ทัวร์เวียดนาม
/
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) สัมผัสวิถีชีวิตชาวม้งและธรรมชาติที่สวยงามแห่งซาปา เวียดนามเหนือ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) หมู่บ้านเก่าแก่ของชนเผ่าม้ง ใน ซาปา ประเทศเวียดนาม ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้อย่างงดงาม ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติรายล้อม ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งนาขั้นบันไดสีเขียวสด น้ำตกใสกลางหุบเขา บ้านไม้พื้นเมือง และงานหัตถกรรมพื้นบ้าน ล้วนสร้างเสน่ห์ที่ทำให้ที่นี่กลายเป็น “แลนด์มาร์คที่ต้องไปให้ได้” ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเวียดนามเหนือ
และในบทความนี้ PlanetHolidays จะมานำเสนอ หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต แบบเจาะลึก ทั้งประวัติความเป็นมา ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด และสิ่งที่ควรรู้ก่อนวางแผนเดินทาง เพื่อให้ทุกคนได้เก็บรายละเอียดครบก่อนออกเดินทางจริง ใครที่กำลังมองหาแพ็กเกจทัวร์ซาปาที่สะดวก ครบทุกมุมไฮไลต์
ประวัติความเป็นมาและที่มาของชื่อ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) ตั้งอยู่ที่อำเภอซาปา จังหวัดลาวไค ประเทศเวียดนามเหนือ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของ ชนเผ่าม้งดำ (H’Mong) ที่สืบทอดวิถีชีวิตดั้งเดิมมาอย่างยาวนาน
คำว่า “กั๊ตกั๊ต” มาจากเสียงน้ำตกที่อยู่ในหมู่บ้าน เมื่อฟังดูคล้ายเสียง “กั๊ต กั๊ต” จึงกลายเป็นชื่อเรียกหมู่บ้านในเวลาต่อมา
ไฮไลต์และจุดเด่นที่ไม่ควรพลาด
1. น้ำตกกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Waterfall)
น้ำตกที่ไหลลงมาจากภูเขาสูงกลางหุบเขา เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะถ่ายรูป เสียงน้ำตกที่กระทบหินสร้างบรรยากาศสดชื่นตลอดทั้งปี ช่วงฤดูฝนสายน้ำจะไหลแรงและสวยงามมาก เหมาะแก่การถ่ายภาพวิวพาโนรามา
2. กังหันน้ำโบราณ
หนึ่งในเอกลักษณ์ของหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต คือ กังหันน้ำที่ทำจากไม้และไผ่ ซึ่งชาวม้งสร้างขึ้นเพื่อใช้ทดน้ำเข้าสู่พื้นที่เพาะปลูก กังหันเหล่านี้หมุนอยู่กลางสายน้ำ สร้างภาพที่งดงามและแสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างน่าทึ่ง นักท่องเที่ยวมักนิยมถ่ายรูปคู่กับกังหันน้ำ เพราะถือว่าเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่
3. บ้านเรือนและวิถีชีวิตดั้งเดิม
หมู่บ้านเต็มไปด้วยบ้านไม้แบบดั้งเดิมของชนเผ่าม้งดำ ภายในบ้านบางหลังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมการทอผ้า การทำเครื่องเงิน และการประกอบอาหารแบบท้องถิ่น คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี
4. การแสดงวัฒนธรรมม้ง
ในบางช่วงเวลา จะมีการแสดงการฟ้อนรำ ดนตรี และการละเล่นของชนเผ่าม้ง ที่แต่งกายด้วยชุดสีสันสดใสประดับลายปักประณีต เสียงเพลงพื้นเมืองและการเต้นรำจะทำให้คุณได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็นชนเผ่าแท้ ๆ
5. สะพานแขวน
เส้นทางเดินเที่ยวรอบหมู่บ้านจะพาคุณข้ามสะพานแขวนที่ทอดผ่านลำธารเบื้องล่าง เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่หลายคนบอกว่า “มาแล้วเหมือนอยู่ในโปสการ์ด”
6. สินค้าหัตถกรรมและของฝาก
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ตขึ้นชื่อเรื่อง งานหัตถกรรมทอผ้า เครื่องเงิน และผ้าปักลวดลายชนเผ่า แต่ละชิ้นใช้เวลาทำอย่างประณีต สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือสะสมเป็นของที่ระลึกได้ และยังเป็นการช่วยสนับสนุนรายได้แก่ชุมชนท้องถิ่นด้วย
7. วิวทุ่งนาขั้นบันไดและภูเขาสูง
หนึ่งในภาพที่สวยที่สุดของหมู่บ้าน คือวิว ทุ่งนาขั้นบันได ที่โอบล้อมด้วยภูเขาสูง โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว (ก.ย.–พ.ย.) จะได้เห็นทุ่งข้าวสีเหลืองทองอร่ามเต็มหุบเขา เป็นภาพที่นักถ่ายภาพและนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติห้ามพลาด
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับไปเที่ยวหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต
การมาเที่ยว หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) สามารถมาได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ใครที่วางแผนมาซาปา ควรเลือกช่วงเวลาให้เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวที่ชอบ
ทัวร์ญี่ปุ่น
/
มนต์เสน่ห์แห่งฮอกไกโด: “น้ำตกชิราฮิเงะ” (Shirahige Waterfall) ที่สายเที่ยวต้องปักหมุด
มนต์เสน่ห์แห่งฮอกไกโด: “น้ำตกชิราฮิเงะ” (Shirahige Waterfall) ที่สายเที่ยวต้องปักหมุด
ถ้าพูดถึง “ฮอกไกโด” หลายคนคงนึกถึงทุ่งดอกไม้หลากสีในหน้าร้อน หรือหิมะขาวสะพรั่งในหน้าหนาว แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่นั้น! PlanetHolidays ขอบอกว่ายังมีธรรมชาติอีกหนึ่งมุมที่สวยไม่แพ้ใคร นั่นก็คือ น้ำตกชิราฮิเงะ หรือที่หลายคนเรียกว่า “น้ำตกหนวดขาว” หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในฮอกไกโด และยังติดอันดับสถานที่ “ห้ามพลาดในเมืองบิเอะ” อีกด้วยล่ะ น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่น้ำใสไหลออกมาจากหน้าผาหินปกคลุมด้วยมอสธรรมชาติ ลงสู่แม่น้ำบิเอะสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ตัดกับฉากหลังของธรรมชาติที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะหน้าร้อน ใบไม้เปลี่ยนสี หรือฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุม — ความสวยก็แตกต่างกันออกไป แต่ไม่เคยธรรมดาเลยสักครั้ง
ประวัติความเป็นมาและที่มาของชื่อ
น้ำตกชิราฮิเงะ ตั้งอยู่ในเมืองบิเอะ (Biei) จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ชื่อของน้ำตกมาจากภาษาญี่ปุ่น "白ひげの滝" (Shirahige no Taki) ที่แปลว่า "น้ำตกหนวดขาว" ซึ่งมาจากลักษณะของสายน้ำที่ไหลแยกย่อยออกมาจากซอกหินของหน้าผาอย่างต่อเนื่องและเป็นสายเล็กๆ จำนวนมาก เมื่อมองจากมุมไกลจะดูเหมือนกับหนวดสีขาวของชายชรา ที่สำคัญ น้ำตกแห่งนี้มีต้นกำเนิดจากสายน้ำใต้ดินของเทือกเขาโทคาจิ (Tokachi Mountains) ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ เมื่อแร่ธาตุนี้ทำปฏิกิริยากับน้ำในแม่น้ำบิเอะ ทำให้เกิดการสะท้อนแสงสีฟ้าคล้ายเทอร์ควอยซ์ จึงเป็นที่มาของปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งคือ น้ำตกที่มีสีขาวตัดกับแม่น้ำด้านล่างที่เป็นสีฟ้าสวยงาม
ไฮไลต์และจุดเด่นที่ไม่ควรพลาด
น้ำตกเปลี่ยนโทนสีตามฤดูกาล จุดเด่นที่สุดของน้ำตกชิราฮิเงะคือสีของน้ำที่เปลี่ยนไปตามสภาพอากาศและฤดูกาล ในฤดูร้อนน้ำจะมีสีฟ้าอมเขียวที่เกิดจากแร่ธาตุ ส่วนในฤดูหนาวน้ำตกจะแข็งตัวเป็นน้ำแข็งและถูกปกคลุมด้วยหิมะ สร้างภาพความงามที่ขาวโพลนตัดกับสีฟ้าอมเขียวของแม่น้ำเบื้องล่าง
แสงไฟยามค่ำคืนในฤดูหนาว ในช่วงฤดูหนาว น้ำตกจะมีการประดับไฟ (Light-up) ทำให้ได้ชมความงามในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน
สะพานชมวิว การเข้าชมน้ำตกเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของน้ำตกได้อย่างเต็มตาจากสะพาน Blue River Bridge ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำ ทำให้ได้ภาพที่สวยงามและแปลกตา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับไปเที่ยว
ฤดูหนาว (ธันวาคม - มีนาคม): เป็นช่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะจะได้เห็นหิมะปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ และน้ำตกจะกลายเป็นสีขาวตัดกับสีฟ้าของแม่น้ำ เป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจ
ฤดูร้อนและใบไม้เปลี่ยนสี (มิถุนายน - ตุลาคม): ช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำตกจะมีสีฟ้าสดใสจากแร่ธาตุในน้ำอย่างชัดเจน และสภาพอากาศก็เอื้อต่อการเดินทาง
คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับน้ำตกชิราฮิเงะ
วิธีเดินทางด้วยตนเอง
สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถบัสจากสถานี Asahikawa หรือ Biei ไปลงที่ป้าย Shirogane Onsen แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อย
2. เวลาเปิด-ปิด กี่โมง และ มีค่าเข้าชมไหม?
