ประเทศมาเลเซีย

การประมงในมาเลเซียส่วนใหญ่เป็นการประมงขนาดเล็กทำการประมงกระจัดกระจายอยู่ตาม ชายฝั่ง มาเลเซียมีเรือประมงที่ได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 32,672 ลำ ในจำนวนนี้ 20,365 ลำ ทำการประมงอยู่ใน ฝั่งแหลมมาลายู 133 ลำ ในเขตลาบวน 9,836 ลำ ในซาบาร์ และ 2,338 ลำ ในซาราวัก ในจำนวนนี้ร้อยละ 51.6 เป็นเรือประมงติดเครื่องยนต์ ภายในเรือ ร้อยละ 39.3 เป็นเรือติดเครื่องยนต์ภายนอกเรือ และอีกร้อย ละ 9.1 เป็นเรือไม่ติดเครื่องยนต์ ขนาดของตัวเรือร้อย ละ 63 มีขนาดต่ำกว่า 15 ตันกรอส ร้อยละ 24 มีขนาด อยู่ระหว่าง 15-140 ตันกรอส ร้อยละ 8.2 มีขนาด 40- 69.9 ตันกรอสและมีเพียงร้อยละ 3 ที่มีขนาดมากกว่า 70 ตันกรอส ภายใต้กฎหมายการประมงของมาเลเซีย ค.ศ.1985 เรือประมงที่จะทำการประมงในน่านน้ำ มาเลเซียต้องมีใบอนุญาตทำการประมงจากกรมประมงก่อน และเนื่องจากการประมงชายฝั่งของมาเลเซีย ระหว่าง 0-30 ไมล์ทะเล มีจำนวนหนาแน่นมากแล้ว จากการทำการประมงของเรือที่มีขนาดต่ำกว่า 70 ตัน กรอส จึงทำให้มาเลเซียไม่ออกใบอนุญาตเพิ่ม และหันมาส่งเสริมการประมงนอกชายฝั่งตั้งแต่ระดับ 30 ไมล์ทะเลออกไป โดยใช้เรือประมงขนาด 70 ตันกรอสขึ้นไป

 

ผลผลิตการประมงทะเลของมาเลเซียมีประมาณ 1.2 ล้านตันต่อปี โดยร้อยละ 71 มาจากการจับใน ฝั่งแหลมมาลายู ร้อยละ 11 จากรัฐซาราวัก ร้อยละ 3 จากลาบวน และอีกร้อยละ 15 จากซาบาร์ ผลผลิต ร้อยละ 88 ของประเทศมาจากการประมงชายฝั่ง ซึ่งสวนใหญ่มาจากเครื่องมือประมงประเภทอวนลาก และอวนล้อม สำหรับการประมงน้ำลึกตั้งแต่ 30 ไมล์ทะเลออกไปของเรืออวนลาก อวนล้อม และเรือเบ็ด ตวัด ให้ผลผลิตปีละประมาณ 130,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 11 ของผลผลิตทั้งหมด

 

องค์ประกอบของสัตว์น้ำในมาเลเซียมีความหลากหลาย เนื่องจากเป็นสัตว์น้ำหลากหลายพันธุ์ใน เขตร้อน แต่สัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจมากที่สุด ได้แก่ กุ้ง สหพันธรัฐมาเลเซีย (Republic of Malaysia)

ด้านการจัดการประมง ประเทศมาเลเซียได้แบ่งน่านน้ำออกเป็น 4 เขต คือ ABC และ C2 เขต A อยู่ระหว่าง 0-5 ไมล์ทะเล ซึ่งสงวนไว้เฉพาะการประมงพื้นบ้าน เขต B อยู่ระหว่าง 5-12 ไมล์ทะเล สงวน ไว้สำหรับเรือประมงพาณิชย์ขนาดต่ำกว่า 40 ตันกรอส ที่ใช้เครื่องมืออวนลากและอวนล้อม เขต C เป็น เขตตั้งแต่ 12-30 ไมล์ทะเล สำหรับเรือประมงพาณิชย์ ขนาดต่ำกว่า 70 ตันกรอส และเขต C2 คือตั้งแต่ 30 ไมล์ทะเลออกไป ถือว่าเป็นการประมงน้ำลึกสำหรับเรือขนาดมากกว่า 70 ตันกรอส

 

