอาณาจักรอันยิ่งใหญ่
บนแผ่นดินของ 2 ทวีป ชมมหัศจรรย์มรดกจารึกโลกทั้ง 4 แห่ง
ประเทศที่มีผู้อยู่อาศัยมาตั้งแต่ยุคหินเก่ามีอารยธรรมอนาโตเลียโบราณต่างๆเอโดเลีย โดเรียน และ กรีกไอโอเนีย เทรซ อาร์มีเนีย และ เปอร์เซีย

วันที่เดินทาง

11 เม.ย. 67 – 18 เม.ย. 67

11 เมษายน 2567 (1) กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิฯ) – กรุงอิสตันบูล
22.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น4 ประตูหมายเลข 3-4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
12 เมษายน 2567 (2) กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิฯ) – กรุงอิสตันบูล (บินภายใน) – กรุงเคย์เซอรี่ – เมืองเกอเรเม-พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม – โรงงานเซรามิก – นครใต้ดิน – หุบเขานกพิราบ – โรงงานพรม – โรงงานเพชร – โรงงานเครื่องปั้นดินเผา – หมู่บ้านโบราณอุชิซาร์ – คัปปาโดเกีย
00.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG900
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง)

06.05 น. เดินทางถึงสนามบิน กรุงอิสตันบูล Istanbul (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง) หลังจากนั้นนำท่านแวะเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อ สู่กรุงเคย์เซอรี่
08.35 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเคย์เซอรี่ โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2026
10.05 น. เดินทางถึงสนามบิน กรุงเคย์เซอรี่ หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน และหิมะได้เป็นกัดเซาะแผ่นดิน มาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงาม แปลกตาและน่าอัศจรรย์ ดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี
นำท่านออกเดินทาง สู่เมืองเกอเรเม (Goreme) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ได้รับการประกาศว่าเป็นศาสนาของจักรวรรดิ ที่จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนสถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้
นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (Goreme Open Air Museum) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุด
ถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์

จากนั้นนำท่านเข้าชมโรงงานเซรามิค (Pottery at Avanos Village) คุณภาพดีของประเทศตุรกี
นำท่านชม นครใต้ดิน Underground City เป็นสิ่งน่าอัศจรรย์อย่างหนึ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไปหลายๆชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูในช่วงสงคราม นครใต้ดินมีพร้อมทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ บ่อน้ำ คอกสัตว์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
จากนั้นนำท่านเข้าชมโรงงานพรม (Carpet Factory) ตุรกีถือว่ามีชื่อเสียงเรื่องพรม พรมส่วนใหญ่ที่ผลิตในตุรกีนั่นมีชื่อเสียงเลื่องลือระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นพรมที่ทอจากขนสัตว์ หรือพรมที่ทอจากฝ้าย และพรมที่ทอจากไหม แล้วนำท่านชมโรงงานเพชร ที่มีชื่อเสียงของประเทศตุรกี อาทิเช่น เทอควอย อาร์เทมิส เพชร และพลอย ที่ถูกออกแบบมาอย่างปราณีตและยังมีความโดดเด่นให้ท่านได้เลือกชมและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานเครื่องปั้นดินเผา สินค้าขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของประเทศตุรกี ด้วยประวัติอันยาวนานและกรรมวิธีการผลิตที่ประณีตสวยงาม ทำให้เครื่องปั้นดินเผาของเมืองคัปปาโดเกียกลายเป็นของฝากที่นิยมซื้อให้กันอันดับต้นๆ ของประเทศตุรกีเลยก็ว่าได้
นำท่านแวะถ่ายรูป หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) จุดชมวิว ณ หุบเขานกพิราบ Pigeon Valley หน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย ณ จุดนี้ ท่านจะสามารถมองเห็น ปราสาทอุชิซาร์ (Uchisar Castle) ได้ในระยะไกล ที่นี่จะมีนกพิราบมากมาย ที่ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบ เพื่อนำอึ มาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้
นำท่านแวะถ่ายรูปหมู่บ้านโบราณอุชิซาร์(Uchisar Town) เป็นเมืองเล็ก ๆ แต่มีภูเขาหินขนาดมหึมาอยู่บนเขากลางเมือง ถูกขุดสกัดเป็นปราสาทขนาดใหญ่ มีช่องหน้าต่างมากมายจนดูคล้ายรวงผึ้ง วิวจากด้านบนสามารถมองลงไปเห็นหุบเขาเบื้องล่างได้รอบทิศ ที่นี่สามารถสัมผัสถึงวิถีชีวิตของผู้คนจริงที่อยู่อาศัยในบ้านที่ขุดเข้าไปในภูเขาที่ดูเหมือนจอมปลวก จนเรียกได้ว่าเป็นบ้านจอมปลวก ในสภาพแวดล้อมเดิมมายาวนานหลายร้อยปี
นำท่านเข้าสู่ที่พัก UCHISAR KAYA HOTEL (โรงแรมถ้ำ) หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
หมายเหตุ ในกรณีโรงแรมถ้ำเต็ม ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว แทน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)
13 เมษายน 2567 (3) เมืองคัปปาโดเกีย –เมืองคอนย่า – คาราวานสไลน์-เมืองปามุคคาเล่
**สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูน เมืองคัปปาโดเกีย ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมเป็น UNESCO อีกด้วย ชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย จะต้องออกจากโรงแรม 04.30 น.ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง โดยต้องมีอายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป
(ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ (ราคา USD 280 ต่อ 1 ท่าน)** หากท่านสนใจ สามารถสอบถามราคาได้จากหัวหน้าทัวร์ ก่อนชำระเงิน ***

