แบนเนอร์บทความ

ทัวร์ยุโรป /

9 ของกินประจำตลาดคริสต์มาสยุโรปที่คุณต้องลอง! สัมผัสความมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวที่ห้ามพลาด

ช่วงปลายปีคือฤดูแห่งความสุขและมนต์เสน่ห์ของ ตลาดคริสต์มาสยุโรป (Christmas Market) ที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ เสียงเพลงคริสต์มาส และกลิ่นหอมกรุ่นของเครื่องเทศและขนมอบ! และสิ่งที่ “พลาดไม่ได้เลย” หัวใจสำคัญของตลาดเหล่านี้คือ ของกินประจำตลาดคริสต์มาส ที่ทั้งอร่อย อบอุ่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะฤดูกาล หากคุณกำลังวางแผนเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศในฝันนี้ นี่คือ 9 เมนูเด็ดที่ Planetholidays รับรองว่า "ต้องลอง" เพื่อให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด!   1. Glühwein (กลูไวน์): ไวน์ร้อนเพื่อคลายหนาว     ไม่มีอะไรบ่งบอกถึงตลาดคริสต์มาสได้ดีเท่า Glühwein อีกแล้ว เครื่องดื่มซิกเนเจอร์จากเยอรมนีนี้คือ ไวน์แดงร้อน ที่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศคริสต์มาสแบบดั้งเดิม เช่น อบเชย กานพลู โป๊ยกั๊ก และเปลือกส้ม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมเครื่องเทศ อาจจะมีสูตรไม่เหมือนกันในแต่ละร้าน มีใส่ผลไม้สดอย่างส้มหรือแอปเปิ้ลลงไปเพิ่มรสหวานและกลิ่นหอมสดชื่นและมีแอลกอฮอล์เบา ๆ คือกลิ่นคริสต์มาสจริงๆ! จิบไปเดินไป รับรองอุ่นตั้งแต่คอถึงปลายเท้า         อยากได้เงินมัดจำคืน: ดื่มเสร็จแล้วเอาแก้วเปล่าไปคืนที่บูธเดิม หรือบูธที่มีป้าย "Pfandrückgabe"(คืนมัดจำ) คุณก็จะได้เงินคืนมา อยากเก็บแก้ว: เดินกลับบ้านพร้อมแก้วสวยๆ ได้เลย เท่ากับว่าคุณซื้อแก้วที่ระลึกในราคาค่ามัดจำนั่นเองค่ะ   2. Hot Chocolate (ฮอตช็อกโกแลต): เข้มข้น หวานมัน อุ่นใจ     สำหรับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรืออยากเติมความหวานแบบจัดเต็ม Hot Chocolate (Heisse Schokolade) คือคำตอบที่ใช่ที่สุด เป็นช็อกโกแลตเข้มข้น ร้อนๆ บางร้านคือทำจากช็อกโกแลตแท้ๆ ไม่ใช่ผงสำเร็จรูป และมักจะเสิร์ฟพร้อม วิปครีม ฟูๆ หรือ มาร์ชแมลโลว์ อร่อยฟินสุดๆ กลิ่นช็อกโกแลตร้อนที่ลอยอบอวลในอากาศหนาว ๆ นี่แหละคือความสุขง่าย ๆ ของตลาดคริสต์มาส   การสั่งก็ใช้ระบบมัดจำแก้วเหมือน Glühwein   3. Bratwurst (บรัทเวิร์สท): ไส้กรอกย่างในตำนาน     หากพูดถึง อาหารคริสต์มาสยุโรป แบบอิ่มท้อง Bratwurst คือราชา! นี่คือ ไส้กรอกเยอรมัน ย่างบนเตาถ่านจนส่งกลิ่นหอม หนังกรอบ เนื้อฉ่ำ โดยทั่วไปจะเสิร์ฟในขนมปังโรลขนาดเล็ก (Brötchen) พร้อมกับซอสมัสตาร์ดรสจัด หรือซอสมะเขือเทศเข้มข้น เสียง "ฉ่าาา" จากเตาและกลิ่นควันหอม ๆ