การประเมินทรัพยากรประมงในมาเลเซีย แสดงให้เห็นว่ารัฐซาราวัก และรัฐซาบาร์สามารถ ได้รับการพัฒนาต่อไปได้ ส่วนด้านแหลมมาลายูอาจมีข้อจำกัด เพราะจำนวนเรือมีมากเกินไป ประเทศ มาเลเซียมีการจัดการทรัพยากรประมงแบบระมัดระวัง จึงมีนโยบายลดปริมาณการจับสัตว์น้ำ โดยออก มาตรการจำกัดจำนวนเรือ ไม่ออกใบอนุญาตเพิ่ม เพิกถอนใบอนุญาตของผู้ละเมิดกฎหมาย ประเทศ มาเลเซียไม่มีกฎระเบียบในการให้ชาวต่างชาตินำเรือประมงเข้าไปทำการประมงโดยตรง แต่จะอนุญาต ให้ชาวมาเลเซียซึ่งเป็นผู้ถือใบอนุญาตจับปลาในน่านน้ำมาเลเซียสามารถเช่าเรือประมงต่างชาติเข้าไปทำ การประมงในมาเลเซียได้ โดยผู้ประกอบการไทยที่นำเรือไปให้เช่าจะต้องร่วมทุนกับผู้ประกอบการ มาเลเซียเพื่อดำเนินการกิจกรรมประมงต่อเนื่องด้วย ปลาที่จับได้นำขึ้นท่า ที่มาเลเซียก่อน ซึ่งหากมีปลาที่ตลาดมาเลเซียไม่ต้องการก็สามารถขน กลับไทยได้โดยขออนุญาตทางการมาเลเซียก่อน และทำการขนส่งทาง บกเท่านั้น ซึ่งจะต้องเสียภาษีส่งออกร้อยละ 5 ลูกเรือประมงเป็น ชาวต่างชาติได้ร้อยละ 100 การร่วมทุนทำการประมงดังกล่าวต้องเป็นการ ดำเนินการผ่านการประสานงานระหว่างรัฐต่อรัฐด้วย

 

ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยมีทะเลจีนใต้กั้น ส่วนแรกคือ คาบสมุทรมลายู หรือ มาเลเซียตะวันตก มีพรมแดนทางทิศเหนือติดประเทศไทย และทิศใต้ติดกับสิงคโปร์ ส่วนที่สองคือ ตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว หรือ มาเลเซียตะวันออก มีพรมแดนทางทิศใต้ติดอินโดนีเซีย และมีพรมแดนล้อมรอบประเทศบรูไน มาเลเซียเป็นสมาชิกก่อตั้งของกลุ่มประเทศอาเซียน มีเมืองหลวงคือ กรุงกัวลาลัมเปอร์

 

เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยว มาเลเซีย

travel guide malaysia 2

การขอวีซ่า : โดยปกติแล้ว คนไทยที่จะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย สามารถอยู่ในมาเลเซียได้นาน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่หากประสงค์ที่จะอยู่นานกว่านั้น ท่านจะต้องมีวีซ่า ซึ่งท่านสามารถติดต่อขอรับวีซ่า ได้ที่สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย หรือสถานกงสุลใหญ่มาเลเซีย จังหวัดสงขลา
travel guide malaysia 3
ภาษาที่ใช้ : มาเลเซียมี ภาษามาเลย์ เป็นภาษาประจำชาติ แต่ชาวมาเลย์สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการพูดกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังมีชาวพื้นเมืองบางกลุ่มที่พูดภาษาประจำเผ่าพันธุ์ของตนเองอยู่

สภาพอากาศ : มาเลเซียตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น (Tropical Climate) จึงมีสภาพอากาศที่ร้อนอบอุ่นและชื้นตลอดทั้งปี อุณหภูมิอยู่ในช่วงระหว่าง 22-36 องศาเซลเซียส การตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทาง เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยว

ค่าเงิน และการธนาคาร : มาเลเซียมีหน่วยเงินตราเป็น ริงกิตมาเลเซีย โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 10.42 บาท ต่อ 1 ริงกิต

ระบบไฟฟ้า : ประเทศมาเลเซียมีระบบไฟฟ้าเป็นแบบ 240 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิร์ซ และใช้ปลั๊กไฟแบบสามขาแบน ดังนั้น หากนักท่องเที่ยวประสงค์จะนำอุปกรณ์ไฟฟ้าไปใช้ที่มาเลเซีย ควรพก Adapter ไปด้วย หรืออาจขอยืมจากทางที่พักในมาเลเซียของท่านดูก็ได้
travel guide malaysia 4