น้ำตกชิราฮิเงะ (Shirahige Waterfall) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแบบ เปิดโล่ง ไม่มีประตูทางเข้า-ออก จึงสามารถเข้าชมได้
ทัวร์มาเก๊า
/
สวนสนุก Chimelong Ocean Kingdom 🌊 อาณาจักรมหาสมุทรสุดยิ่งใหญ่
สวนสนุก Chimelong Ocean Kingdom 🌊 อาณาจักรมหาสมุทรสุดยิ่งใหญ่
หากคุณกำลังวางแผน เที่ยวจูไห่ และมองหา สวนสนุกที่ดีที่สุดในจีน ที่มีทั้งความยิ่งใหญ่และธีมสัตว์ทะเลแบบครบวงจร คงไม่มีใครไม่พูดถึง Chimelong Ocean Kingdom (ฉางหลง โอเชียน คิงดอม) สถานที่ซึ่งได้รับรางวัลระดับโลกและถือเป็นหนึ่งใน จุดหมายยอดนิยมสำหรับครอบครัว และนักท่องเที่ยวสายผจญภัย แพลนเนทฮอลลิเดย์ ขอพาคุณไปเจาะลึก Chimelong Ocean Kingdom อย่างละเอียด สำหรับไฮไลต์ของแต่ละโซน และสิ่งที่ไม่ควรพลาด เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผน เที่ยวจีน ของคุณกัน
Chimelong Ocean Kingdom เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2014 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเครือ Chimelong Group ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจสวนสนุกและรีสอร์ตในจีน ความพิเศษของที่นี่คือการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการทุบสถิติโลกมากมายจนได้รับการบันทึกใน Guinness World Records ทั้งในด้านการมี อควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Giant Ocean Tank) การจัดแสดงสัตว์น้ำที่หลากหลาย และการรวมเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นไว้ในที่เดียว ทำให้ที่นี่กลายเป็น แลนด์มาร์คสำคัญของจูไห่
ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดใน Chimelong Ocean Kingdom
Giant Ocean Tank: ตู้ปลาขนาดมหึมาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นไฮไลต์ที่คุณจะได้เห็น ฉลามวาฬ ปลากระเบนราหู และฝูงปลามากมาย
Roller Coaster: สำหรับ สายผจญภัย ห้ามพลาดรถไฟเหาะ Parrot Coaster ที่จะพาคุณเหินฟ้าชมวิวสวนสนุกจากมุมสูง
การแสดงโชว์สุดอลังการ: ตื่นตาตื่นใจไปกับ โชว์ปลาโลมา และ วาฬเบลูก้า ที่แสนน่ารัก รวมถึง โชว์พลุและเลเซอร์ ยามค่ำคืนที่ไม่ควรพลาด
🗺️ เจาะลึก 8 โซนหลักใน Chimelong Ocean Kingdom
1. Ocean Avenue – โซนต้อนรับสุดอลังการ
ประตูสู่โลกแฟนตาซีใต้ทะเล ด้วยสถาปัตยกรรมที่จำลองบรรยากาศใต้ทะเลลึก พร้อมประดับประดาด้วยสิ่งของแฟนตาซีต่างๆ ตลอดเส้นทาง นอกจากจะเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกแล้ว โซนนี้ยังเต็มไปด้วยสีสันจากขบวนพาเหรดและมาสคอตที่ออกมาทักทายนักท่องเที่ยวเป็นระยะๆ ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวาตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา
ไฮไลท์: อาคารรูปโดมจำลองทะเลลึก, ร้านของฝาก ,
ทัวร์มาเก๊า
/
ที่เที่ยวมาเก๊า เสริมพลังชีวิต รับพลังบวก เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทอง ฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในเมือง
สำหรับปี 2025 นี้ เทรนด์การท่องเที่ยวแนว สายมู และการเดินทางเพื่อเปิดรับ พลังงานบวก กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก การเดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในต่างประเทศไม่ได้เป็นเพียงแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นความเชื่อที่ว่า การเปลี่ยนสถานที่ใหม่ๆ จะช่วยเปิดมุมมองและเติมเต็มพลังชีวิตให้กลับมาสดใสอีกครั้ง และเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเพื่อเสริมดวงโดยเฉพาะ Planetholidays จึงขอแนะนำจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่จะช่วยเติมพลังและเสริมโชคลาภให้ชีวิตของคุณได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิกัดรับโชค-เสริมพลังงานชีวิตใหม่ ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในจีนตอนใต้ ที่นักเดินทางสายมูต้องห้ามพลาด!
“เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทองริมทะเล” Kun Iam Ecumenical Centre พิกัดฮวงจุ้ยสุดปังแห่งมาเก๊า
องค์เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทองแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาริมทะเล มาเก๊า รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่รัฐบาลโปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพก่อนการส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับประเทศจีนในปี 1999
ลักษณะ: รูปปั้นมีความสูง 20 เมตร และมีน้ำหนัก 50 ตัน
จุดเด่น: มีลักษณะที่ผสมผสานระหว่างสไตล์จีนและยุโรป โดยมีใบหน้าคล้ายกับพระแม่มารี
ความหมาย: องค์เจ้าแม่หันหน้าเข้าหาเมืองเพื่อปกป้องคุ้มครองชาวมาเก๊า ส่วนฐานรูปปั้นทำหน้าที่เป็นศูนย์ส่งเสริมศาสนา ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับพุทธศาสนาและปรัชญาตะวันออก
และได้รับการยกย่องว่า "มีฮวงจุ้ยดีที่สุด" ตามหลักจีนโบราณ เพราะได้รับการวางตำแหน่งจากซินแสชื่อดังจากมาเก๊าให้เป็นศูนย์รวมพลังบวกอย่างแท้จริง
ด้านหลังองค์เจ้าแม่: หันเข้าสู่เมืองจูไห่ ซึ่งหมายถึง "การเฝ้าคุ้มครอง" ผู้คนในเมืองให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติและสิ่งไม่ดี
ด้านหน้าองค์เจ้าแม่: หันออกสู่ทะเลจีนใต้ เป็นเสมือนประตูโชคลาภที่เปิดรับพลังจักรวาลอันกว้างใหญ่ให้หลั่งไหลเข้ามา
ด้วยเหตุนี้เอง ชาวจีนจึงเชื่อว่า หากได้มากราบไหว้เจ้าแม่กวนอิม ณ จุดนี้ จะช่วยเสริมชีวิตให้มั่นคง ปัดเป่าพลังลบ และเปิดทางให้กับการเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน, ความรัก, หรือโชคลาภ
ตามหาเลข 8 แห่งโชคลาภ!
นอกเหนือจากความศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่ยังแฝงด้วยพลังแห่ง "ความมงคล" เพราะมีการออกแบบ "เลข 8" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ความมั่งคั่ง โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง ไว้ตามจุดต่างๆ ขององค์เจ้าแม่ และหากเดินทางมากับ แพลนเนทฮอลลิเดย์ ไกด์จะช่วยแนะนำ 3 จุดสำคัญที่ต้องตามหาเลข 8 ให้ครบเพื่อเปิดพลังเสริมดวงตลอดปี
จุดที่ 1: ทางเข้า จุดเริ่มต้นของการเดินทางเข้าสู่องค์เจ้าแม่ มีการตกแต่งด้วยเลข 8 ที่สื่อถึงการเปิดรับพลังงานดีเข้าสู่ชีวิต
จุดที่ 2: อาคารดอกบัว อาคารสำคัญภายในบริเวณวัดที่ออกแบบด้วยสัญลักษณ์เลข 8 บนผนังและเสา เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงและความสงบ
จุดที่
ทัวร์จีน
/
10 ที่เที่ยวเซี่ยงไฮ้ 2568 ที่ต้องไปให้ได้! สายเที่ยว สายถ่ายรูป ห้ามพลาด
เซี่ยงไฮ้ เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของจีน ที่รวมทุกความหลากหลายไว้ในที่เดียว มหานครแห่งนี้เต็มไปด้วยความโดดเด่น — ทั้งตึกระฟ้าสุดล้ำ สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปริมแม่น้ำ ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ไปจนถึงแลนด์มาร์คเปิดใหม่ที่คนทั่วโลกต้องแวะ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเที่ยว สายถ่ายรูป สายคาเฟ่ หรือสายช้อป เซี่ยงไฮ้… มีให้ครบ! ถ้ากำลังวางแผน เที่ยวเซี่ยงไฮ้ จะไปเองแบบชิลล์ ๆ ก็สนุก หรือจะเลือก ทัวร์เซี่ยงไฮ้ แบบจัดเต็มก็สะดวกสุด ๆ บอกเลยว่า เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่หอไข่มุกหรือเดอะบันด์
แต่ยังมีที่เที่ยวอีกเพียบ รอให้คุณไปเช็กอิน บทความนี้ Planetholidays ขอบอกเลยว่า… มีที่เที่ยวเยอะมาก!
และนี่คือ 10 ที่เที่ยวไฮไลท์ ที่ใคร ๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า… มาเซี่ยงไฮ้ทั้งที ต้องไปให้ได้!
1️. เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว (Zhujiajiao Ancient Town)
สัมผัสมนต์เสน่ห์ ย่านเมืองเก่าริมคลอง อายุ 1,700 ปี ที่ จูเจียเจี่ยว (Zhujiajiao Ancient Town) คุณจะได้เดินชม บ้านเรือนจีนโบราณ สุดคลาสสิก, ล่องเรือไม้ สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม และลิ้มลอง ขนมท้องถิ่น แสนอร่อย ห้ามพลาด! สะพานฟางเซิง สะพานหิน 5 รูที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ สร้างขึ้นตั้งแต่ราชวงศ์หมิง. ที่นี่เหมาะสำหรับผู้รัก บรรยากาศย้อนยุค, ชอบถ่ายรูป สวยๆ โดยเฉพาะที่ฮิตสำหรับ ถ่ายรูปแบบพสจีน และหลงใหล ของโบราณหายาก
📍 ที่ตั้ง: เขต Qingpu, เซี่ยงไฮ้
🕐 เปิดให้เข้าชม: 08.30 - 17.00 น.
🚗 วิธีเดินทางเอง: สาย 17 ลงที่สถานี Zhujiajiao เดินต่อประมาณ 15-20 นาที
2️. The Bund GreenLand
แลนด์มาร์คเปิดใหม่ใจกลางเซี่ยงไฮ้ ที่ The Bund Green Land สวนสาธารณะสไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ ริมแม่น้ำหวงผู่
ทัวร์ญี่ปุ่น
/
4 แลนด์มาร์กเด็ด ชม ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่ญี่ปุ่น ปักหมุดไว้ ตุลานี้เจอกัน!
4 แลนด์มาร์กเด็ด ชม ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่ญี่ปุ่น ปักหมุดไว้ ตุลานี้เจอกัน!
ใกล้แล้ว!! กับ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาแห่งสีสันที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับความงดงามของใบไม้ทั้งเมืองที่กำลังจะผลัดเปลี่ยนจากสีเขียวไปเป็น สีส้ม และสีแดง ฤดูกาลแห่งมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติอันงดงาม ที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ล้วนสุดแสนจะโรแมนติกจนคุณจะต้องตกหลุมรัก ในวันนี้ Planetholidays ก็มี 4 แลนด์มาร์กเด็ด!! ที่เค้าเรียกว่าเป็นที่สุดแห่งการชมใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่น มาแนะนำ สำหรับใครยังไม่รู้จะไปที่ไหนบ้าง ปักหมุดไว้เลยค่ะ
1.ทะเลสาบคาวากุจิโกะ
เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดแลนด์มาร์กระดับต้นๆ ของการชมใบไม้เปลี่ยนสีเลยก็ว่าได้ เพราะที่แห่งนี้นอกจากเราจะได้ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ผืนน้ำทะเลสาบที่ทอดยาวจนไปถึงภูเขาไฟฟูจิ ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเติมเต็มการชมใบไม่เปลี่ยนสีให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตลอดสองทางเดิน ยังมีต้นเมเปิ้ลที่ปกคลุมคล้ายอุโมงค์ให้เราได้โพสท่าเก๋ๆ เก็บภาพกันอีกด้วย
2.ปราสาทโอซาก้า
ปราสาทเก่าแก่แห่งเมืองเอโดะ ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ผู้คนนิยมมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน เพราะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีตัวปราสาทจะถูกล้อมด้วยใบไม้สีแดงจนเกิดเป็นภาพที่งดงามมาก ใครอยากได้ภาพดีๆ ต้องไม่พลาดที่แห่งนี้เลยค่ะ