ทัวร์จอร์เจีย /

Gergeti Trinity Church โบสถ์สวยกลางขุนเขา…ดินแดนสวรรค์แห่งเทือกเขาคอเคซัส

  Gergeti Trinity Church โบสถ์สวยกลางขุนเขา...ดินแดนสวรรค์แห่งเทือกเขาคอเคซัส Planetholidays ขอพาคุณออกเดินทางสู่หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สวยงามที่สุดในจอร์เจีย กับการเยี่ยมชม Gergeti Trinity Church หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า Tsminda Sameba โบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 700 ปี ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาคาสเบก (Kazbegi) ที่ความสูง 2,170 เมตร จากระดับน้ำทะเล ด้วยทิวทัศน์อันงดงามที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาคอเคซัส ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางทั่วโลกที่ต้องการมาสัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมทางศาสนาไปพร้อมๆ กัน     ประวัติศาสตร์และความสำคัญ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยสถาปนิกผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เพื่อใช้เป็นศาสนสถานและที่เก็บรักษาวัตถุมงคลอันล้ำค่าของชาติ โดยเฉพาะ ไม้กางเขนของนักบุญนีโน (Saint Nino) ที่เชื่อกันว่าช่วยปกป้องชาวจอร์เจียจากภัยรุกรานต่างๆ ปัจจุบัน Gergeti Trinity Church ยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจและถูกใช้ประกอบพิธีทางศาสนาของคริสตจักรออร์โธด็อกซ์มาจนถึงทุกวันนี้   ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด...สวรรค์บนดินแดนแห่งขุนเขา 1. โบสถ์เก่าแก่กลางทุ่งหญ้าสีเขียว เมื่อเดินทางมาถึง คุณจะพบกับภาพอันน่าทึ่งของโบสถ์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มองลงไปเบื้องล่างคือ หมู่บ้านสเตปันต์สมินดา (Stepantsminda) หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า คาซเบก (Kazbegi) หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาที่ได้สมญานามว่า "ดินแดนแห่งสวรรค์" ด้วยอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และทัศนียภาพของทุ่งหญ้าสีเขียวที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาตัดกับท้องฟ้าสีคราม เป็นภาพความงามที่ยากจะลืมเลือน     2.ฉากหลังอันตระการตาของยอดเขา Kazbek โบสถ์ Gergeti Trinity Church ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขา Greater Caucasus ซึ่งเป็นแนวเทือกเขาสำคัญที่แบ่งระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ 360 องศาของเทือกเขาอันยิ่งใหญ่ที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี เช่น ยอดเขาเอลบรุส (Elbrus) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป และยอดเขา Kazbek อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์ เป็นจุดชมวิวที่นักเดินป่าและผู้รักธรรมชาติไม่ควรพลาด     3. สถาปัตยกรรมที่กลมกลืนกับธรรมชาติ แทนที่จะใช้สถาปัตยกรรมที่หรูหราอลังการเหมือนโบสถ์ในยุโรปหลายแห่ง Gergeti Trinity Church ถูกสร้างด้วยหินแกรนิตที่หาได้จากท้องถิ่น ทำให้ตัวโบสถ์ดูเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาและสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างเป็นธรรมชาติ     ภายในโบสถ์มีอะไรให้ดู? แม้ภายนอกโบสถ์จะดูยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม แต่ภายในกลับเรียบง่ายและสงบเงียบตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมจอร์เจียโบราณที่สร้างจากหินแกรนิต โดยเน้นความขลังและศรัทธาเป็นหลัก สิ่งที่คุณจะเห็นได้ภายในโบสถ์คือ แท่นบูชาอันศักดิ์สิทธิ์: ที่ถูกใช้ประกอบพิธีทางศาสนามาอย่างยาวนาน ภาพเขียนฝาผนัง: แม้จะหลงเหลืออยู่ไม่มากนัก แต่ภาพวาดโบราณเหล่านี้บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาและความเชื่อ บรรยากาศอันเงียบสงบ: ที่เปิดโอกาสให้คุณได้นั่งพักสงบจิตใจและสัมผัสถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของชาวจอร์เจีย   เที่ยวช่วงไหนดีที่สุด? ฤดูใบไม้ผลิ (พฤษภาคม-มิถุนายน): อากาศเย็นสบายกำลังดี เหมาะแก่การเดินป่าชมธรรมชาติ เพราะเป็นช่วงที่ดอกไม้บานสะพรั่งและภูเขากลับมาเขียวขจีอีกครั้ง ฤดูร้อน (กรกฎาคม-สิงหาคม): อากาศอบอุ่น แดดแรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวทิวทัศน์แบบชัดเจนไร้หมอก ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม): บรรยากาศเริ่มเย็นลงและสวยงามเป็นพิเศษ เพราะต้นไม้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทองและแดง

ทัวร์จีน /

ภูเขาสี่ดรุณี Siguniangshan เที่ยวช่วงไหนดี? ปักหมุดฤดูที่ใช่สำหรับคุณ

ภูเขาสี่ดรุณี หรือ อุทยานแห่งชาติภูเขาสี่ดรุณี (ซื่อกูเหนียง/Siguniang Shan 四姑娘山)  คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยที่สุดของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้รับสมญานามว่า “แอลป์แห่งตะวันออก” เพราะเต็มไปด้วยภูเขาหิมะ ทะเลสาบ และหุบเขาอันยิ่งใหญ่ บทความนี้ Planetholidays จะบอกถึงไฮไลท์ของแต่ละหุบเขา, วิธีเดินทาง, ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเที่ยว, ค่าใช้จ่าย, สภาพอากาศ และคำถามที่พบบ่อย ให้ทุกคน เตรียมตัวไปเที่ยวสี่ดรุณีได้ครบแบบไม่พลาดอะไรเลย     ตำนานของสี่ดรุณีเป็นเรื่องเล่าพื้นบ้านของชาวทิเบตที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้น โดยเชื่อว่าในอดีตกาล มียักษ์ที่ชั่วร้ายตนหนึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คน ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่อยู่อาศัยและอดอยาก ในยุคนั้น มีหญิงสาวพี่น้องสี่คนที่มีจิตใจงดงามและกล้าหาญ พวกเธอได้รวมพลังกันต่อสู้กับยักษ์ร้าย เพื่อปกป้องชาวบ้านและแผ่นดินเกิดของตนเอง ในที่สุด ยักษ์ชั่วร้ายก็พ่ายแพ้และถูกกำจัดลงได้ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ พี่น้องทั้งสี่ก็ไม่ได้กลับบ้าน พวกเธอตัดสินใจที่จะยืนหยัดปกป้องดินแดนแห่งนี้ตลอดไป ร่างของพวกเธอจึงค่อยๆ กลายร่างเป็นภูเขาหินสี่ลูกที่ยิ่งใหญ่     พี่สาวคนโต (Da Niu Feng 大姑娘峰) – สูงราว 5,355 เมตร แข็งแกร่งดังผู้นำครอบครัว พี่สาวคนรอง (Er Niu Feng 二姑娘峰) – สูงราว 5,454 เมตร อ่อนโยนและสง่างาม พี่สาวคนสาม (San Niu Feng 三姑娘峰) – สูงราว 5,664 เมตร เปี่ยมด้วยเสน่ห์และความอบอุ่น น้องสาวคนเล็ก (Yaomei Feng 幺妹峰) – สูงถึง 6,250 เมตร และเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชินีแห่งภูผา” ด้วยรูปลักษณ์สูงชะลูดและงดงามที่สุดในบรรดาสี่พี่น้อง หุบเขาทั้ง 3 ได้แก่ ซวงเฉียวโกว ฉางผิงโกว และไห่จื่อโกว เป็นเส้นทางที่ถูกพัฒนาและจัดการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยมีกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ซวงเฉียวโกว: สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ต้องการความสะดวกสบาย มีรถบัสบริการ ฉางผิงโกว: สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินป่าระดับกลาง ไห่จื่อโกว: สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการผจญภัยและปีนเขาระยะไกล ส่วนยอดเขา ซื่อกูเหนียง (Siguniang) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด (6,250 เมตร) และเป็นยอดเขาหลักของอุทยานแห่งนี้