สำหรับท่านที่ซื้อ Option Balloon แถมฟรี!! ให้ท่านถ่ายรูปกับรถเปิดประทุนสุดคลาสสิค!! Classic Car พร้อมวิวด้านหลังเป็นวิวบอลลูนสีสันสดใส โรแมนติกมาก ๆ แนะนำเลย เรียกได้ว่าเป็น Unseen ของที่นี่เลย

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
จากนั้นนำท่านออกนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี ***ระหว่างทางแวะถ่ายรูปด้านนอก*** ”คาราวานสไลน์” ที่พักกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี (Sultan Han Caravanserai) ตั้งอยู่ที่
หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) (ใช้เวลาเดินทาง 4.50 ชั่วโมง) เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ปามุกคาเล่แห่งเมืองเฮียราโพลิส ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล่ โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน์
นำท่านเข้าสู่ที่พัก PAM THERMAL HOTEL 5* มาตรฐานของประเทศตุรกี (คืนที่ 2)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)

14 เมษายน 2567 (4) ปามุคคาเล่ – ปราสาทปุยฝ้าย – เมืองโบราณเฮียราโพลิส –
คุซาดาสึ – โรงงานเครื่องหนัง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) หรือปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ในภาษาตุรกี เกิดจากน้ำแร่ร้อนที่มีแร่ธาตุแคลเซี่ยม คาร์บอเนต มาตกตะกอน เกิดเป็นลักษณะหน้าผา ซ้อนกันเป็นชั้นน้ำตก มีสีขาวคล้ายกับสร้างมาจากปุยฝ้าย ซึ่งน้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ย้อยเป็นรูปร่างต่างๆอย่างสวยงามและน่าอัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิตั้งแต่ประมาณ 35 – 100 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองเฮียราโพลิสล้อมรอบซึ่งใช้เป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก
นำท่านชมเมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโพลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (10)
บ่าย จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาสี (Kusadasi) (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง) เมืองริมทะเล
ที่พักต่างอากาศที่ขึ้นชื่อของประเทศตุรกีที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศ ในช่วงฤดูร้อนชาวตุรกีมักจะมาล่องเรือชมทะเลสีฟ้าสวย และนอนอาบแดดริมชายหาดที่นี่
จากนั้นนำท่านสู่ โรงงานเครื่องหนัง คุณภาพเยี่ยมของประเทศตุรกี ที่สินค้าแบรนด์เนมดังๆ จากทั่วโลก มักจะส่งมาให้โรงงานในตุรกีผลิต อาทิเช่น Versace, Micheal Kors และแบรนด์ดังอื่นๆ อีกมากมาย
นำท่านเข้าสู่ที่พัก LE BLEU HOTEL 5* มาตรฐานของประเทศตุรกี (คืนที่ 4)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (11)