การเดินทาง : การเดินทางเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถเลือกเดินทางได้หลายแบบ คือ

– การเดินทางโดยเครื่องบิน : มาเลเซียเป็นประเทศที่มีสนามบินนานาชาติอยู่ถึง 5 แห่งด้วยกัน คือ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ปีนัง ลังกาวี โกตาคินาบาลู และกูชิง ส่วนสนามบินภายในประเทศ มีอยู่ 14 แห่ง ทั่วประเทศ

– การเดินทางโดยรถโดยสารปรับอากาศ : การเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เมืองหาดใหญ่ด้วยรถโดยสารปรับอากาศ แล้วเดินทางต่อเข้าไปยังมาเลเซียด้วยรถตู้ปรับอากาศ หรือรถโดยสารปรับอากาศ วิธีนี้ถือเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกมากและยังประหยัดอีกด้วย

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเดินทางไปมาเลเซียได้โดยการโดยสารรถไฟ หรือ อาจขับรถยนต์ส่วนตัวไปก็ได้ แต่เราไม่แนะนำวิธีการขับรถเข้าไปมาเลเซียเอง เพราะการดำเนินการค่อนข้างยุ่งยาก และมีค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย ส่วนการเดินทางระหว่างเมืองต่างๆ ภายในประเทศมาเลเซียนั้นนับว่า สะดวกมาก การเดินทางด้วยรถโดยสารปรับอากาศจาก กรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังเมืองต่างๆ ในประเทศ จัดว่าสะดวก และประหยัดที่สุด ทั้งยังเป็นวิธีการเดินทางที่คนมาเลย์นิยมมากที่สุดอีกด้วย
travel guide malaysia 5
ข้อแนะนำพิเศษ : สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศมาเลเซีย มีข้อควรระวังคือ อย่าหลงเชื่อรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ตามสถานีรถไฟ สถานีขนส่งรถปรับอากาศ หรือตามสนามบิน ขอให้ท่านตรวจสอบสถานที่ให้ชัดเจนก่อนออกเดินทาง และควรต่อรองราคาให้ดี ท่านมีทางเลือกในการเดินทางอยู่พอสมควร คือ รถเมล์โดยสาร หรือ รถไฟใต้ดิน โดยเฉพาะในกรุงกัวลาลัมเปอร์ การเดินทางและการคมนาคมขนส่งสะดวกสบายมาก มีรถไฟลอยฟ้า และรถไฟใต้ดินถึง 3 สายด้วยกัน และมีราคาประหยัดมาก

แหล่งช้อปปิ้ง : มาเลเซีย ถือว่าเป็นสวรรค์ของการช้อปปิ้งแห่งหนึ่ง ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีร้านค้า และ ช้อปปิ้งเซนเตอร์ กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งไม่ไกลจากโรงแรมในมาเลเซียที่ท่านเลือกเข้าพักอีกด้วย สินค้าสำคัญ ได้แก่ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า เซรามิค เครื่องใช้ไฟฟ้าจากวัตถุโบราณ ไปจนถึง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทันสมัย รวมทั้งเป็นแหล่งรวมของดีไซน์เนอร์ ที่มีชื่อเสียง และศูนย์รวมแฟชั่นยอดนิยมซึ่งมีให้เลือกทุกยี่ห้อจากทั่วทุกมุมโลกเลย ยามค่ำคืนท่านจะตื่นตาตื่นใจไปกับ แสง สี และ เสียง บริเวณสองข้างถนน ยิ่งไปกว่านั้น ท่านจะพบกับตลาดจำหน่ายสินค้าราคาถูก หรือ Night Market ได้ตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศมาเลเซีย และยังจะได้เพลิดเพลินกับสินค้าราคาพิเศษ และอาหารการกิน ที่มีรสชาติถูกปากราคาถูกใจกันอีกด้วย

 

 

travel guide malaysia 6

ธรรมเนียมน่ารู้ ที่ควรปฏิบัติเมื่ออยู่ในมาเลเซีย

1. การทักทายตามประเพณีทางศาสนา หรือการ “สลาม” คือการยื่นมือทั้งสองมาสัมผัสกัน แต่มาบีบแรงหลังสัมผัสมือจะดึงมือกลับแล้วมาไว้ที่หน้าอกเป็นวิธีการ แสดงออกซึ่ง การคารวะหรือทักทาย ที่มาจากใจ ผู้มาเยือนควรทักทายด้วยคำว่า “สลาม”