ทัวร์เวียดนาม /

หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) สัมผัสวิถีชีวิตชาวม้งและธรรมชาติที่สวยงามแห่งซาปา เวียดนามเหนือ

  หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) หมู่บ้านเก่าแก่ของชนเผ่าม้ง ใน ซาปา ประเทศเวียดนาม ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้อย่างงดงาม ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติรายล้อม ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งนาขั้นบันไดสีเขียวสด น้ำตกใสกลางหุบเขา บ้านไม้พื้นเมือง และงานหัตถกรรมพื้นบ้าน ล้วนสร้างเสน่ห์ที่ทำให้ที่นี่กลายเป็น “แลนด์มาร์คที่ต้องไปให้ได้” ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเวียดนามเหนือ และในบทความนี้ PlanetHolidays จะมานำเสนอ หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต แบบเจาะลึก ทั้งประวัติความเป็นมา ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด และสิ่งที่ควรรู้ก่อนวางแผนเดินทาง เพื่อให้ทุกคนได้เก็บรายละเอียดครบก่อนออกเดินทางจริง ใครที่กำลังมองหาแพ็กเกจทัวร์ซาปาที่สะดวก ครบทุกมุมไฮไลต์     ประวัติความเป็นมาและที่มาของชื่อ หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) ตั้งอยู่ที่อำเภอซาปา จังหวัดลาวไค ประเทศเวียดนามเหนือ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของ ชนเผ่าม้งดำ (H’Mong) ที่สืบทอดวิถีชีวิตดั้งเดิมมาอย่างยาวนาน คำว่า “กั๊ตกั๊ต” มาจากเสียงน้ำตกที่อยู่ในหมู่บ้าน เมื่อฟังดูคล้ายเสียง “กั๊ต กั๊ต” จึงกลายเป็นชื่อเรียกหมู่บ้านในเวลาต่อมา   ไฮไลต์และจุดเด่นที่ไม่ควรพลาด 1. น้ำตกกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Waterfall) น้ำตกที่ไหลลงมาจากภูเขาสูงกลางหุบเขา เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะถ่ายรูป เสียงน้ำตกที่กระทบหินสร้างบรรยากาศสดชื่นตลอดทั้งปี ช่วงฤดูฝนสายน้ำจะไหลแรงและสวยงามมาก เหมาะแก่การถ่ายภาพวิวพาโนรามา       2. กังหันน้ำโบราณ หนึ่งในเอกลักษณ์ของหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต คือ กังหันน้ำที่ทำจากไม้และไผ่ ซึ่งชาวม้งสร้างขึ้นเพื่อใช้ทดน้ำเข้าสู่พื้นที่เพาะปลูก กังหันเหล่านี้หมุนอยู่กลางสายน้ำ สร้างภาพที่งดงามและแสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างน่าทึ่ง นักท่องเที่ยวมักนิยมถ่ายรูปคู่กับกังหันน้ำ เพราะถือว่าเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่     3. บ้านเรือนและวิถีชีวิตดั้งเดิม หมู่บ้านเต็มไปด้วยบ้านไม้แบบดั้งเดิมของชนเผ่าม้งดำ ภายในบ้านบางหลังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมการทอผ้า การทำเครื่องเงิน และการประกอบอาหารแบบท้องถิ่น คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี       4. การแสดงวัฒนธรรมม้ง ในบางช่วงเวลา จะมีการแสดงการฟ้อนรำ ดนตรี และการละเล่นของชนเผ่าม้ง ที่แต่งกายด้วยชุดสีสันสดใสประดับลายปักประณีต เสียงเพลงพื้นเมืองและการเต้นรำจะทำให้คุณได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็นชนเผ่าแท้ ๆ     5. สะพานแขวน เส้นทางเดินเที่ยวรอบหมู่บ้านจะพาคุณข้ามสะพานแขวนที่ทอดผ่านลำธารเบื้องล่าง เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่หลายคนบอกว่า “มาแล้วเหมือนอยู่ในโปสการ์ด”       6. สินค้าหัตถกรรมและของฝาก หมู่บ้านกั๊ตกั๊ตขึ้นชื่อเรื่อง งานหัตถกรรมทอผ้า เครื่องเงิน และผ้าปักลวดลายชนเผ่า แต่ละชิ้นใช้เวลาทำอย่างประณีต สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือสะสมเป็นของที่ระลึกได้ และยังเป็นการช่วยสนับสนุนรายได้แก่ชุมชนท้องถิ่นด้วย       7. วิวทุ่งนาขั้นบันไดและภูเขาสูง หนึ่งในภาพที่สวยที่สุดของหมู่บ้าน คือวิว ทุ่งนาขั้นบันได ที่โอบล้อมด้วยภูเขาสูง โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว (ก.ย.–พ.ย.) จะได้เห็นทุ่งข้าวสีเหลืองทองอร่ามเต็มหุบเขา เป็นภาพที่นักถ่ายภาพและนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติห้ามพลาด         ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับไปเที่ยวหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต การมาเที่ยว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) สามารถมาได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ใครที่วางแผนมาซาปา ควรเลือกช่วงเวลาให้เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวที่ชอบ

ทัวร์มาเก๊า /

ที่เที่ยวมาเก๊า เสริมพลังชีวิต รับพลังบวก เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทอง ฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในเมือง

  สำหรับปี 2025 นี้ เทรนด์การท่องเที่ยวแนว สายมู และการเดินทางเพื่อเปิดรับ พลังงานบวก กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก การเดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในต่างประเทศไม่ได้เป็นเพียงแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นความเชื่อที่ว่า การเปลี่ยนสถานที่ใหม่ๆ จะช่วยเปิดมุมมองและเติมเต็มพลังชีวิตให้กลับมาสดใสอีกครั้ง และเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเพื่อเสริมดวงโดยเฉพาะ Planetholidays จึงขอแนะนำจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่จะช่วยเติมพลังและเสริมโชคลาภให้ชีวิตของคุณได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิกัดรับโชค-เสริมพลังงานชีวิตใหม่ ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในจีนตอนใต้ ที่นักเดินทางสายมูต้องห้ามพลาด!     “เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทองริมทะเล” Kun Iam Ecumenical Centre พิกัดฮวงจุ้ยสุดปังแห่งมาเก๊า องค์เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทองแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาริมทะเล มาเก๊า รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่รัฐบาลโปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพก่อนการส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับประเทศจีนในปี 1999 ลักษณะ: รูปปั้นมีความสูง 20 เมตร และมีน้ำหนัก 50 ตัน จุดเด่น: มีลักษณะที่ผสมผสานระหว่างสไตล์จีนและยุโรป โดยมีใบหน้าคล้ายกับพระแม่มารี ความหมาย: องค์เจ้าแม่หันหน้าเข้าหาเมืองเพื่อปกป้องคุ้มครองชาวมาเก๊า ส่วนฐานรูปปั้นทำหน้าที่เป็นศูนย์ส่งเสริมศาสนา ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับพุทธศาสนาและปรัชญาตะวันออก   และได้รับการยกย่องว่า "มีฮวงจุ้ยดีที่สุด" ตามหลักจีนโบราณ เพราะได้รับการวางตำแหน่งจากซินแสชื่อดังจากมาเก๊าให้เป็นศูนย์รวมพลังบวกอย่างแท้จริง ด้านหลังองค์เจ้าแม่: หันเข้าสู่เมืองจูไห่ ซึ่งหมายถึง "การเฝ้าคุ้มครอง" ผู้คนในเมืองให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติและสิ่งไม่ดี ด้านหน้าองค์เจ้าแม่: หันออกสู่ทะเลจีนใต้ เป็นเสมือนประตูโชคลาภที่เปิดรับพลังจักรวาลอันกว้างใหญ่ให้หลั่งไหลเข้ามา   ด้วยเหตุนี้เอง ชาวจีนจึงเชื่อว่า หากได้มากราบไหว้เจ้าแม่กวนอิม ณ จุดนี้ จะช่วยเสริมชีวิตให้มั่นคง ปัดเป่าพลังลบ และเปิดทางให้กับการเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน, ความรัก, หรือโชคลาภ     ตามหาเลข 8 แห่งโชคลาภ! นอกเหนือจากความศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่ยังแฝงด้วยพลังแห่ง "ความมงคล" เพราะมีการออกแบบ "เลข 8" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ความมั่งคั่ง โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง ไว้ตามจุดต่างๆ ขององค์เจ้าแม่ และหากเดินทางมากับ แพลนเนทฮอลลิเดย์ ไกด์จะช่วยแนะนำ 3 จุดสำคัญที่ต้องตามหาเลข 8 ให้ครบเพื่อเปิดพลังเสริมดวงตลอดปี จุดที่ 1: ทางเข้า จุดเริ่มต้นของการเดินทางเข้าสู่องค์เจ้าแม่ มีการตกแต่งด้วยเลข 8 ที่สื่อถึงการเปิดรับพลังงานดีเข้าสู่ชีวิต จุดที่ 2: อาคารดอกบัว อาคารสำคัญภายในบริเวณวัดที่ออกแบบด้วยสัญลักษณ์เลข 8 บนผนังและเสา เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงและความสงบ จุดที่

ทัวร์จีน /

10 ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ 2568 ที่ต้องไปให้ได้! สายเที่ยว สายถ่ายรูป ห้ามพลาด

  เซี่ยงไฮ้ เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของจีน ที่รวมทุกความหลากหลายไว้ในที่เดียว มหานครแห่งนี้เต็มไปด้วยความโดดเด่น — ทั้งตึกระฟ้าสุดล้ำ สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปริมแม่น้ำ ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ไปจนถึงแลนด์มาร์คเปิดใหม่ที่คนทั่วโลกต้องแวะ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเที่ยว สายถ่ายรูป สายคาเฟ่ หรือสายช้อป เซี่ยงไฮ้… มีให้ครบ! ถ้ากำลังวางแผน เที่ยวเซี่ยงไฮ้ จะไปเองแบบชิลล์ ๆ ก็สนุก หรือจะเลือก ทัวร์เซี่ยงไฮ้ แบบจัดเต็มก็สะดวกสุด ๆ บอกเลยว่า เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่หอไข่มุกหรือเดอะบันด์ แต่ยังมีที่เที่ยวอีกเพียบ รอให้คุณไปเช็กอิน บทความนี้ Planetholidays ขอบอกเลยว่า… มีที่เที่ยวเยอะมาก! และนี่คือ 10 ที่เที่ยวไฮไลท์ ที่ใคร ๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า… มาเซี่ยงไฮ้ทั้งที ต้องไปให้ได้!   1️. เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว (Zhujiajiao Ancient Town)     สัมผัสมนต์เสน่ห์ ย่านเมืองเก่าริมคลอง อายุ 1,700 ปี ที่ จูเจียเจี่ยว (Zhujiajiao Ancient Town) คุณจะได้เดินชม บ้านเรือนจีนโบราณ สุดคลาสสิก, ล่องเรือไม้ สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม และลิ้มลอง ขนมท้องถิ่น แสนอร่อย ห้ามพลาด! สะพานฟางเซิง สะพานหิน 5 รูที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ สร้างขึ้นตั้งแต่ราชวงศ์หมิง. ที่นี่เหมาะสำหรับผู้รัก บรรยากาศย้อนยุค, ชอบถ่ายรูป สวยๆ โดยเฉพาะที่ฮิตสำหรับ ถ่ายรูปแบบพสจีน และหลงใหล ของโบราณหายาก 📍 ที่ตั้ง: เขต Qingpu, เซี่ยงไฮ้ 🕐 เปิดให้เข้าชม: 08.30 - 17.00 น. 🚗 วิธีเดินทางเอง: สาย 17 ลงที่สถานี Zhujiajiao เดินต่อประมาณ 15-20 นาที   2️. The Bund GreenLand     แลนด์มาร์คเปิดใหม่ใจกลางเซี่ยงไฮ้ ที่ The Bund Green Land สวนสาธารณะสไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ ริมแม่น้ำหวงผู่