15 เมษายน 2567 (5) เมืองคุซาดาสึ – เมืองโบราณเอเฟซุส – ห้องสมุดเซลซุส
กรุงทรอย – เมืองชานัคคาเล
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (12)
นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองโบราณเอเฟซุส (City of Ephesus) ที่ยิ่งใหญ่และงดงามจนกระทั่งจารึกว่า “มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซีย” เมืองโบราณที่สมบูรณ์และมั่งคั่งที่สุด ถนนทุกสายปูด้วยหินอ่อน ชมห้องสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรียและตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา
แวะชมโรงละครเอเฟซุส ซึ่งจุคนได้ประมาณ 30,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ ชมโบสถ์นักบุญเซนต์ จอห์น (Basilic of St. John) สาวกของพระเยซูคริสต์ที่ออกเดินทางเผยแพร่ศาสนาไปทั่วดินแดนอนาโตเลียหรือประเทศตุรกีในปัจจุบัน
นำท่านเดินทางสู่เมืองทรอย (Troy) (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.) ปัจจุบันกรุงทรอยตั้งอยู่ในเมืองชานัคคาเล่ (Canakkale) ประเทศสาธารณรัฐตุรกี ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง บริเวณกรุงทรอย มีการจัดแสดงแบบจำลองกรุงทรอย และเรื่องราวการค้นพบโดยนักโบราณคดี พร้อมทั้งภาพแผนผังเมืองทรอยที่ถูกสร้างซ้อนทับกันถึง 9 ชั้น มีซากเมืองเก่า กำแพง ประตู และม้าไม้จำลองแห่งทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณโดยเป็นสาเหตุทำให้กรุงทรอยแตก ชมม้าไม้จำลองแห่งทรอย (Trojan Horse)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (13)
จากนั้นนำนำท่านเดินทางไปยัง เมืองชานัคคาเล ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าตลอดจนชุมทางการเดินรถ และขนถ่ายสินค้าจากเอเชียสู่ยุโรป นับตั้งแต่สุลต่านอาห์เม็ดที่ 2 ได้สร้างป้อมปราการขึ้นที่นี่เมื่อปี 1452 เมืองชานัคคาเล่ในอดีตเป็นที่ตั้งของสมรภูมิรบกัลลิโปลี สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรต้องการรุกคืบหน้า เข้าไปยังช่องแคบคาร์ดาแนลส์ เพื่อบีบให้ตุรกีถอนตัวออกจากสงครามโลก
นำท่านเข้าสู่ที่พัก KOLIN HOTEL 5* มาตรฐานของประเทศตุรกี (คืนที่ 5)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (14)
16 เมษายน 2567 (6) เมืองชานัคคาเล – เมืองอิสตันบูล – ล่องเรือผ่านช่องแคบบอสฟอรัส พระราชวังโดลมาบาเช่ – สไปซ์ มาร์เก็ต
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (15)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) (ใช้เวลาเดินทาง 4.30 ชั่วโมง) เมืองสำคัญอันดับ
1 ของประเทศ เมืองมนต์เสน่ห์แห่งอายรธรรมอันเก่าแก่ซึ่งเหมือนนี้เปรียบเสมือน พรมแดนของทวีปยุโรปอันสวยงาม และอดีตยังเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันตะวันออกที่เคยรุ่งเรืองกว่า 1,000 ปี ซึ่งเรารู้จักในนาม “กรุงคอนสแตนติโนเปิล” เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกีตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus) ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่ง
อนาโตเลีย) ซึ่งในอดีต อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเพื่อนำท่านล่องเรือชมความงดงามสุดเกินจะบรรยายของ ช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise Tour) ที่เชื่อมทะเลดำและทะเลมาร์มาราเข้าด้วยกัน และที่สำคัญช่องแคบแห่งนี้ เป็นช่องแคบพรมแดนกั้นระหว่าง ทวีปเอเชีย และ ทวีปยุโรป ซึ่งทั้ง 2 ฝั่งท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงาม สองฝั่งทวีป คือ ยุโรป และ เอเชีย มีพระราชวังสำคัญๆ อยู่ริมแม่น้ำมากมาย รวมถึงสถาปัตยกรรมในยุคโรมัน ที่รายล้อมริมสองฝั่งแคบ ซึ่งทุกท่านถือเป็นประวัติศาสตร์ของชีวิตที่ได้มีโอกาสมาล่องเรือในช่องแคบที่แบ่งเส้นพรมแดนทวีปในครั้งนี้