2. การใช้นิ้วชี้ไปยังสถานที่ สิ่งของ หรือคน ถือเป็นการไม่สุภาพ ในมาเลเซียจะใช้นิ้วโป้งด้านขวาชี้แทนและกำนิ้วที่เหลือไว้กับฝ่ามือ

3. นักท่องเที่ยว หรือผู้เดินทาง ที่เข้าไปยังสถานที่สำคัญทางศาสนา ต้องถอดรองเท้าเสมอ มัสยิดหรือวัดบางแห่งจะมีเสื้อคลุมและผ้าสำหรับคลุมศีรษะไว้ให้สำหรับ สุภาพสตรี

4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องต้องห้าม เนื่องจากหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นที่นับถือของประชากรส่วนใหญ่ในมาเลเซีย

5. ผู้ที่มียาเสพติด หรืออาวุธ ไว้ในครอบครอง มีโทษประหารชีวิตสถานเดียว ไม่มีการลดหย่อน

6. การแต่งกาย นักท่องเที่ยวต้องแต่งกายให้เหมาะสม หากจะเข้าชมมัสยิด หรือวัด สำหรับสตรีควรแต่งกายสุภาพ กระโปรงยาวคลุมเข่า ห้ามใส่เสื้อทีเชิ้ต เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ และรองเท้าโปร่ง ผู้เยือนชาย ควรใส่เสื้อมีปก และกางเกงขายาว ผู้เยือนหญิง ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่เปิดมากเกินไป

 

 

 

travel guide malaysia 7

เมืองหลวงของประเทศมาเลเซียที่เป็นศูนย์รวมความเจริญในทุกด้าน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ประวัติศาสตร์ความเป็นมาไม่ต่ำกว่า 200 ปี จากเมืองขุดเหมืองแร่ในอดีตที่เจริญขึ้นมาเป็นเมืองเศรษฐกิจการค้าใหญ่แห่งหนึ่งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรุงกัวลาลัมเปอร์จึงมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความบันเทิงหลายแห่ง

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น จัตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) ตึกแฝดเปโตรนาส (Petronas Twin Towers) พิพิธภัณฑ์การเงินเมย์แบงค์ (Maybank Numismatic Museum) สวนตามาน ตาสิก ติติวังสา (Taman Tasik Titiwangsa) บ้านพักนายกรัฐมนตรี (Galeria Seri Perdana) สวนสัตว์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

(National Zoo of Malaysia) มัสยิดจาเมก (Masjid Jamek) ตลาดกลาง (Central Market) และอาคารสุลต่านอับดุลซามัด (Sultan Abdul Samad Building) เป็นต้น

ไปเที่ยวช่วงไหนดี สามารถเที่ยวได้ทั้งปีแต่จะมีฝนตกชุกในช่วงเดือนมีนาคม-เดือนเมษายน และระหว่างเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน

 

 

มะละกา (Malacca)

travel guide malaysia 8

เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียอาคเนย์มาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล พูดง่ายๆ ว่าเป็นเมืองท่าหน้าด่านของแดนขวานทองเลยก็ว่าได้ จึงนับได้ว่ามะละกาเป็นแหล่งประวัติศาสตร์หลักของประเทศมาเลเซียในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจการค้า ศาสนาและงานศิลปะแขนงต่างๆ ที่ผสมผสานกันระหว่างยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย มะละกาเป็นเมืองในทวีปเอเชียที่มีงานสถาปัตยกรรมของยุโรปโดดเด่นมากเมืองหนึ่ง นอกจากนั้นเมืองนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องชายหาดขาวและทิวต้นมะพร้าวริมอ่าวอันสวยงามอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้แก่ วัดคริสต์ (Christ Church) โบสถ์เซนต์ปอล (St Paul’s Church) ป้อมปราการโบราณอาฟาร์โมสา (A Formesa Fort) พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม (Heritage Centre) ถนนเก่าจ็อนเกอร์ (Jonker Street) พิพิธภัณฑ์ทางทะเล (Coral Wonderland) จัตุรัสโปรตุเกส (Red Square/ Dutch Square) มัสยิดโบราณตรังเกรา (Tranquerah) บ่อน้ำโบราณ ตลาดนัดกลางคืน (Pasar Malam) และวัดเช็งฮุนเต็ง (Cheng Hoong Teng Temple) เป็นต้น