3.หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
หมู่บ้านสุดน่ารักที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้วยเอกลักษณ์โบราณแบบกัสโซทำให้ใครต่อใครต่างหลงรักที่แห่งนี้ ยิ่งเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วต้นไม้ที่ประดับประดาอยู่รอบๆ ยังช่วยเติมเต็มสีสันให้ที่แห่งนี้มีความโรแมนติกเพิ่มขึ้นไปอีก
4.วัดคิโยมิซุ (วัดน้ำใส)
อีกหนึ่งสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังแห่งเมืองเกียวโต แลนด์มาร์กที่เต็มไปด้วยอาคารไม้เก่าแก่ตั้งเรียงรายอยู่บนเนินเขาและยังถูกห้อมล้อมด้วยใบไม้สีแดง ด้านบนมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองเกียวโตได้ไกลสุดลูกหูลูกตา นับว่าเป็นอีกจุดนึงที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ 4 แลนด์มาร์กเด็ด ชม ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่ญี่ปุ่น ปักหมุดไว้ ตุลานี้เจอกัน! เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 4 แลนด์มาร์กที่เราแนะนำ สวยขนาดนี้ ตุลาคมต้องไม่พาดแล้ว! ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวญี่ปุ่น แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์บาหลี
/
5 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไป เที่ยวบาหลี เกาะสวาดหาดสวรรค์
5 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไป เที่ยวบาหลี เกาะสวาดหาดสวรรค์
เที่ยวบาหลี เกาะเล็กๆ ของประเทศอินโดนีเซียที่อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ศิลปะวัฒนธรรม และศาสนาที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวสืบทอดยาวนานกว่าพันปี สุดยอดแลนด์มาร์กที่ผู้คนจากทั่วโลกยกให้เป็น เกาะสวาดหาดสวรรค์ อันดับต้นๆ จากบรรดาเกาะชั้นนำของโลก เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าบาหลีจะมีอะไรเด็ดๆ ที่เราไม่ควรพลาดบ้างไปลุยกันเลย…
1.โพสท่าเก๋ๆ ที่ประตูสวรรค์วัดเลมปูยัง (Lempuyang Temple)
ประตูสวรรค์เป็นประตูของ วัดเลมปูยัง วัดใหญ่อันดับสามของเกาะและมีความสำคัญมากในวัฒนธรรมบาหลี มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของพื้นที่ริมเกาะทางฝั่งตะวันออกมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟอากุง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประตูสวรรค์อยู่ในลิสอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเช็คอิน ถ่ายรูปโพสท่าเท่ๆ พร้อมวิวทิวทัศน์สุดอลังการ สวยขนาดนี้!! พลาดไม่ได้แล้วว
2.อาบน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเทมภัคสิริงค์
บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใสสะอาดที่ผุดขึ้นจากใต้ดิน เป็นที่เคารพสักการะของชาวบาหลีด้วยความเชื่อที่ว่าบ่อน้ำนี้กำเนิดมาจากพระอินทร์ จึงมีชาวบ้านนิยมมาอาบน้ำ เก็บน้ำไปดื่มกิน เพราะเชื่อว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้สามารถรักษาโรคต่างๆ ขับไล่สิ่งเลวร้ายและเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งในทุกๆปีจะผู้คนนิยมเดินทางมาเพื่อชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ที่น้ำพุแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
3.ตื่นเต้นไปกับชิงช้า Bali swing
Bali Swing ตั้งอยู่แถวๆ Tegalalang rice terrace ทุ่งนาขั้นบันไดซึ่งปลูกพันธุ์ข้าวที่ชาวอินโดนีเซียรับประทาน โดยกิจกรรมสุดฮิตของที่แห่งนี้คือ การนั่งไปบนชิงช้าที่มีความสูง ซึ่งจะทำให้คุณตื่นเต้น ท้าทาย และหวาดเสียวจนทำให้อะดรีนาลีนของคุณพุ่วพล่านอย่างแน่นอน นอกจากนั้นเรายังสามรถเก็บภาพระหว่างนั่งชิงช้าโดยมีฉากหลังธรรมชาติอันสวยงาม และบริเวณนั้นยังมีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปอีกด้วย
4.ดื่มด่ำกับความงดงามของวิหารทานาล็อต
เป็นอีกวัดนึงที่มความสวยงามด้านภูมิทัศน์ ตั้งอยู่บนโขดหินริมมหาสมุทรอินเดีย คล้ายเกาะเล็กๆที่พอเวลาน้ำขึ้นแล้ว จะดูเหมือนกับว่าลอยอยู่กลางทะเล สร้างโดยนักบุญนิธาราที่บำเพ็ญศีลภาวนา เป็นที่นับถือของชาวบาหลี และเชื่อกันว่ามีงูเทพเจ้าคอยปกปักรักษาอยู่ภายใต้วิหาร นับว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กดีๆ ที่คุณต้องไปเห็นให้ได้ด้วยตาตนเอง
5.สัมผัสมนต์เสน่ห์อันน่าหลงไหลของวัดอูลันดานู บราตัน
1 ใน 5 วัด สำคัญของเกาะบาหลี ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบบราตัน สถานที่ที่อุดมไปด้วยมนต์ขลัง และความสวยงาม มีฉากหลังเป็นภูเขา อยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 เพื่ออุทิศแด่ เทวี ดานู เทพแห่งสายน้ำท้องทะเลสาบบราตัน ใช้ทำพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ และฮินดู