ทัวร์อังกฤษ /

พระราชวังวินด์เซอร์ ที่สุดแห่งความเก่าแก่คู่ราชบัลลังก์อังกฤษ

พระราชวังวินด์เซอร์ ที่สุดแห่งความเก่าแก่คู่ราชบัลลังก์อังกฤษ พระราชวังวินด์เซอร์ พระราชวังอันเก่าแก่ที่อยู่คู่ราชบัลลังก์อังกฤษมานานนับพันปี มหาปราสาทขนาดใหญ่ที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรี่ รัชทายาทอันดับที่ 6 ของราชวงศ์อังกฤษ ปัจจุบันยังคงถูกใช้เป็นที่พำนักของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่เสมอ และยังเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศอังกฤษอีกด้วย… พระราชวังวินด์เซอร์ตั้งอยู่ที่เมืองวินด์เซอร์, มลฑลบาร์คเชอร์ในสหราชอาณาจักร สร้างโดยสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษเมื่อปี ค.ศ.1070 สถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ พระราชวังวินด์เซอร์เป็นพระราชฐานที่ยังมีผู้อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นพระราชฐานที่เก่าที่สุดที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เริ่มสร้าง เนื้อที่การใช้สอยมีทั้งหมดถึง 45,000 ตารางเมตร ปราสาทวินด์เซอร์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนบน (upper ward) และส่วนล่าง (lower ward) ซึ่งมีหอกลม (round tower) กั้นกลาง พระราชวังวินด์เซอร์เต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น State Apartments ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยผลงานศิลปะอันทรงคุณค่า ซึ่งเป็นของสะสมของเหล่าราชวงศ์ รวมถึงความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบกอธิคในโบสถ์ St. George ซึ่งเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์แห่งประเทศอังกฤษหลายพระองค์ และประหลาดใจไปกับ Queen Mary’s Dolls House บ้านตุ๊กตาแสนสวยและมีชื่อเสียงที่สุดโลกที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 โดยช่างฝีมือชั้นนำในสมัยนั้น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มักเสด็จมาประทับที่พระราชวังแห่งนี้ในวันเสาร์-อาทิตย์ และทรงประทับอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน ถ้าใครอยากรู้ว่าควีนประทับอยู่หรือไม่ ให้ดูที่ธงบนหอกลม ถ้าธงอยู่บนยอดเสาแสดงว่าควีนประทับอยู่  อัตราค่าเข้าชม : สำหรับเด็ก ท่านละ ประมาณ 11.50 ปอนด์ (GBP) หรือ คำนวณเป็นเงินไทย ท่านละ ประมาณ 500 บาท (THB) / ผู้ใหญ่ ท่านละ ประมาณ 18.50 ปอนด์ (GBP) หรือ คำนวณเป็นเงินไทย ท่านละ ประมาณ 800 บาท (THB) ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตร และ จำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้า เพราะอาจจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละวันได้ เวลาทำการ : เปิดทุกวันโดยจะแบ่งเป็นสองช่วงดังนี้ เดือนมีนาคม-ตุลาคม เปิดเวลา 9.30 น.- 17.15 น. เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เปิดเวลา 9.45 น. – 16.15 น. ก็จบกันไปแล้วนะคะ

ทัวร์ตุรเคีย /

ขึ้นบอลลูนชมวิวหลักล้าน ณ คัปปาโดเกีย แดนสวรรค์ของคนรักความโรแมนติก

ขึ้นบอลลูนชมวิวหลักล้าน ณ คัปปาโดเกีย แดนสวรรค์ของคนรักความโรแมนติก ที่สุดของการไปเที่ยว คัปปาโดเกีย ถ้าไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมสุดคูลอย่างการขึ้น บอลลูน ชมวิวทิวทัศน์รอบๆเมือง ก็อาจจะเรียกได้ว่าไปไม่ถึง เพราะวิวทิวทัศน์ของเมืองแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นที่สุดแห่งความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ที่คุณไม่อาจจะหาชมความ Unseen นี้ได้จากที่ไหน… คัปปาโดเกียเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ประกาศโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปีค.ศ. 1985 เมืองที่มีลักษณะแปลกตาน่าพิศวงนี้ เกิดจากฝีมือของธรรมชาติล้วนๆ ภายหลังที่ภูเขาไฟระเบิดขึ้นเมื่อราวๆ 2 ล้านปีที่ผ่านมา ก็มีลาวาและเถ้าถ่านพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก พอเย็นตัวลงก็กลบแผ่นดินเดิมหนาขึ้นร่วม 150 เมตร กลายเป็นชั้นดินใหม่ กว่าจะเป็นริ้วคลื่น หินเป็นลอนสวยงาม หินเป็นแท่ง ปล่องไฟ กรวย หินรูปเห็ด รูปเจดีย์ ก็ต้องถูกทั้งกัดกร่อนจากลม ฝน หิมะ และสายน้ำมานับล้านปี สิ่งที่ทำให้คัปปาโดเกียมีชื่อเสียงนอกจาก โรงแรมถ้ำ สุดอลังการแล้ว การขึ้นบอลลูน ชมวิวหลักล้าน!! ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เปรียบเสมือนจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนที่แห่งนี้ ให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์และบรรยากาศยามเช้าในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นที่สุดแสนจะโรแมนติก ชมความสวยงามของแท่งหินปูนมากมายที่เรียงรายอยู่ทั่วเมือง บอลลูนจะพาคุณล่องลอยอยู่บนฟ้าพร้อมภาพตรงหน้าที่เหมือนกับว่าเราได้ท่องอยู่บนแดนสวรรค์ บอลลูนที่คัปปาโดเกียมีให้บริการตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสกับความอัศจรรย์นี้ได้เสมอ แต่ช่วงที่เหมาะแก่การขึ้นบอลลูนมากที่สุดจะเป็นช่วงเช้ามืด เพราะเราจะได้ดื่มด่ำกับวิวอันวิเศษพร้อมพระอาทิตย์ที่กำลังทอดตัวขึ้นมาจากฝากฟ้า และยังมีสีสันอันสดใสของบอลลูนนับไม่ถ้วนที่กำลังลอยตัวขึ้นช่วยเคล้าคลอให้บรรยากาศ ณ ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่โรแมนติก และประทับใจอย่างไม่รู้ลืม ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ขึ้นบอลลูนชมวิวหลักล้าน ณ คัปปาโดเกีย แดนสวรรค์ของคนรักความโรแมนติก เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการนั่งบอลลูนชมวิวเมืองคัปปาโดเกีย งดงามและโรแมนติกมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวตุรกี แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ยุโรป /