 

 

ไปเที่ยวช่วงไหนดี สามารถเที่ยวได้ทั้งปีแต่ในระหว่างเดือนกันยายน-เดือนตุลาคมจะมีฝนตกหนักและมักเป็นฤดูที่เกิดไฟป่าได้บ่อยครั้ง

เกาะลังกาวี (Langkawi)

travel guide malaysia 9

หมู่เกาะกว่าร้อยเกาะอันเป็นที่เลื่องลือด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ มากกว่าไปกว่านั้นลังกาวียังมีหมู่เกาะลักษณะพิเศษที่เป็นหินอ่อนทั้งเกาะอยู่ถึง 36 เกาะ ลังกาวีถือเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมทั้งของชาวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้แก่ จัตุรัสนกอินทรีย์ อุทยานดอกไม้ตามันลาเจนด้า (Taman lagenda) ซึ่งนอกจากจะเป็นที่รวบรวมพันธุ์ไม้นานาชนิด มีอุโมงค์ต้นไม้ยาว 15 เมตรอันสวยงามแล้ว สวนแห่งนี้ยังมีส่วนที่จัดเป็นสวนใต้น้ำ จัดแสดงปลาและพืชใต้น้ำในเขตของลังกาวีอีกด้วย หากยังตื่นตาตื่นใจไม่พอ ลังกาวีก็มีพิพิธภัณฑ์ทางน้ำ-อะควาเรียม-โลกใต้น้ำ (Langawi Under Water World) อุทยานสวนนกกลางแจ้ง (Langawi Bird Paradise) หรือจะไปชมพิพิธภัณฑ์ข้าวและนาข้าวที่ลามันปาดีลังกาวี (Laman Padi Langawi) เยี่ยมชมพระราชวังพักร้อนลังกาวี (Summer Palace) ไปช้อปปิ้งและดูการแสดงพื้นบ้านพร้อมชิมอาหารชาวเกาะกันที่หมู่บ้านโอเรียลเต็ล (Langawi Oriental Village) นั่งเคบิ้ลคาร์ชมวิวจากมุมสูง ไปชมความงามของน้ำตกเจ็ดบ่อ (Seven Falls) และน้ำตกทุเรียน (Durian Perangin Waterfall) ไปผจญภัยล่องเรือสำรวจถ้ำกันที่อุทยานสุไหงคีลิม (Sungai Kilim) ชมพิพิธภัณฑ์ของที่ระลึกและบรรณาการจากผู้นำทั่วโลกกันที่ แกลเลอเรียเปอร์ดานา (Galeria Perdana) และพักผ่อนรับลมทะเลกันที่ชายหาดแหลมตันหยงรู (Tanjung Rhu)

ไปเที่ยวช่วงไหนดี ฤดูท่องเที่ยวของลังกาวีจะเริ่มต้นที่เดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน เพราะเป็นช่วงที่ทะเลสงบไม่มีคลื่นลมและอากาศเย็นสบาย

 

เกาะปีนัง (Penang)

travel guide malaysia 10

เมืองสุดทันสมัยแห่งหนึ่งของมาเลเซีย แหล่งช้อปปิ้งในดวงใจของใครหลายคน อีกทั้งยังเป็นไชน่าทาวน์ขนาดย่อมๆ ปีนังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาช้านานไม่ต่างจากมะละกา ในทุกปีราวเดือนพฤษภาคม จะมีเทศกาลการแข่งขันเรือมังกรนานาชาติที่ถือว่าเป็นเทศกาลสำคัญและมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามายังปีนังเพื่อเข้าร่วมเทศกาลเป็นจำนวนมาก ในปัจจุบันเป็นเมืองชายทะเลและเมืองตากอากาศขึ้นชื่อ