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ 5 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวบาหลี เกาะสวาดหาดสวรรค์ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของเกาะบาหลี งดงามและน่าสนใจทุกกิจกรรมเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวบาหลี แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทวีปอเมริกา
/
ทะเลสาบหลุยส์ (Lake Louise) แดนสวรรค์สีมรกตแห่งแคนาดา
ทะเลสาบหลุยส์ (Lake Louise) แดนสวรรค์สีมรกตแห่งแคนาดา
ทะเลสาบหลุยส์ (Lake Louise) เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศแคนาดา สวรรค์แห่งธรรมชาติที่ถือกำเนิดขึ้นมาท่ามกลางเทือกเขาสูงใหญ่และพืชพรรณนานาอันเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ งดงามเหนือกาลเวลา…
ทะเลสาบหลุยส์ เดิมชื่อ ทะเลสาบสีมรกต เรียกตามความสวยงามที่เห็น ภายหลังเปลี่ยนชื่อมาเป็น เลค หลุยส์ เพื่อถวายเป็นพระเกียรติแด่องค์ Princess Louise พระธิดาแห่ง Queen Victoria
ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) รัฐแอลเบอร์ตา (Alberta) ประเทศแคนาดา ซึ่งล้อมรอบไปด้วยแนวของเทือกเขาร็อคกี้ เมาท์เทน (Rocky Mountains) สูงกว่าระดับน้ำทะเล ราว 1,730 เมตร
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และทำให้ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อเสียงระดับโลกคือ ผืนแผ่นน้ำสีฟ้าเทอควอยซ์ใสสะอาด มองเห็นพืชพรรณสัตว์น้ำต่างๆ ที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ผสมผสานเข้ากับทัศนียภาพอันโดนเด่นของภูเขาร็อคกี้ที่มีหิมะสีขาวปกคลุมที่ปลายยอดตลอดทั้งปี ทุกสิ่งหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบจนทำให้ที่แห่งนี้งดงามดั่งดินแดนสวรรค์
ที่ทะเลสาบแห่งนี้มีรีสอร์ท The Fairmont Chateau Lake Louise ตั้งอยู่เพียงรีสอร์ทเดียว ใครที่อยากสัมผัสกับวิวทิวทัศน์และดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดอลังการนี้ ทางรีสอร์ทเค้าก็มีห้องพักไว้รองรับโดยสนนราคาจะอยู่ที่คืนละประมาณ 300 เหรียญแคนาดา
ความสวยงามของทะเลสาบหลุยส์จะเปลี่ยนแปลงไปทุกฤดูกาล ใครที่อยากสัมผัสสีสันของทะเลสาบและความงดงามของเทือกเขาพร้อมพื้นพรรณที่เขียวชอุ่ม อากาสเย็นสบาย แนะนำให้ไปหน้าร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) แต่ถ้าอยากสัมผัวกับความเย็นในช่วงที่ทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง และภูเขาที่ถูกย้อมไปด้วยสีขาวโพลนจากหิมะ พร้อมกับการมาเล่นกีฬาฤดูหนาว ก็ควรไปในช่วงหน้าหนาว (ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มกราคม)
กิจกรรมยอดฮิตหลักๆ ของการมาเที่ยวทะเลสาบหลุยส์คือ การล่องเรือในทะเลสาบ, การพายเรือแคนู, การเดินป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ, การปั่นจักรยาน ฯลฯ ส่วนกิจกรรมในหน้าหนาวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นที่ทะเลสาบเลค หลุยส์ คือการเล่นไอซ์สเกต สกี และสโนว์บอร์ด
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ทะเลสาบหลุยส์ (Lake Louise)แดนสวรรค์สีมรกตแห่งแคนาดา เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของทะเลสาบแห่งนี้ งดงามดั่งแดนสวรรค์เลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวแคนาดา แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์ยุโรป
/
อนุเสาวรีย์แห่งการค้นพบ สัญลักษณ์ประวัติศาสตร์แห่งเมืองลิสบอน
อนุเสาวรีย์แห่งการค้นพบ สัญลักษณ์ประวัติศาสตร์แห่งเมืองลิสบอน
อนุเสาวรีย์แห่งการค้นพบ (Monument to the Discoveries) ประติมากรรมชิ้นใหญ่ตั้งตระหง่านี่ไม่ได้เป็นแค่หินสลักธรรมดาแต่คือสิ่งสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของเรื่องราวทางประวัติศาสตร์การเป็นชนชาตินักสำรวจของชาวโปรตุเกสมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 …
ในศตวรรษที่ 15 - 18 ชนชาติที่มีชื่อเสียงในการเดินเรือมากที่สุดก็คงต้องยกให้เป็นโปรตุเกส ตามบันทึกในประวัติศาสตร์โปรตุเกสถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่ออกเดินทางไปทำการค้าขายกับแดนตะวันออกไกล ความทะเยอทะยานที่ไม่มีที่สิ้นสุดในการกางใบเรือออกผจญภัยไปในโลกที่ไม่รู้จัก จนเกิดการค้นพบดินแดนใหม่ๆ ถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อันทรงเสน่ห์และถูกเล่าผ่านอนุเสาวรีย์แห่งการค้นพบ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