นำท่านเดินทางสู่“พระราชวังโดลมาบาเช่”(DOLMABACHE) พระราชวังที่สวยงามตามสไตล์ตะวันตก มีการกล่าวว่า ในช่วงสุดท้ายของอาณาจักร ออตโตมัน มีการปรับตัวให้ทันสมัยมากขึ้น จึงมีการก่อสร้างพระราชวัง สไตล์ตะวันตก คล้ายๆพระราชวังแวร์ซายย์ในฝรั่งเศส และมีการประดับประดาอย่างชนิดหรูหรามากมาย โดยเฉพาะมีแชนเดอเลีย ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แขวนอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ และ ประกอบกับพระราชวังแห่งนี้ อยู่ริมช่องแคบ บอสฟอรัส จึงมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น และ มีการเพิ่มเติมในการจัดสวนแบบสไตล์ตะวันตก จึงถือว่าเป็นพระราชวังอีกแห่งในทวีปยุโรป ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างถึง 12 ปีผสมผสานศิลปะแบบพระราชวังยุโรปกับแบบอาหรับสวยงามอย่างสวยงาม ชมโคมไฟระย้าขนาดใหญ่น้ำหนักถึง 4.5 ตัน เครื่องแก้วเจียระไน และพรมทอมือผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (16)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สไปซ์ มาร์เก็ต ตลาดเครื่องเทศ เป็นตลาดพื้นเมืองของชาวเมือง
อิสตันบูล ที่มีเครื่องเทศอันลือชื่อและ นอกจากนั้น ยังมีอาหารขึ้นชื่อ และ ของฝากมากมาย เช่น ถั่วสารพัดชนิด, น้ำผึ้ง,ไข่ปลาเวียร์ , ขนม อร่อยๆ แบบ เตอร์กิชดีไลท์ เป็นต้น นอกจากช็อปปิ้งสนุก ขนมอร่อยแล้ว การได้มาถ่ายรูปที่ตลาดแห่งนี้ถือว่าได้บรรยากาศที่สนุกสนานมาก เพื่อหาเลือกซื้อสินค้าคุณภาพราคาถูกมากมายโดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปต่างๆ มากมายทีนักท่องเที่ยวนิยมไปเยือน มีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิ เตอร์กิส ดีไลท์ เป็นต้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (17)
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ROYAL STAY PALCE HOTEL 5* มาตรฐานของประเทศตุรกี (คืนที่6)
17 เมษายน 2567 (7) เมืองอิสตันบูล – ฮิปโปโดม – มัสยิดสีน้ำเงิน – วิหารเซนต์โซเฟีย
พระราชวังทอปกาปึ – สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (18)
นำท่านเดินทางเที่ยวชม “ฮิปโปโดม” (HIPPODOME) สร้างในสมัยจักรพรรดิเซ็ปติมุส เซเวรุส เป็นสนามอาเรน่าที่ใช้สำหรับการแข่งม้าศึกในยุคโรมันที่วางรูปแบบไว้อย่างสวยงาม และกิจกรรมต่างๆสามารถจุผู้คนได้กว่า 100,000 คน ในฮิปโปโดรมมีอนุสาวรีย์เด่นๆสามแห่งคือ 1.เสาโอบีลิสก์ฟาโรห์ธุตโมส (Obelisk of Pharaoh Thutmose) ซึ่งคอนคอนสแตนตินมหาราชนำมาจากเมืองคาร์นัคประเทศอียิปในสมัยที่มีการขนย้ายอนุสาวรีย์ต่างๆมาจากอาณาจักรยุคโบราณ 2.เสางู (Serpentine column) สลักเป็นรูปสามเหลี่ยมตัวกระหวัดรัดพันกันเดิทตั้งอยู่ที่วิหารเทพอพอลโล่แห่งเมืองเดลฟี 3.เสาคอลัมน์คอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.940 แต่ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัด
นำท่านเที่ยวชม “มัสยิดสีน้ำเงิน” (BLUE MOSQUE) เพื่อความยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรออตโตมัน หรือ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque)อันเก่าแก่และยิ่งใหญ่ในกรุงอิสตันบูลประเทศตุรกี ซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยกาหลิบ Ahmed I ยุค จักรวรรดิ์อ๊อตโตมาน ระหว่างปี 1609-1616 เป็นมัสยิดที่โอ่อ่า สง่างาม เกินคำบรรยาย ด้วยการสร้างหออะซานจำนวน 6 หอ จนเป็น
ส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์สำคัญของตุรกีซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่พลาดที่จะต้องไปเยือน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วิหารเซนต์โซเฟีย(ST.SOPHIA)ชมศิลปะประยุกต์ไบเซนต์ไทน์ ที่เคยเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์มาก่อน และ กลายมาเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลาม ซึ่งถือเป็นศิลปะที่
เก่าแก่และสวยงามยิ่ง และ ยังเป็นมรดกโลกอีกด้วย **พิเศษ ชมเทศกาลทิวลิปหนึ่งปีมีครั้งเดียวเท่านั้น**
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (19)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “พระราชวังทอปกาปี” (TOPKAPI PALACE) ที่มีชื่อเสียงก้องโลก ซึ่งถือว่าเป็น พระราชวังสำคัญในสมัย ออตโตมัน เป็นที่ประทับของสุลต่านองค์สำคัญๆ ซึ่งบรรยากาศของพระราชวังกว้างใหญ่ไพศาลอยู่ในดงต้นมะกอก และตั้งอยู่ริมช่องแคบ บอสฟอรัส ท่านจะได้ชมห้องต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นการให้เห็นภาพย้อนยุคในสมัยออตโตมัน และ พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บรวบรวมสมบัติโบราณของประเทศตุรกี รวมทั้งเครื่องกระเบื้องเคลือบอันสวยหรู มงกุฏเพชรประจำราชวงศ์ และ อัญมณีทรงค่ารวมทั้งเพชร 88 กะรัต ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ก่อนนำท่านสู่ จุดถ่ายภาพที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของวิวริมช่องแคบบอสฟอรัส
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินกรุงอิสตันบูล
16.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG901

18 เมษายน 2567 (8) สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ)
06.05 น. เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพฯ… โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