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้แก่ ถนนย่านเมืองเก่าจอร์จทาวน์ (Street of George Town) ที่มีสถาปัตยกรรมอาคารยุโรปโบราณอันสวยงามและยังเป็นเขตเมืองเขตแรกของปีนังอีกด้วย เยือนป้อมฟอร์ตคอร์นวอลลิส (Port Cornwallis) ป้อมปราการด่านแรกของปีนังในอดีต ชมการจัดแสดงวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวปีนังกันที่พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ปีนัง (Penang Museum and Art Gallery) ขึ้นเขาชมวิวที่ปีนัง ฮิลล์ (Penang Hill) ชมสถาปัตยกรรมจีนโบราณและสักการะเทพที่ศาลจีนเก่าแก่ คูกงสี (Khoo Kongsi) ไหว้พระรับพรที่วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ที่มีสถาปัตยกรรมจีนผสมพม่าและไทย วัดเขาเต่าหรือเค็ก ลก ซี (Kek Lok Si-Turtle Temple) เยี่ยมชมคฤหาสน์อายุกว่าร้อยปีของคหบดีผู้มั่งคั่งในอดีต คฤหาสน์เฉิงฟัตเต๋อ (Cheong Fatt Tze Mansion) ชมความงามของมัสยิดอันโดดเด่นของเกะปีนัง มัสยิดกัปปิตันเคอลิง (Kapitan Kelling Mosque) และแน่นอนว่ามาปีนังทั้งทีต้องไปเยือนหาดชื่อดัง บาตู เฟอร์ริงงี (Batu Ferringhi) และหาดเตลุก บาฮัง (Teluk Bahang) ไม่ไกลจากหาดตาลุก บาฮังก็เป็นที่ตั้งของฟาร์มผีเสื้อ (Butterfly Farm) ของเกาะอีกด้วย ไปเที่ยวช่วงไหนดี ปีนังสามารถเที่ยวได้เกือบทั้งปี ยกเว้นในช่วงฤดูมรสุมที่มีฝนตกชุกและเป็นช่วงเกิดไฟป่าในราวเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน

 

ปะหัง (Pahang) ใกล้กับสนามบินเมืองกลันตัน (Kuantan)

travel guide malaysia 11

เขตท่องเที่ยวธรรมชาติขุนเขาของมาเลเซียที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อยไปกว่าเกาะต่างๆ และยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง เช่น อุทยานทามัน เนการา (Taman Negara) ซึ่งเป็นเขตป่าฝนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีกิจกรรมล่องเรือ สำรวจถ้ำ เดินป่า ดูนก ปีนเขา และว่ายน้ำในบ่อน้ำธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ อุทยานแห่งชาติเอ็นเดา-รอมปืน (Endau-Rompin National Park) ที่เป็นแหล่งสงวนพันธุ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น แรดสุมาตรา

นอกจากอุทยานแห่งชาติสองแห่งนี้แล้ว ปะหังยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกหลายแห่ง เช่น เกนติ้ง ไฮแลนด์ (Genting Highlands) หุบเขาแห่งความบันเทิงที่มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ราอร์ทที่พักครบวงจรในบรรยากาศเย็นสบายท่ามกลางหุบเขาเก็นติ้ง จุดหมายท่องเที่ยวนิยมของชาวไทยมานานแสนนาน คาเมรอน ไฮแลนด์ (Cameron Highlands) แหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ของเกาะที่มีธรรมชาติงดงามของไร่ชา สวนดอกไม้และสวนผลไม้นานาชนิด ว่ากันว่าหุบเขาคาเมรนนี้มีโอโซนที่ปลอดโปร่งโล่งสบายปอดมากที่สุดของมาเลเซีย นอกจากหุบเขาแล้ว ปะหังก็ยังมีเกาะสวยงาม แหล่งดำน้ำชั้นเลิศที่ เกาะทิโอมัน (Pulau Tioman) และอย่าลืมแวะหาดเตลก เชมพาดัก (Teluk Cempedak) หาดทรายขาวทอดตัวยาวชื่อดังของปะหังที่เป็นที่แหล่งแล่นเรือใบยอดนิยมของชาวเมือง

 

ไปเที่ยวช่วงไหนดี ปะหังสามารถเที่ยวได้ทั้งปีแต่จะมีฝนตกชุกในช่วงเดือนมิถุนายน-เดือนตุลาคม ซึ่งไม่เหมาะแก่การลงดำน้ำและกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ เพราะคลื่นลมค่อนข้างแปรปรวน แต่สามารถเที่ยวในบริเวณหุบเขาได้ ซึ่งช่วงนี้จะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน ในขณะที่ช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ราวเดือนธันวาคม-เดือนมีนาคมจะเป็นฤดูท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาปะหังค่อนข้างเยอะ และที่พักจะหายาก ต้องทำการจองล่วงหน้านานกว่าปกติ

บทความอื่นๆ