บนแผ่นหินที่มีชื่อว่า “Monument to the Discoveries” แห่งนี้ ถือเป็นอนุสาวรีย์แห่งการค้นพบที่ออกแบบให้เหมือนหัวเรือเดินทะเลลำใหญ่ที่มีเหล่านักสำรวจกำลังนำพาเรือลำนี้ออกสู่มหาสมุทรกว้าง บุคคลที่เป็นผู้นำประทับยืนอยู่หัวแถวคือ “Prince Henry the Navigator” ที่ทรงได้รับพระสมัญญานามว่าเป็น “เจ้าชายนักเดินทาง” อนุสาวรีย์ชิ้นนี้สร้างต่อเติมจากของเดิมที่เคยพังทลายมาแล้ว ปีที่เริ่มสร้างคือปี 1960 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 500 ปีการจากไปของ Prince Henry the Navigator
ส่วนบุคคลที่เห็นยืนร่วมกันอยู่คือเหล่าลูกเรือและกลุ่มมิชชันนารีที่ร่วมเดินทางเผยแผ่ศาสนา มีนักวาดแผนที่ นักวิทยาศาสตร์ พ่อค้า รวมแล้วราว 30 คนที่อยู่ด้วยกันเคียงข้าง Prince Henry the Navigator ในทุกเส้นทาง และก็กลายเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในยุโรปด้วยระยะความยาวรวมทางเชื่อม 17.2 กิโลเมตรทอดข้ามแม่น้ำเทกัส และสร้างเป็นสะพาน 2 ชั้น โดยชั้นบนสำหรับรถยนต์ ชั้นล่างสำหรับรถไฟ และก็ช่วยลดปัญหาความหนาแน่นของการจราจรในลิสบอนได้อย่างมาก
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ อนุเสาวรีย์แห่งการค้นพบ สัญลักษณ์ประวัติศาสตร์แห่งเมืองลิสบอน เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของที่แห่งนี้ สุดยอดและมีมนต์ขลังมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวโปรตุเกส แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์รัสเซีย
/
เด็ดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!! 4 ของฝากรัสเซีย เปย์ได้ ราคาสบายกระเป๋า
เด็ดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!! 4 ของฝากรัสเซีย เปย์ได้ ราคาสบายกระเป๋า
นอกจากที่เที่ยวในรัสเซียจะดีงามพระราม 8 แล้ว ของฝากรัสเซีย ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าละลายทรัพย์นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี นั่นก็เพราะของฝากแต่ละอย่างนั้น ล้วนมีเอกลักษณ์ งดงาม ปราณีต และยังแฝงไว้ด้วยเรื่องราวชวนหลงไหลอีกด้วย วันนี้ Planetholidays ก็ได้คัดสรร 4 ของฝากรัสเซียเปย์ได้ ราคาสบายกระเป๋า มาฝากคนที่กำลังจะมีทริปไปเที่ยวรัสเซีย แต่ยังไม่รู้จะซื้ออะไรกลับมาฝากคนที่เรารักดี เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่า 4 ชิ้นที่เราคัดสรรมานี่จะเด็ดดวงยังไง ไปชมกันเล๊ย…
1.ตุ๊กตาแม่ลูกดก (Matreshka)
ชิ้นแรกที่เรานำมาเสนอก็คือ ตุ๊กตาแม่ลูกดก (Matreshka) โดยลักษณะและเอกลักษณ์ของตุ๊กตานี้จะเป็นการนำรูปหน้าของหญิงสาวรัสเซียที่มีใบหน้าอันแสนน่ารักมาวาดลงไปยังแท่งไม้ ซึ่งประวัติความเป็นมาของตุ๊กตาแม่ลูกดกตัวแรกของรัสเซีย ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากตุ๊กตาไม้ของญี่ปุ่น นับว่าเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี ของชาวรัสเซีย หาซื้อง่ายและราคาไม่แพงอีกด้วย
2.ของเล่น (Dymkovo Toys)
ของเล่นก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าขึ้นชื่อของประเทศรัสเซีย โดยของเล่นเหล่านี้มีทั้งปั้นขึ้นมาจากดินเหนียว และที่สร้างจากเส้นด้ายเป็นรูปต่างๆ เช่น สัตว์ นางฟ้าในนิทานหรือวีรบุรุษที่อยู่ในตำนาน เป็นอีกหนึ่งของฝากในรัสเซียที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะช่างฝีมือชาวรัสเซียเค้าสร้างสรรค์อย่างปราณีตจริงๆ…
3.ไข่ฟาแบร์เช (Faberge eggs)
ชิ้นต่อมาเป็น ไข่ฟาแบร์เช (Faberge eggs) ของขวัญสำหรับเทศกาลอีสเตอร์สุดฮิต สร้างขึ้นจากโลหะหรือหินที่มีมูลค่า ตกแต่งด้วยอัญมณีสีสันงดงาม และปิดท้ายด้วยการลงยา แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวก็นิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากเช่นกัน
4.กล่องจิวเวลรี่ (Russian Jewelry boxes)
มาถึงชิ้นสุดท้ายแล้วกับ กล่องจิวเวลรี่ (Russian Jewelry boxes) กล่องไม้แลคเกอร์ที่ช่างฝีมือจะนำแลคเกอร์มาทาซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งเกิดเป็นเงาทั่วทั้งกล่อง พร้อมทั้งวาดภาพลงไปยังฝากล่องในช่วงที่แลคเกอร์ยังไม่แห้งได้อย่างงดงาม ถือว่าเป็นเทคนิคที่ยากมากๆ ช่างฝีมือของรัสเซียนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ เด็ดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!! 4 ของฝากรัสเซียเปย์ได้ราคาสบายกระเป๋า เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับของฝากทั้ง 4 ชิ้นที่เราคัดสรรมา ที่นี้ก็หมดกังวลกันไปเลยใช่ไหมหล่ะ ว่าจะซื้ออะไรกลับไปฝากคนที่คุณรัก ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวรัสเซีย แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์อังกฤษ
/
พระราชวังวินด์เซอร์ ที่สุดแห่งความเก่าแก่คู่ราชบัลลังก์อังกฤษ
พระราชวังวินด์เซอร์ ที่สุดแห่งความเก่าแก่คู่ราชบัลลังก์อังกฤษ