ปราสาทปราก (prague castle) สุดยอดอัญมณีแห่งดินแดนเช็ก

ปราสาทปราก (prague castle) สุดยอดอัญมณีแห่งดินแดนเช็ก ปราสาทปราก (prague castle) ปราสาทเก่าแก่ที่แฝงไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สำคัญของกรุงปราก โดดเด่นเป็นสง่าด้วยสถาปัตยกรรมโกธีกและในอดีตเป็นยังเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งโบฮีเมียอีกด้วย… ปราสาทแห่งกรุงปรากเป้นแลบนด์มาร์กสำคัญของเมือง สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ด้วยศิลปะแบบโกธิค อายุราวๆ 800 กว่าปี  กินเนสส์บุ๊คได้บันทึกไว้ว่า เป็นปราสาทที่มีการเชื่อมโยงกันระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ของปราสาทที่ใหญ่ และซับซ้อนที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ถึง 70,000 ตารางเมตร (437.5 ไร่) ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ทำงานของประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเช็กและเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ สิ่งที่ทำให้ปราสาทปรากโดดเด่นสะดุดตานักท่องเที่ยวก็คือ มหาวิหารเซนต์ไวตัส (St. Vitus Cathedral) มหาวิหารสไตล์โกธีกที่ใหญ่และงดงามมากที่สุด ตั้งอยู่บริเวณภายในปราสาท ซึ่งที่แห่งนี้เป็น ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของประเทศ จุดเด่นคือหอคอยหลักที่สูงถึง 96.5 เมตร และหอคอยคู่ที่ด้านหน้าก็สูงถึง 82 เมตร ด้านในมหาวิหารถูกใช้เป็นที่เก็บพระศพของเหล่ากษัตริย์โบฮีเมียหลายพระองค์ แต่ละส่วนมีการตกแต่งอย่างปราณีตด้วยกระจกสีเป็นภาพนักบุญ รูปปั้น และเรื่องราวทางศาสนาคริสต์ ซึ่งต้องขอบอกว่าแต่ละภาพนั้นมีความงดงามมากจริงๆ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเลยเมื่อมาเยี่ยมชมปราสาทปรากก็คื การชมพิธิพลัดเปลี่ยนเวรยามของเหล่าทหารรักษาพระองค์ ซึ่งพิธีการนี้จะเริ่มตั้งแต่เวลา 05.00 น. - 23.00 น. ของทุกวัน และจะมีการประโคมแตรเดี่ยวพร้อมด้วยพิธีเชิญธงในบริเวณลานปราสาทชั้นแรกด้วย ใครมีเวลาเหลือจากการเที่ยวเล่นภายในปราสาทก็ลองแวะไปรอชมกันได้นะคะ พี่ทหารเท่สุดๆ ไปเลย อัตราค่าเข้าชม : ราคาบัตรเข้าชมจะแบ่งเป็น 2 แบบคือ 1.แบบใข้เวลาระยะยาวราคา 350 CZK และ 2.แบบใช้เวลาระยะสั้น 250 CZK ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับปราสาทปราก (prague castle) สุดยอดอัญมณีแห่งดินแดนเช็ก เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของปราสาทปราก งดงาม อลังการงานสร้างมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวเช็ก แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์เวียดนาม /

นาขั้นบันได ซาปา (SAPA) มนต์เสน่ห์เมืองแห่งขุนเขาสายหมอก

นาขั้นบันได ซาปา (SAPA) มนต์เสน่ห์เมืองแห่งขุนเขาสายหมอก เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไปแล้วนะคะ กับ นาขั้นบันได ซาปา แหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งเมืองขุนเขาสายหมอก สุดยอดแลนด์มากที่คุณจะได้ย่อนจิตย่อนใจไปกับอากาศที่บริสุทธิ์ วิวทิวทัศน์อันแสนงดงามของนาขั้นบันได และวัฒนธรรมที่แสนอบอุุ่นจากชนพื้นเมือง ซึ่งของดีแบบนี้หาชมที่ไหนไม่ได้ต้องที่ ซาปา เวียดนามเหนือเท่านั้น… ซาปา (SaPa) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม ในเขตจังหวัดลาวไค ใกล้กับชายแดนจีน ภูมิประเทศตั้งอยู่บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,650 เมตร จึงมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ในอดีตเมืองแห่งนี้เคยเป็นเมืองแห่งการพักผ่อนของฝรั่งเศสที่ปกครองเวียดนามอยู่และพวกเขาได้สร้างสถานีบนภูเขาขึ้นในปี พ.ศ.2465 จากนั้น จึงเริ่มมีชาวต่างชาติซึ่งอยู่ในฮานอยทยอยเดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดเป็นประจำ เพราะอากาศดีและเงียบสงบ จึงทำให้ที่แห่งนี้รู้จักเป็นวงกว้าง ไฮไลท์ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกก็คงจะหนีไม่พ้น นาขั้นบันได้ ซึ่งที่ซาปามีนาขั้นบันไดอยู่หลายที่ แต่ที่เด็ดสุด! จะอยู่ที่หมู่บ้าน หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) หมู่บ้านของชาวม้งดำตั้งอยู่ในหุบเขา Muong Hoa ห่างจากตัวเมืองซาปาประมาณ 2 กิโลเมตร Cat Cat Village เป็นหมู่บ้านชนพื้นเมืองเก่าแก่ที่มีภูมิทัศน์สวยงาม ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาและทุ่งข้าวโพดเขียวขจีที่กำลังกระทบกับแสงแดดและพริ้วไหวไปตามสายลม เคล้าคลอด้วยสายลมเย็นๆ ชวนสัมผัสจนรู้สึกว่ากำลังท่องอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน นอกจากเราจะได้เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอันสวยงามและบ้านเรือนของชาวม้งดำที่น่าสนใจแล้ว ที่แห่งนี้ยังเรายังสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นอยู่และวิถีชีวิตแบบมีความสุขของประชาชนชาวเขาพื้นเมือง ที่พึ่งพาธรรมชาติในการดำเนินชีวิตอันเรียบง่าย ตลอด 2 ข้างทางยังมีคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายสินค้าพื้นเมืองให้เราได้แวะช้อปปิ้งตลอดทางอีกด้วย ส่วนใครที่ต้องการบริจาคสิ่งของก็สามารถนำติดตัวไปด้วยได้นะคะ เพราะที่นี่มีเด็กชาวเขารอรับบริจาคอยู่ จะเป็นเสื้อผ้า ผ้าห่ม รองเท้า หรือ ขนมก็ได้ค่ะ ถือโอกาสทำบุญไปด้วยเลย ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ นาขั้นบันไดซาปา (SAPA) มนต์เสน่ห์เมืองแห่งขุนเขา เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของซาปา อยากหนีไปฟอกปอดกันเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวเวียดนาม แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholida

ทัวร์อินเดีย /

4 จุดเช็คอินเด็ด! จัยปูร์ มหานครสีชมพูแห่งประเทศอินเดีย

4 จุดเช็คอินเด็ด! จัยปูร์ มหานครสีชมพูแห่งประเทศอินเดีย จัยปูร์ หรือ ชัยปุระ เมืองท่องเที่ยวสำคัญของรัฐราชสถาน มหานครสีชมพูที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี ดินแดนที่ถูกเนรมิตโดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) มหาราชาผู้มีบทบาทมากที่สุดในการสร้างที่แห่งนี้ วันนี้ Planetholidays ก็ได้คัดสรร 4 จุดเช็คอินเด็ด! จัยปูร์ มหานครสีชมพูแห่งประเทศอินเดีย มาฝากทุกคน แต่ละที่จะเด็ดแค่ไหนและมีอะไรให้เราประทับใจบ้าง เรามาท่องดินแดนสีชมพูนี้ไปด้วยกันเลยค่ะ 1.พระราชวังหลวง (City Palace) เดิมเป็นพระราชวังของมหาราชใจสิงห์ (Jai Singh) พระราชวัง ถูกสร้างขยายออกในสมัยหลัง ปัจจุบัน ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Man Singh Museum ประกอบด้วย 4 ส่วนที่น่าสนใจคือ ส่วนแรกคือส่วนของพระราชวังส่วนที่สองเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และมเหสี ซึ่งมีการตัดเย็บอย่างวิจิตร ส่วนที่สามเป็นส่วนของอาวุธ และชุดศึกสงคราม ที่จัดแสดงไว้อย่างน่าทึ่งมากมายหลายหลาก บางชิ้น ก็เป็นอาวุธได้อย่างน่าพิศวง และส่วนที่สี่ คือส่วนของศิลปะภาพวาด รูปถ่าย และราชรถ พรมโบราณ ซึ่งได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ตรงกลางอาคารมีหม้อน้ำขนาดมหึมา 2 ใบ ทำจากโลหะเงิน สูง 1.50 เมตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อกันว่าเป็นหม้อน้ำที่กษัตริย์ Madho Singh ได้รับมาจากงานราชาภิเษกของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ซึ่งบรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ 2.พระราชวังสายลม (Hawal Mahal) ฮาวา มาฮาล เป็นพระราชวัง ที่ตั้งอยู่ในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย สร้างในปีค.ศ. 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) ออกแบบโดยลาล ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฏพระนารายณ์ โดยมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้น และมีลักษณะคล้ายรังผึ้งสร้างจากหินทรายสีแดงสดฉลุหินให้เป็นช่องหน้าต่างลวดลายเล็กๆ ละเอียดยิบมีช่องหน้าต่างถึง 953 บางแต่ปิดไว้ ด้วยหินทรายฉลุทำให้นางในฮาเร็มพระสนมที่อยู่ด้านในสามารถมองออกมาข้างนอกได้ โดยที่คนภายนอกมองเข้าไปข้างในไม่เห็น และประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมจนเป็นที่มาของชื่อ “Palace Of Wind” 3.แอมเบอร์

ทัวร์ฮ่องกง /

9 วัดไฮไลท์ฮ่องกง ที่สายบุญ เสริมรวย แก้ชง ต้องไม่พลาด

“ฮ่องกง” แลนด์มาร์กที่ทรงอิทธิพลเรื่องศาสนาและวัฒนธรรม หากใครที่ต้องการหาที่ทำบุญเสริมมงคลก็มักจะนึกถึงที่นี่เป็นอันดับต้นๆ สถานที่ที่รวมวัดชื่อดังไว้มากมายเหมาะแก่สายบุญทั้งหลายที่ชอบขอพร เสริมดวง เสริมรวย วันนี้เราก็รวบรวม 9 วัดไฮไลท์ของฮ่องกง ที่ถ้าได้มาแล้วต้องห้ามพลาดเด็ดขาด 1.วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม   ที่สถิตของท่านแชกง นักรบผู้เป็นตำนานของฮ่องกง ไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ที่ “กังหันลมนำโชค” โดยตามความเชื่อของชาวฮ่องกงแล้ว ถ้าต้องการให้สิ่งไม่ดีในปีที่ผ่านมาหมดไป จะต้องใช้นิ้วชี้หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา แต่ถ้าหากต้องการขอพรให้สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตก็จงตั้งจิตอธิษฐาน แล้วหมุนกังหันกลับขจากขวามาซ้าย แล้วกังหันนำโชคจะนำสิ่งดีๆเข้ามาสู๋ชีวิต  และก่อนที่ท่านจะออกจากวัดจะต้องตีกลองให้เสียงดังสนั่นเพื่อความเป็นสิริมงคล 2.วัดหวังต้าเซียน หรือ วัดซิก ซิก หยวน หว่องไทซิน    วัดที่ขึ้นชื่อด้านการขอพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เป็นที่ที่ได้รับการนับถือเป็นอย่างมากจากบรรดาผู้ป่วย ซึ่งใครที่กำลังเจ็บป่วย หรือมีญาติพี่น้อง คนที่เรารักก็สามารถมาขอพรจากที่นี่ได้ นอกจากนั้นโบราณสถานแห่งนี้ยังคงความสวยงานแบบจีนโบราณอีกด้วย 3.เจ้าแม่กวนอิมรีพัลส์เบย์    ที่หาดรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay Beach) เป็นสถานที่ยอดฮิตที่เมื่อมาทัวร์ฮ่องกงก็ต้องมาให้ได้ เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐ์สถานของเจ้าแม่กวนอิมที่ใครหลายๆคนต่างสักการะบูชา และยังเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาสักการะ รูปปั้นต่างๆ ของที่นี่ล้วนมีความหมาย นอกจากนั้นยังมีบริเวณที่สวยงามให้ได้ถ่ายรูปมากมายอีกด้วย 4.พระใหญ่แห่งวัดโป่หลิน  วัดโป่เหลียน สถานที่ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระใหญ่ หรือ พระพุทธรูปเทียนถานที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาโปหลิน เรียกได้ว่าเป็นอีก 1 ไฮไลท์อันดับต้นๆของฮ่องกง เรื่องความศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว ที่สำคัญหากต้องการให้พรสัมฤทธิ์ผลอย่าลืมขอพรบริเวณจุดประทานพร เพราะเชื่อกันว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในการขอพระจากองค์พระใหญ่ 5.วัดเทียนโหว่    วัดเทียนโหว่ ตั้งอยู่ในย่านคอสเวย์ เบย์ ของประเทศฮ่องกง เป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่ทับทิม ที่แต่เดิมนั้นได้รับความเคารพบูชาสำหรับเหล่าชาวประมงที่ต้องการสักการะขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัยในการออกเรือทุกครั้ง ปัจจุบันเป็นที่เลื่องชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และการปัดเป่าสิ่งร้ายให้หายกลายเป็นดี จนเป็นที่นิยมอย่างมากในเหล่าคนฮ่องกงที่จะมาสักการะขอพระ 6 .วัดชีหลิน  วัดชีหลิน หรือ วัดนางชี เป็นที่ประดิษฐานของพระศากยมุนีและเจ้าแม่กวนอิม ที่นอกจากความศักดิ์สิทธิ์แล้วนั้น ที่นี่มีเพียงแม่ชีพำนักเท่านั้น ซึ่งถือว่าแตกต่างจากวัดทางพระพุทธศาสนาอื่นๆทั่วไปในฮ่องกง และยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณที่สร้างขึ้นจากไม้เนื้อหอม 7.วัดปักไท   เป็นวัดยอดนิยมสำหรับการมาขอพรหรือแก้ชงของชาวฮ่องกง มีความเก่าแก่กว่า 200 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราญรวมทั้งประติมากรรมตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์ซ่งและสมัยราชวงศ์ชิง และเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของลัทธิเต๋า หรือที่รู้จักกันในนามจักรพรรดิแห่งดินแดนสุขขาวดี 8.วัดหมั่นโหม่   วัดหมั่นโหม่ ตั้งอยู่ในเขตเชิงหว่าน เป็นสถานที่สักการะสำหรับผู้ที่ต้องการพรด้านปัญญาและพละกำลัง  โดยจะมีอีกเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างการจุดธูปบูชาที่มีลักลักษณะเป็นเกลียวขด และยังเป็นที่ประดิษฐานของ 2 เทพเจ้าองค์สำคัญนั่นก็คือ เทพแห่งความรู้ (หมั่น)มีสีเขียวในมือถือพู่กันจีน และเทพแห่งสงคราม (โหม่)มีสีแดงในมือถือดาบ นอกจากจะปัดเป่าสิ่งร้ายๆให้ออกไปจากชีวิต 9.วัดหยวนหยวน   วัดหยวนหยวน เป็นวัดเดียวที่รวมความเชื่อของทั้ง 3 ศาสนา นั่นคือ ศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋าและลัทธิขงจื้อไว้ในวัดเดียว ซึ่งเป็นวัดที่โดดเด่นเรื่องการแก้ปีชง หรือ เสริมดวงชะตามากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะครบทั้ง 60 องค์พร้อมปีเกิดกำกับ โดยเชื่อว่าเทพเจ้าองค์นี้มีหน้าที่คอยคุ้มครองดูแลดวงและคุ้มครองดวงชะตาของมนุษย์    ก็จบกันไปแล้วนะครับ กับ 9 วัดไฮไลท์ฮ่องกง ที่สายบุญ เสริมรวย แก้ชง ต้องไม่พลาด เป็นยังไงกันบ้างครับ? อ่านแล้วคงจะเริ่มเตรียมวันหยุดกันแล้วใช่ไหมหล่ะ มาๆ มาทัวร์ฮ่องกงกัน ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณสิครับ ที่นี่เรามีทัวร์ดีๆมากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริปรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ PlanetHolidays คำตอบของคนชอบเที่ยว โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777 Line เราก็มีนะ @planetholiday
line