พระราชวังวินด์เซอร์ พระราชวังอันเก่าแก่ที่อยู่คู่ราชบัลลังก์อังกฤษมานานนับพันปี มหาปราสาทขนาดใหญ่ที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรี่ รัชทายาทอันดับที่ 6 ของราชวงศ์อังกฤษ ปัจจุบันยังคงถูกใช้เป็นที่พำนักของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่เสมอ และยังเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศอังกฤษอีกด้วย…
พระราชวังวินด์เซอร์ตั้งอยู่ที่เมืองวินด์เซอร์, มลฑลบาร์คเชอร์ในสหราชอาณาจักร สร้างโดยสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษเมื่อปี ค.ศ.1070 สถาปัตยกรรมเป็นแบบโรมาเนสก์ พระราชวังวินด์เซอร์เป็นพระราชฐานที่ยังมีผู้อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นพระราชฐานที่เก่าที่สุดที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เริ่มสร้าง เนื้อที่การใช้สอยมีทั้งหมดถึง 45,000 ตารางเมตร
ปราสาทวินด์เซอร์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนบน (upper ward) และส่วนล่าง (lower ward) ซึ่งมีหอกลม (round tower) กั้นกลาง
พระราชวังวินด์เซอร์เต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น State Apartments ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยผลงานศิลปะอันทรงคุณค่า ซึ่งเป็นของสะสมของเหล่าราชวงศ์ รวมถึงความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบกอธิคในโบสถ์ St. George ซึ่งเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์แห่งประเทศอังกฤษหลายพระองค์ และประหลาดใจไปกับ Queen Mary’s Dolls House บ้านตุ๊กตาแสนสวยและมีชื่อเสียงที่สุดโลกที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 โดยช่างฝีมือชั้นนำในสมัยนั้น
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มักเสด็จมาประทับที่พระราชวังแห่งนี้ในวันเสาร์-อาทิตย์ และทรงประทับอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน ถ้าใครอยากรู้ว่าควีนประทับอยู่หรือไม่ ให้ดูที่ธงบนหอกลม ถ้าธงอยู่บนยอดเสาแสดงว่าควีนประทับอยู่
อัตราค่าเข้าชม : สำหรับเด็ก ท่านละ ประมาณ 11.50 ปอนด์ (GBP) หรือ คำนวณเป็นเงินไทย ท่านละ ประมาณ 500 บาท (THB) / ผู้ใหญ่ ท่านละ ประมาณ 18.50 ปอนด์ (GBP) หรือ คำนวณเป็นเงินไทย ท่านละ ประมาณ 800 บาท (THB) ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตร และ จำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้า เพราะอาจจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละวันได้
เวลาทำการ : เปิดทุกวันโดยจะแบ่งเป็นสองช่วงดังนี้
เดือนมีนาคม-ตุลาคม เปิดเวลา 9.30 น.- 17.15 น. เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เปิดเวลา 9.45 น. – 16.15 น.
ก็จบกันไปแล้วนะคะ
ทัวร์นิวซีแลนด์
/
พิภพมนตรา มิลฟอร์ด ซาวด์ สุดยอดแดนสวรรค์แห่งนิวซีแลนด์
พิภพมนตรา มิลฟอร์ด ซาวด์ สุดยอดแดนสวรรค์แห่งนิวซีแลนด์
ต้องมนต์สะกดไปกับพิภพมนตรา มิลฟอร์ด ซาวด์ แดนสวรรค์ธรรมชาติแห่งประเทศนิวซีแลนด์ สุดยอดแลนด์มาร์กอันเป็นที่นิยมมากที่สุดในฝั่งเกาะใต้ สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ที่ถูกยกให้เป็นมรดกโลกที่รอให้คุณออกไปสัมผัสและเห็นให้ได้ด้วยตาตัวเองสักครั้งนึง…
มิลฟอร์ดซาวด์ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานแห่งชาติ เขตควีนส์ทาวน์ ในดินแดนส่วนที่เป็นฟยอร์ดแลนด์ (FIORD LAND) ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ของขั้วโลกใต้ซึ่งมีในลักษณะนี้เพียง 2 แห่งในโลก กล่าวคือภูมิประเทศแบบทะเลที่เคยเป็นธารน้ำแข็งในยุคโบราณ กัดเซาะหินทำให้น้ำท่วมแทนที่กลายเป็นอ่าวลึกระหว่างทางท่านจะได้ ชมความงามที่สร้างโดยธรรมชาติทะเลสาบ MIRROR LAKE ทะเลสาบที่ใสราวกระจก เป็นทะเลสาบที่ท่านจะสามารถมองสะท้อนภาพภูเขา ซึ่งเป็นวิวอยู่เบื้องล่าง
การจะเข้าไปยังที่แห่งนี้เราต้องนั่งเรือ Milford Monarch Cruise เรือสำราญนำเที่ยวอันขึ้นชื่อของเกาะใต้ ให้คุณได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติโดยรอบ ชมฟยอร์ด ซึ่งเกิดจากจากเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ประกอบกับบรรยากาศเย็นจากขั้วโลกใต้ และสายน้ำกัดเซาะ ส่งผลให้เกิดเป็นชายฝั่งเว้าแหว่ง ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงามบริเวณชายฝั่ง
ตื่นตาตื่นใจกับภาพของสายน้ำตกอันสูงตระหง่านของ น้ำตกโบเวน ซึ่งมีความสูง 160 เมตร จากหน้าผา พบกับแมวน้ำนอนอาบแดดบนโขดหินอย่างสบายอารมณ์
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ พิภพมนตรา มิลฟอร์ด ซาวด์ สุดยอดแดนสวรรค์แห่งนิวซีแลนด์ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของมิลฟอร์ด ซาวด์ งดงามต้องมนต์สะกดมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวนิวซีแลนด์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday